รีวิว CLINIQUE Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Duo

Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Duo
อันดับ
CLINIQUE
Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Duo
SHARE
itosky's profile picture
itosky
Preview
.. และแล้ว Clinique ก็เข้ามาช่วยกอบกู้ผิวหน้าของเราอีกครั้ง!  ไม่รู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญหรือเพราะว่าเวลาที่ผิวเราพังแล้วเราจะนึกถึง Clinique ทุกทีก็ไม่รู้นะคะ แหะแหะ  ช่วงก่อนหน้านี้ได้ Clinique ID มาช่วยในช่วงที่เราแทบไม่บำรุงเลย  เพราะเหนื่อยมาก ๆ จนไม่มีอารมณ์จะทาอะไร  แต่พอได้เจอน้องปุ๊บหน้าก็ฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว  เริ่ดมากจริง ๆ ไอเท็มนี้เราคอนเฟิร์ม  ตอนนี้มีสองสีแล้วด้วยค่า (และคาดว่าจะตามมาครบทุกสีแน่นอน)  ส่วนช่วงนี้หน้าเราไม่ได้ขาดการบำรุงอะไร  แต่ปั่นงานหนักจนกินหนักตามไปด้วย  โอ๊ย  ผลคือหน้าบวมมากค่า T.T  เพราะเราเป็นคนกินรสจัด  กินดึกอีกด้วยเพราะถนัดทำงานตอนกลางคืนตื่นเย็นนอนเช้า  เอ้า เรียงลำดับถูกมั้ยเนี่ย ><  ยิ่งถ้าใครอายุ 30+ ต้องเข้าใจแน่นอนว่าปกติผิวตรงบริเวณแก้มจะบวมและเหนียงจะหย่อนคล้อยง่ายมากหากไม่เลือกสรรให้ดี ๆ ทั้งเรื่องอาหารและสกินแคร์  และหากใครยังอายุไม่ถึง 30 ก็อาจจะไม่เข้าใจว่าหน้าตึงกระชับมันดีกว่าหน้าขาวกระจ่างใสยังไง ..  ใช่ค่ะ  พี่ก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้วค่า (ปาดน้ำตา)  พอ Clinique มีสกินแคร์ตัวใหม่ออกมาชื่อ  Clinique Fresh Pressed Repair Clinical MD  เราก็ตื่นเต้นมากเช่นเคยตามประสาสาวเลขสามผู้สนุกและมีความสุขกับการทาสกินแคร์มากกว่าการเข้าคลินิกความงามใด ๆ คุณน้องรุ่นนี้ตอบโจทย์เรามาก ๆ เพราะออกมาทีเดียวสองสูตร  สูตรแรกคือ Revolumize (กระปุกสีม่วงเข้ม) ที่ช่วยเรื่องการเติมเต็มให้กับผิว  และอีกสูตรคือ Resculpt (กระปุกสีม่วงอ่อน) ที่ช่วยยกกระชับใบหน้า  ซึ่งคุณน้องเคลมแรงมากว่าจะออกฤทธิ์คล้ายกับการทำโบท็อกซ์! คุณพี่เลยหูผึ่ง  ตาเบิกโพลง  และกระหยิ่มทันที  นั่นไง!  นี่มันครีมสำหรับชั้นหนิ!  ว่าแล้วก็พุ่งไปเคาน์เตอร์เช่นเคยค่ะ  ตอนแรกไปรับมาแบบซอง  ก็เป็นท้อเล็กน้อย 55 แบบว่ามันจะพอให้เห็นผลรึ? นี่ก็ไม่อยากตัดสินใครง่าย ๆ เลยเก็บไว้ก่อน  เผื่อมีโปรอะไรดี ๆ ค่อยซื้อมาลองแบบนาน ๆ ให้เห็นผลจริง  แต่ทาง cosmenet ใจดีกับสาวรุ่นเฟี้ยวอย่างเรา  แจกแซมเปิ้ลแบบหลอดละ 7ml สำหรับทั้งสองสูตร  เราเลยได้โอกาสลองทันที  ไหน ๆ หน้าก็บวมและฮอยขนาดนี้  กำลังกายก็ไม่ได้ออกมานานแล้ว  หยุดกินก็ไม่ได้อีก  หมดตัวช่วยทุกอย่าง  อย่ารีรอ  ไปค่ะ!เนื้อครีมของทั้งสองสูตรนี้มีสีต่างกัน  หากคุณซื้อแบบ DUO ที่มีมาพร้อมกันทั้งสองสูตรก็สังเกตความแตกต่างได้ไม่ยากค่ะ  นอกจากนี้เนื้อสัมผัสยังต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย  แต่ถ้าใครชอบสูตรไหนเป็นพิเศษก็สามารถซื้อสูตรนั้นแยกได้เลย  ส่วนเราขอเกริ่นไว้ก่อนตรงนี้เลยว่าพอได้ลองใช้แล้ว  วันต่อมาเราพุ่งไปเคาน์เตอร์ทันทีเพื่อจะซื้อสูตร Resculpt ค่าา  (คืออยู่ ๆ ก็มีโนทิฯ โปรโมชั่นเด้งขึ้นมาว่าแต้ม The One กับบัตรเครดิตลด 25%! อีกต่างหาก  อะไรมันจะลงตัวขนาดนี้!  แต่สุดท้ายดันไปไม่ทันห้างปิด  ไว้เจอกันใหม่ช่องทางอื่นนะคะคุณน้อง  พี่สัญญา  ก็บอกแล้วว่านอนเช้า  ตื่นเย็นเนอะ T.T  เสียดายโปรมาก ฮืออ)1. ขอเริ่มที่สูตร Revolumize ก่อน  สูตรนี้เคลมว่าช่วยเติมความชุ่มชื้น  เพิ่มวอลุ่มให้ผิวฟู  โดยเฉพาะส่วนที่มีริ้วรอยหรือร่องลึกอย่างร่องแก้มหรือหน้าผาก  เนื้อครีมออกม่วงพาสเทสสีสวยเหมือนทุ่งลาเวนเดอร์  กลิ่น .. ทำไมเหมือนโกโก้ก็ไม่รู้ สงสัยจะหิว ฮือ ๆ  ส่วนเนื้อสัมผัสจะหนืด ๆ นิดนึง  รู้สึกว่าทายากไปนิดดดด แต่เราแก้ปัญหาด้วยการวอร์มครีมที่ฝ่ามือแล้วประกบลงบนหน้า  แล้วเอาอุ้งมือกดและปาด ๆ ขึ้นไปด้านบน  ซึ่งเป็นวิธีที่เราใช้ตามปกติอยู่แล้ว  โดยเราจะเน้นช่วงหน้าผาก ร่องแก้ม หน้าแก้ม และเหนือแก้มขึ้นไปทางใต้ตา  เพราะบริเวณนั้นก็มีร่องลึกตามสไตล์คนนอนน้อย  ไม่ว่าอายครีมใด ๆ ก็คงช่วยไม่ได้ถ้านอนวันละ 3 ชั่วโมง T.T  ได้แต่ประคองไป  แต่เราก็มีความหวังกับน้องคนนี้นะคะ  ลองทาไปหนึ่งสัปดาห์กว่า ๆ รู้สึกว่าบริเวณที่ทามันดูเต่ง ๆ ฟู ๆ  อิ่มน้ำขึ้นจริง ๆ สังเกตดี ๆ ร่องแก้มกับร่องลึกใต้ตาตื้นเล็กน้อย เราใช้แทนมอยส์เจอไรเซอร์ไปเลย  เพราะรู้สึกว่าเนื้อหนักแล้ว  ซึ่งเพียงพอสำหรับการนอนห้องแอร์  ตื่นมาหน้าไม่มันเยิ้ม  (ชอบ Clinique ก็ตรงนี้!) และการใช้สูตร Resculpt ทาบริเวณร่องลึกใต้ตาไม่ได้ทำให้เราแสบตาแต่อย่างใด  แต่ยังไงผิวหน้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ต้องลองดูด้วยตัวเองนะคะ2.  สูตร Resculpt! (จะตกใจทำไม ><!)  อ่า .. ก็คือตื่นเต้นเพราะอย่างที่บอกว่าประทับใจมากจนต้องพุ่งตัว 55  สูตรนี้เป็นเนื้อเจลสีขาว  บางเบามากกก  นี่ชอบมากกกก  เดี๋ยวนี้อินกับสกินแคร์ที่เป็นเนื้อเจล  น้องคนนี้เลยได้คะแนนไปเป็นพิเศษ  ยิ่งไม่มีกลิ่นและซึมเร็วนี่ได้ใจไปเลยค่า  เราจะทาน้องคนนี้บริเวณกรอบหน้าและตรงเหนียงใต้คาง  โดยใช้วิธีเดิมปาดให้ทั่วก่อนแล้วกด ๆๆๆ ยก ๆ ขึ้นไปค่ะ และถ้าครีมเหลือก็จะเอาลงมาทาคอและหน้าอกด้วย  (แต่มันก็ไม่ค่อยเหลือเนอะ  ครีมก็ซึมไว  ซึมเก่งงง)  ส่วนเรื่องผลลัพธ์ทุกคนคงสนใจว่าช่วยยกหน้าได้จริงมั้ย  สำหรับเรานะคะ  คือหน้าเรากระชับขึ้นจริง ๆ ตั้งแต่การใช้ครั้งแรก  แต่เราตั้งใจใช้มากนะคะ  เพราะตอนทาเราจะกด ๆๆๆ ครีมให้เข้าหน้า  และเอาฝ่ามือพยายามยกผิวเราขึ้นไป  ที่ทำแบบนี้เพราะเราเคยไปเวิร์คชอปที่นึงซึ่งเค้าสอนการนวดยกกระชับใบหน้า  และผู้เชี่ยวชาญเค้าใช้วิธีนี้แล้วมันเห็นผลทันที  ไม่น่าเชื่อเลย  เค้าเอากระจกมาให้ดูข้างที่เค้าทำให้เราเทียบกับข้างที่ไม่ได้ทำ  คือข้างที่ทำมันยกขึ้นไปจริง ๆ ค่า  โห  เราก็อะเมซิ่งในใจมาก  คิดว่าจะเอากลับมาทำกับน้องครีมต่าง ๆ ที่บ้านจากนี้และตลอดไปแน่นอน 55 คือตอนนั้นเราคิดว่า  เฮ้ย  ครีมอะไรก็น่าจะทำได้รึเปล่า  เราอยากทดลองด้วยตัวเองก่อน (คือครีมที่บ้านเยอะมากจริง ๆ  มันต้องมีน้องสักคนที่ช่วยเราได้สิน่า) ซึ่งเท่าที่ลองมายังไม่มีครีมไหนที่ทำได้แบบวันนั้น (แต่เราก็ยังลองไม่หมดนะคะ พอดีมาลัดคิวให้น้อง Resculpt ก่อน ><)  แต่ .. คุณน้อง Resculpt คนนี้ทำได้อ่ะเฮ้ยยย  ดีใจมากมายยย  เราคิดว่าเราถูกกับครีมตัวนี้และวิธีการทาแบบนี้  เราจึงไม่ลังเลที่จะใช้น้องต่อไปอย่างแน่นอน  ส่วนบางวันเราลองทาสไตล์ขี้เกียจแบบปาด ๆ กด ๆ ธรรมดา  ก็ยังพบว่าตื่นมาแล้วหน้าบวมน้อยลงเหมือนว่าตัวครีมไปช่วยสลายส่วนที่มันหย่อน ๆ ตรงบริเวณแก้มส่วนที่เป่งที่สุดของเราออกไปค่า ไม่รู้จะอธิบายยังไง 55 ถ้าใครประสบปัญหาหน้าบวมง่ายอย่างเราคงจะเข้าใจนะคะ  เอาเป็นว่าซื้อต่อค่าสำหรับสูตรนี้!ขอสรุปเลยนะคะ  เพราะเขียนมายาวมากทีเดียว  T.T  เราจะบรรจุน้อง Resculpt ไว้ใน Skincare Routine ของเรา  โดยเฉพาะช่วงพักผ่อนไม่เพียงพอแบบนี้  และถ้าช่วงไหนเราค่อนข้าง healthy ชีวิตดี  และหน้าไม่ได้เหนื่อยมากก็อาจจะพักการใช้ชั่วคราวค่ะ  แต่ปกติเราก็แทบจะไม่ค่อยมีช่วง healthy เท่าไหร่ 55  และนี่ก็คือเหตุผลที่เราต้องทุ่มเทให้กับสกินแคร์ไง ><  ส่วนน้อง Revolumize เราก็ประทับใจในระดับนึง  น้องทำหน้าที่ได้ดีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจะซื้ออย่างไม่ลังเลเมื่อครีมหมด  (แต่ไม่รู้ว่านั่นคือเมื่อไหร่ และยังตะหงิดกับการทาสกินแคร์กลิ่นโกโก้ มันหิวนะ T.T)  ดังนั้น  ต้องขอประกาศตรงนี้เลยว่าน้อง Resculpt ผู้ฝ่าด่านแซงคิวทุกคนขึ้นมาได้ชนะเลิศไปเลยยย  ปรบมือให้น้องค่า !!  ก่อนไปขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกอย่างว่าเรายังมีสิวฮอร์โมนขึ้นตามกรอบหน้าบ้าง  และทั้งสองสูตรนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือทำให้สิวประทุเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด  และนี่เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้เรารัก Clinique เพราะเราไม่ต้องกังวลเลยว่าเมื่อทดลองใช้อะไรใหม่ ๆ จาก Clinique แล้วจะแพ้เพิ่มมากขึ้นมั้ย  ทาแล้วไม่มีเครียดล่วงหน้าค่ะ 55  เยิ้ฟยูนะ~หมายเหตุ : ขออภัยเรื่องสภาพแสงในรูปนะคะ ควบคุมได้ยากจริง ๆ สีผิวไม่ได้เปลี่ยนมากนะคะ มีกระจ่างขึ้นบ้างนิดหน่อยค่า
ใช้เป็นประจำกำลังใช้ กิจกรรม cosmenet.in.th
29 ต.ค. 2562 เวลา 8:11 น.