Office Syndrome หรือ Postural syndrome เป็นอาการยอดฮิตที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย
ไม่ต้องทำงานออฟฟิศ ก็สามารถเป็นกันได้นะคะ เกิดมาจากการนั่ง ยืน เดิน ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม
การใส่รองเท้าส้นสูง การสะพายกระเป๋าที่หนักเกินไป สิ่งเหล่านี้ เมื่อสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มจากอาการปวดเมื่อย ไปจนถึงปวดร้าวไปยังส่วนอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายในอนาคตได้เลยค่ะ
วันนี้ หนึ่งจะพาทุกคนไปทำกายภาพบำบัดกัน
ต้องบอกว่านี่คือครั้งแรกของหนึ่งเหมือนกันค่ะ ซึ่งจะบอกว่าดีมาก แตกต่างจากการไปนวดจับเส้นทั่วไป
เพราะกายภาพ ช่วยแก้ปัญหาทีมีตั้งแต่โครงสร้างภายใน รวมถึงพฤติกรรมภายนอกเลยค่ะ
ตามมาชมกันเลยค่า
▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒▒
อันดับแรก เมื่อหนึ่งไปถึงที่คลินิก เค้าก็จะให้กรอกประวัติก่อนค่ะ
และก็จะมีนักกายภาพบำบัดมาสอบถามอาการเราเบื้องต้น
เช่น เรามีอาการเป็นยังไงมา ปวดตรงไหน ปวดมากแค่ไหน พฤติกรรมการใช้ชีวิต
กิจวัตรประจำวันเป็นยังไง แล้วก็จะให้ประเมิน ระดับความเจ็บปวด (pain scale)
โดยหนึ่งให้ตัวเองอยู่ 5 ค่ะ เพราะมีปวดล้าบ้างในบางวัน แต่ไม่ได้เป็นบ่อย
ซึ่งจุดที่มักมีอาการของหนึ่งคือ ช่วงไหล่ค่อนไปทางสะบักฝั่งขวา
เมื่อนักกายภาพประเมินเบื้องต้นโดยการสอบถามแล้ว ก็จะมีการตรวจการเคลื่อนไหวของคอ
ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ กำลังกล้ามเนื้อ และทำ Posture Screen
ซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะของทางคลินิกเลยค่ะ โดยนักกายภาพจะ Mark จุดต่างๆที่ร่างกายของเรา
ตั้งแต่หัวถึงเท้าเลย และใช้โปรแกรมวิเคราะห์ความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย เพื่อวางแผนการรักษา และแก้ไขความผิดปกติ ให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง
หน้าตาของผลการวิเคราะห์จะออกมาแบบนี้เลยค่า
? ? ?
เมื่อประเมินทุกอย่างเสร็จ ก็ถึงเวลาขึ้นเขียงแล้วค่า นอนบนเตียงก่อนเลย
นักกายภาพจะให้เรานอนบนหมอนอุ่น เหมือนเป็นการวอร์มกล้ามเนื้อบริเวณนั้นก่อนค่ะ
โดยความร้อนแบบพอทนได้ค่ะ หากร้อนเกินไป ก็มีกริ่งที่หนึ่งถือในมือ สามารถกดแจ้งได้ถ้าทนไม่ไหวค่ะ
ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
หลังจากนั้นก็จะเริ่ม การบำบัดรักษาด้วยมือหรือหัตถบำบัด (Manual therapy)
เป็นการรักษาด้วยการใช้เทคนิคเฉพาะ โดยใช้มือของนักกายภาพบำบัด
ในการปรับหรือจัดโครงสร้างร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นข้อต่อ กล้ามเนื้อ หรือเส้นประสาท
เพื่อให้โครงสร้างนั้นๆ ถูกปรับให้อาการปวดลดลงหรือเพิ่มการเคลื่อนไหวมากขึ้นค่ะ
เราก็นอนสบายๆได้เลย นักกายภาพก็จะอธิบายตามไปด้วย ทำให้เราได้ความรู้
และเข้าใจอาการที่เป็นอย่างถูกต้องมากขึ้นด้วยค่ะ
ขั้นตอนต่อมา คือการรักษาที่เรียกว่า Shock wave therapy หรือ การรักษาด้วยคลื่นกระแทกช็อคเวฟ เป็นการทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปยังเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง บริเวณที่มีการอักเสบหรือบาดเจ็บ
เพื่อให้เกิดการเร่งกระบวนการซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นใหม่จากการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ทำให้มีการสร้างหลอดเลือดฝอยใหม่มาเลี้ยงบริเวณนั้นๆ มากขึ้น ช่วยกระตุ้นให้เนื้อเยื่อหลั่งสาร
ลดการอักเสบและยับยั้งตัวรับรู้ความเจ็บปวด รวมถึงทำให้มีการกำจัดของเสีย
และเพิ่มการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองให้ดีขึ้น
ความรู้สึกขณะทำ เหมือนถูกทุบเบาๆ คือ มีความหนักนิดหน่อย นักกายภาพ ก็จะเลือกปล่อยคลื่น
แบบเร็วๆ ถี่ๆ บางทีก็ช้าๆ เป็นจังหวะ แต่ไม่เจ็บเลยค่ะ เราก็นอนเฉยๆไปเลย เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายไปเรื่อยๆ ว่ากำลังทำอะไร ขั้นตอนนี้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีค่ะ
หลังการทำช็อคเวฟ นักกายภาพบำบัดใช้การรักษาโดย High power laser
มาช่วยในเรื่องการกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
โดยกลไกการปรับพลังงานของเซลล์ (ATP) จะกระตุ้นการขนส่ง oxygen ไปยังภายในเซลล์ที่รวดเร็วขึ้น ทำให้เซลล์มีการซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ที่รวดเร็วขึ้นมากขึ้น
โดยขั้นตอนนี้ ก็ไม่เจ็บอีกเช่นกันค่ะ เรียกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เหมือนเวลาเราไปเลเซอร์ความงาม
ที่จะรู้สึกเหมือนหนังยางดีดนะคะ อันนี้คือชิวมาก ใช้เวลาสั้นๆ ไม่ถึง 5 นาทีค่ะ
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่า
เมื่อรักษาเสร็จแล้ว นักกายภาพบำบัดจะมีการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย
ให้เราสามารถกลับไปทำเองที่บ้าน เพื่อปรับโครงสร้างร่างกายให้ดีขึ้น
เป็นการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้อีก
อย่างกรณีของหนึ่ง จากการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม จะมีความผิดปกติเช่น ศีรษะยื่นไปทางด้านหน้า
หลังค่อมเล็กน้อย ร่วมกับเชิงกรานบิดเทไปทางด้านหน้า นักกายภาพ จึงสอนท่าออกกำลังกาย
ในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและเสริมกำลังกล้ามเนื้อเพื่อค่อยๆ ปรับโครงสร้างให้กลับมาปกติมากขึ้นค่ะ
✨ สรุป ประสบการณ์กายภาพบำบัดครั้งแรก รักษาอาการ Office Syndrome ✨
ต้องบอกว่า เป็นครั้งแรกที่ดีมากกกกกกค่า ประทับใจสุดๆ
หนึ่งมีอาการที่กล้ามเนื้อบริเวณบ่าขวา ซึ่งการมาทำกายภาพบำบัดที่นี่ ช่วยได้เยอะมาก
วันแรกที่ทำเสร็จอาจมีอาการปวดที่บ่าอยู่บ้างจากการทำ Shock Wave
เหมือนเวลาเราไปนวดกลับมาใหม่ๆ ซึ่งเป็นปกติ แต่หลังจากนั้น อาการปวดที่มีหายไปเลยค่ะ
รู้สึกเบาและโล่งขึ้นมาก นอกจากนี้ยังทำให้หนึ่งได้ความรู้ที่ถูกต้อง
และไม่ใช่แค่รักษาหายอย่างเดียว แต่ยังมีความรู้ในการออกกำลังกายที่ถูกต้อง
เพื่อให้เราไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก บวกกับการปรับโครงสร้างร่างกายอื่นๆ เช่น ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องวิเคราะห์โครงสร้างร่างกาย หนึ่งก็ไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองมีแนมโน้มหลังค่อม
ซึ่งพอได้ทราบ ก็ทำให้สามารถปรับบุคลิกได้ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต
ทุกๆขั้นตอน นักกายภาพจะไม่ได้รักษาอย่างเดียว แต่ให้ความรู้ ให้คำแนะนำไปด้วย
ตลอดเวลากว่า 1 ชั่วโมงค่ะ คลินิกก็สะอาดมาก พนักงานทุกท่านดูแลดี บริการดี
ประทับใจมากจริงๆ ❤ ❤ ❤
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ
เล่นมือถือบ่อยๆ ใส่รองเท้าส้นสูงทุกวัน สะพายกระเป๋าข้างเดียว
นวดเท่าไหร่ก็ไม่หาย หรือเป็นซ้ำบ่อยๆ
หนึ่งแนะนำให้มาลองทำกายภาพบำบัดเลยค่ะ ดีต่อร่างกายเรามากจริงๆ และยั่งยืนกว่ามากๆ
สำหรับค่าใช้จ่ายโปรแกรม
ราคาปกติอยู่ที่ 2,000 ฿ แต่ตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นเหลือเพียง 1,200 ฿ เท่านั้นค่ะ
? พิกัด ?
The S Dental Clinic ซอยสวนพลู 8 เขตสาธร
(ร้านเค้าเป็นคลินิกทำฟันด้วยค่ะ ก็เลยชื่อนี้)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : The S Physiotherapy and Pain Center
Thank you.