จากกฏหมายคุ้มครองนโยบายความเป็นส่วนตัว ทางเว็บไซต์ www.cosmenet.in.th ขออนุญาตเก็บ ข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการให้บริการทางเว็บไซต์ ท่านสามารถอัปเดตข้อมูลส่วนตัว และทำความเข้าใจก่อนการยินยอมได้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตกลง
สวัสดีจ้าาาา นี่เป็นกระทู้แรกในปีนี้ 5555555
ตั้งแต่เปิดมาคืองานเยอะหนักมาก โปรเจคถล่มทลายไปเลยจ้า แน่นอนตามคอนเซปต์ Work Hard Travel Harder งานหลักอย่าให้ขาด งานเที่ยวทำเพจก็อย่าให้พัก แต่!! ช่วงเกือบๆ ปลายปีที่ผ่านมา เราใช้เงินและผิวหนักหน่วงฝุดๆ คือไปนอนเต้นท์มา ไปขึ้นเหนือ นอนโฮมสเตย์ แล้วแพ้ฝุ่นจากที่นอน แพ้น้ำด้วย ไม่พอยังท้องเสียอีก โอ้โห้ชีวิตเติมบุญแปป… ยังไม่เท่านั้นพอกลับมากรุงเทพฯ เหมือนพระเจ้าหันหลังให้กับเรา เจอฝุ่น PM2.5 ไปอีก เราอยู่แถวดินแดง แหม่…เขาติด Top เรื่องค่าฝุ่นเยอะตลอดเลยนะจ๊ะ ล่าสุดไปพบแพทย์คออักเสบไปอีก T_T เอาให้สุด!!! แต่ถ้าถามว่าเข็ดกับการเที่ยวมั้ย? ตอบสวนไปเลยว่าไม่มีทาง 55555555555555 พอดีเราอยู่พรรคนี้เงินไม่ค่อยมีก็ยังไม่หยุดเที่ยวอยู่ดี อิอิ
: Product & Price :
อ่ะเกริ่นมายาว จริงๆ จะมา รีวิวไอเทมกู้ผิวแบบด่วนๆ เลือกตัวนี้มารีวิวก่อนเลยเพราะว่า ถูกใจใช่เลยค่าาาา
เป็นสกินแคร์ที่รุ่นพี่เราแนะนำให้ใช้ เพราะพี่แกก็เป็นสายแอดเวนเจอร์ เที่ยวแต่ที่คือเดือดๆ ทั้งนั้นทำให้หน้าพังสุดอะไรสุด ไอเทมที่ว่าคือ ออยล์ออร์แกนิคจากมองโกเลียจ้า ชื่อว่า Lhamour อ่านว่า ลามอร์เด้อ ตอนแรกเราอ่าน ละเมอ แหม่…ตื่นที 555555 ขวดนี้เป็นสูตร Anti-Pollution ค่ะ ช่วงนี้ซื้ออะไรก็จะเน้นสูตรนี้เป็นพิเศษฮับ
สนนราคาอยู่ที่ 1,380 บาท (ขนาด 30ml ) คุ้มจุกๆ
: Packaging :
จากที่เราไปกดตาม FB ของแบรนด์ก็พบว่าขวดนี้เป็น packaging ใหม่ ของเดิมจะสีชาๆ อารมณ์ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจะต้องขวดแบบนี้ ส่วนขวดใหม่จะเป็นสีเทาๆ หม่นๆ ตามรูป เราชอบสีโทนนี้มาก ดูสงบ มี Dropper เรามีสกินแคร์ที่เป็นขวดแบบนี้อยู่เยอะ ชอบเป็นพิเศษเหมือนกำลังทดลองวิทยาศาตร์ 5555555 อีกอย่างมันดูหรู ดูมีราคาดีง่ะ :D พอหมดแล้วก็ชอบเก็บสะสม ><
: กลิ่นและส่วนผสม :
ส่วนกลิ่นจะคล้ายๆ กับมะกรูดหรือตะไคร้บ้านเรา เป็นกลิ่นจาก Lemongrass essential oil ค่ะ ส่วนสีส้มมาจากน้ำมันซีบัคธอร์น เคยได้ยินชื่อบ่อย แต่ไม่รู้สรรพคุณว่าช่วยอะไรได้มั่งจนได้มาลองใช้ออยล์ตัวนี้ก็เลยหาดู ปรากฏว่านางคือส่วนผสมที่ควรค่าแก่การอยู่ในสกินแคร์ดีๆ นะเออ มีวิตามินหลายตัว ดมแล้วรู้สึกโล่งๆ ให้ความรู้สึกเหมือนบำบัดทางอารมณ์ด้วยง่ะ เหมือนไปนวด ^^ ที่สำคัญคือไม่มีสีและกลิ่นสังเคราะห์เจือปน
: เนื้อสัมผัส :
เนื้อออยล์ที่ไม่เหนอะ และซึมไว เราแนะนำปนบังคับให้แฟนใช้ด้วย ตอนแรกนางบ่ายเบี่ยงบอกไม่ชอบออยล์มันเหนอะ เลยจับหันหน้าและป้ายใส่เลยจ้า นางก็ชะงักและถามว่าเนื้อไรอ่ะ ก็บอกว่าออยล์ไง นางชอบเฉยยย บอกว่าไม่มันไม่เหนียว ก็อธิบายนางไปว่า จริงๆ แล้วคนหน้ามันควรที่จะใช้ออยล์ เพราะที่เราหน้ามันเกิดจากหน้าแห้งเกินทำให้น้ำมันผลิตออกมา การใช้ออยล์ทำให้ผิวบนใบหน้าเราสมดุลกำลังดี ซึ่งนางก็พยักหน้าหงึกหงักแต่ก็ไม่รู้ว่าเข้าใจจริงๆ รึเปล่า 555555
: วิธีใช้เจ้าขวดนี้ :
ใช้หลังจากลงเซรั่มแล้ว
· ตอนเช้าแนะนำให้ใช้ 2-3 หยดพอ
· ตอนเย็นก่อนนอนใช้ 3-5 หยดให้บำรุงผิว ฟื้นฟูที่แท้ทรูได้เต็มที่
หลังจากนั้นก็ลงครีมบำรุง ถ้าเป็นตอนเช้าก็แต่งหน้าได้ตามปกติ อย่างที่บอกว่าเนื้อมันไม่เหนอะ เราสามารถใช้ตอนรีบๆ ได้ เพราะว่าแต่งหน้าต่อได้ทันที เริ่ด ปรบมือสิบครั้งปฏิบัติ!!
ล่าสุดไปเที่ยวมาก็ติดไปใช้ด้วย เป็นการ (รีบ) พักผ่อนตั้งแต่ต้นปี เราไปนอนที่พักริมทะเลที่เกาะสีชัง เพิ่งเปิดใหม่ ก็เลยแต่งหน้าอ่อนๆ โชว์ผิวสบายๆ ใครที่อยากพักผ่อนเสาร์อาทิตย์ไม่ต้องใช้วันลา แนะนำเลย เกาะสีชัง ชลบุรี ขับรถจากกรุงเทพฯ 2 ชั่วโมงถึง หรือจะ One Day Trip ก็ได้นะคะ
ตัวเด่นประจำทริป
จบแล้วสำหรับการรีวิวกระทู้แรกแห่งปี 5555555555 เดี๋ยวจะรีบมาอีก มีอีกหลายไอเทมที่อยากรีวิวมากกก เพราะปีนี้เรามุ่งมั่นจะใช้ดูแลผิวหน้าอย่างจริงจังมากกว่าปกติ เนื่องจากจะเที่ยวหนักกว่าเดิม 555555555 ปีที่แล้วเที่ยวกลับมาก็ต้องฟื้นฟูตามไป คราวนี้กะจะดูแลไปพร้อมกับเที่ยวเลย จะได้จัดหนักแบบจุกๆ บัยยยย ><
ดีงาม ^^