เคยได้ยินกันไหมคะว่า การเดินวันละ 10,000 ก้าว ช่วยทำให้มีสุขภาพที่ดีได้และการเดินออกกำลังกายยังช่วยทำให้หน้าท้อง
ฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้นอีกด้วย ดูจะเป็นวิธีการออกกำลังกายที่แสนง่าย สะดวก ไม่ต้องห่วงว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย แต่ไม่ใช่แค่เดินเฉยๆไปเรื่อยๆนะคะ ไปดูเทคนิคการเดินออกกำลังกายที่ถูกต้อง เบิร์นไขมันอย่างได้ผลกันดีกว่า
เดินตัวตรง ท่าทางในการเดินออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ หน้าตรง เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ควรเกร็งคอ ไหล่ และหลัง ท่านี้ช่วยผลดีต่อกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบนและหน้าท้องได้ออกกำลังกายค่ะ
แกว่งแขนขณะเดิน ง่ายๆแค่เพียงแกว่งแขนไปตามจังหวะการเดินเท่านั้น ก็ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีมากขึ้น แต่ถ้าอยากให้ร่างกายเผาผลาญได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมก็สามารถเร่งจังหวะการแกว่งแขนได้ ช่วยให้ไขมันที่หน้าท้องหายไปแน่นอน
ความยาวที่เหมาะสม ความยาวของแต่ละก้าวมีความสำคัญต่อการเดินเพื่อลดไขมันหน้าท้อง ระยะก้าวที่สม่ำเสมอจะช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้โดยไม่เกิดการสะดุดค่ะ
ยกเข่าสูงเป็นท่าที่ทำให้ร่างกายอยู่ในท่าคล้ายกับท่าครันช์ ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกายที่เน้นส่วนท้องโดยตรงช่วยเผาผลาญไขมันตรงหน้าท้องได้เป้นอย่างดีค่ะ
เดินในทางลาดชัน ไม่ว่าจะเป็นทางที่ลาดขึ้น หรือบันได จะทำให้เราต้องออกแรงในการเดินมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายต้องเผาผลาญพลังงานจำนวนมากเพื่อใช้ในการเดิน ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณกล้ามเนื้อลดลงได้
สาระน่ารู้– เดินให้ได้วันละประมาณ 6.5 กิโลเมตร ช่วยเผาผลาญพลังงาน 400 แคลอรี่– เดิน 1 ไมล์ เท่ากับ 1.6 กิโลเมตร หรือ 2,000 ก้าว เผาผลาญพลังงานได้ 100 แคลอรี่– หากอยากเดินให้เห็นผล ควรเดินอย่างน้อย 15 นาทีต่อวัน และ 3 วันต่อสัปดาห์– การเดินเร็วหรือจ็อกกิ้งและการเดินขึ้นลงบันไดช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการเดินปกติ
ถ้าใครที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายมากนัก สามารถเปลี่ยนจากการออกกำลังกายเฉพาะส่วนมาเป็นการเดินออกกำลังกายก็สามารถฟิตแอนด์เฟิร์ม และสุขภาพดีได้เหมือนกัน สุดท้ายก่อนจะหยุดเดินอย่าลืมผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่นเดินให้ช้าลง หรือจะใช้การยืดเส้นยืดสายอีกครั้ง เพื่อช่วยให้ระบบต่างๆ ลดการทำงานลง แล้วกลับคืนสู่สภาวะปกติด้วยนะคะ