หลังจากที่เราได้อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาขั้นตอนของการสครับผิวกันค่ะ เพื่อที่จะได้ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวชั้นหนังกำพร้า เพราะหากเราไม่สครับผิวเลยจะทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้ว จับตัวกันเกาะผิวหนังเป็นที่มาของผิวแห้งหยาบกร้าน เกิดรอยย่น ความหมองคล้ำ และจุดด่างดำได้อีกด้วย
ซึ่งสครับที่เราแนะนำให้กับสาว ๆ ผิวแห้งใช้คือ Tree Hut Shea Sugar Scrub Coconut Lime สครับผิวตัวเด็ดตัวดังฮิตมาก ๆ ในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกา กลิ่น Coconut Lime น้องคนนี้เขามีดีที่เป็นสครับแบบน้ำตาลซึ่งจะดีกว่าแบบเกลือเพราะเม็ดของน้ำตาลจะมีลักษณะกลม ๆ ไม่ทำให้เวลาสครับแล้วบาดผิว ที่สำคัญสครับแบบน้ำตาลจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เป็นการปลอบประโลมผิวที่อ่อนแอได้อย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของเชียบัตเตอร์ ไลม์ และน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันอโวคาโด น้ำมันสวีทอัลมอนด์ น้ำมันแมคคาเดเมีย น้ำมันดอกคำฝอย และน้ำมันส้ม ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสีย แห้งกร้านและปรับสมดุลให้ผิวที่ขาดน้ำกลับมาชุ่มชื้น กระจ่างใสเป็นธรรมชาติ
Tips : ควรจะสครับผิว 2 ครั้ง/สัปดาห์ ควรหมุนมือให้เป็นวงกลม ขัดแบบเบา ๆ นุ่มนวลไปตามจุดต่าง ๆ ที่ต้องการ นอกจากจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่แห้งเสียออกและยังขจัดพวกคราบครีมที่เราใช้ทาตัวต่าง ๆ เป็นการช่วยเร่งเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออกได้เร็วขึ้น
เป็นสครับน้ำตาลที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมะพร้าวปนกับกลิ่น Lime เปิดกระปุกออกมาแล้วได้ความสดชื่นมาก ๆ รู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่ริมชายหาด เนื้อสัมผัสเนียนละเอียดเข้มข้น วิธีใช้คือค่อย ๆ นวดวนไปเรื่อย ๆ เม็ดสครับจะค่อย ๆ ละลายออก เมื่อสัมผัสลงบนผิวแล้วไม่รู้สึกบาดผิวหรือแสบผิวเลยหลังจากขัด ตัวนี้ล้างออกง่ายที่สำคัญคือรู้สึกเลยว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังจากที่ใช้
ราคา : 510g / 890 บาท
ต่อจากขั้นตอนของการอาบน้ำและสครับผิวแล้วอย่างที่บอกเลยว่าการสครับผิวเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่เสียบนชั้นหนังกำพร้า ซึ่งหลังจากนั้นจะทำให้ผิวของเราถูกผลัดออกไปดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของเราอีกครั้ง ด้วยการใช้ออยล์บำรุงผิวทาเป็นประจำทั้งช่วงเช้า-ก่อนนอน โดยเน้นที่ตรงบริเวณที่แห้งแตกลาย เช่น ข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม เพราะเป็นจุดที่ผิวหนังได้รับการเสียดสีบ่อย ๆ
บอดี้ออยล์ที่เราแนะนำวันนี้คือ Bio oil เรียกได้ว่าเป็นออยล์บำรุงผิวที่หลายคนคุ้นแน่นอนด้วยชื่อเสียงเรียงนามที่มีมาอย่างยาวนาน ว่าเป็นออยล์ที่เริ่ดมาก สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน แตกลาย ผิวด้านคล้ำเสีย ส่วนตัวคือเลิฟตัวนี้มากกก คุ้มค่าสุด ๆ เพราะใช้ได้ทั้งตัวเลยจริง ๆ ไม่ว่าจะผิวแห้งกร้านขนาดไหนน้องเค้าเอาอยู่ เป็นออยล์ที่ควรมีติดตัวไว้มาก ๆ
ด้วยความเริ่ดนี้เค้ามีส่วนผสมของ Vitamin A และ E และ Pur Cellin Oil ที่มีประสิทธิภาพในการซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ปกป้องผิวที่แห้งกร้าน ผิวด้านคล้ำเสีย แตกลายให้คืนความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เป็นอย่างดี นอกจากให้ความชุ่มชื้นยังช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นได้อีกด้วยบอกเลยว่าโบกมือลาผิวแห้งแตกลายไปได้เลยจ้า โดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เขาบอกว่าตัวนี้คือปังมาก! บอกเลยว่าเป็นไอเทมที่คนผิวแห้งจะต้องหลงรัก
Tips : ทาออยล์โดยนวดวนเบา ๆ เน้นตรงผิวบริเวณที่แห้ง แตกลาย และคล้ำด้าน ควรทาออยล์หลังอาบน้ำเสร็จทันทีเพราะว่าหลังจากที่เราอาบน้ำเสร็จผิวจะยังคงมีความชื้นอยู่การลงออยล์ในช่วงนี้จะทำให้ออยล์ได้ซึมลึกเข้าสู่ผิวของเราได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
เนื้อออยล์จะเป็นใส ๆ นะคะ ไม่หนักมากจนเกินไป ไม่มีกลิ่นของน้ำหอมเลยจ้า เมื่อทาแล้วรู้สึกสบายผิวเหมือนกับผิวของเรากำลังได้รับความผ่อนคลาย ชุ่มชื้นขึ้นทันทีหลังจากที่ใช้ ใครที่ผิวแห้งจะต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน และยังซึมลงสู่ผิวได้ดีอีกด้วย โดยที่ทิ้งความมันลงบนผิวเพียงเล็กน้อย ใครที่ผิวแห้งแตกลาย ใช้ตัวนี้ ติดต่อกัน 1 เดือนขึ้นไป ผิวดีขึ้นแน่นอนค่ะ
ราคา : 60ml / 375 บาท
ขั้นตอนของการดูแลผิวที่แห้งกร้านยังไม่จบค่าา…เพราะเราจะต้องบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปด้วยโลชั่นนั้นเอง…ซึ่งโลชั่นที่เราจะเลือกใช้ก็จะต้องเป็นโลชั่นที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น เนื้อบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี โลชั่นที่เราขอแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งตึง คือ CeraVe Moisturizing Lotion ค่ะ เค้าเป็นโลชั่นที่เหมาะกับผิวธรรมดา-แห้งเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง เพราะมีส่วนผสมของเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด สกัดจากพืชธรรมชาติ และไฮยาลูรอนิกแอซิด ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านมาพร้อมกับเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ของแบรนด์ MVE technology ที่จะค่อย ๆ ปล่อยสารสำคัญออกมา ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ยาวนาน 24 ชม. ใช้ได้ทั้งผิวหน้า-ผิวกาย
ไอเทมนี้เป็นตัวดังที่คนผิวแห้งนิยมใช้กันเยอะมาก เค้าช่วยฟื้นฟูปราการผิวให้แข็งแรงกลับมาชุ่มชื้นได้ตลอดวัน แนะนำเลยว่าคนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ควรมีติดบ้านเอาไว้เลยยย แต่สำหรับใครที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านแบบขั้นสุด ลอกเป็นขุย หรือผิวมีอาการอักเสบแสบแดง Cerave เขาก็มีครีมแบบกระปุกอีกตัวที่ชื่อว่า Moisturizing Cream ตัวนี้จะช่วยเคลือบผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้แบบสุด ๆ เนื้อจะครีมมี่เข้มข้น แต่ไม่เหนอะหนะ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ดีงามตัวช่วยให้ผิวที่แห้งขาดน้ำมาก ๆ กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น เห็นเป็นแบบครีมเข้มข้นก็ไม่ต้องกังวลเลยน้า…เพราะซึมไวไม่เหนียวเหนอะผิว ทาแปปเดียวก็ซึมไม่มันเช่นกันจ้า
Tips : แนะนำว่าทาโลชั่นหลังจากอาบน้ำเสร็จแบบที่ตัวกำลังหมาด ๆ หรือหลังจากที่ออยล์ซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว เพราะเนื้อโลชั่นจะได้ซึมลึกเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ…และที่สำคัญถ้าต้องการแก้ปัญหาผิวแห้งให้อยู่หมัดก็ควรจะต้องทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำเช้า-ก่อนนอนอันนี้ห้ามลืมเลยน้า~~
เป็นเนื้อโลชั่นที่บางเบามาก ๆ ดีงามสุด ๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความเหนียว เกลี่ยลงบนผิวได้ง่ายและซึมเข้าสู่ผิวได้ในทันที ไม่มีกลิ่นฉุนของน้ำหอมเลยใช้แล้วรู้สึกสบายจมูก หลังใช้จะรู้สึกเย็น ๆ ที่ผิวเล็กน้อย ทำให้รู้สึกสบายผิว สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและก่อนนอน โดยที่ไม่รู้สึกเหนอะหนะผิวเลย ทาตอนเช้าก็ไม่ต้องเติมระหว่างวัน ทาก่อนนอนจะทำให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานจนถึงเช้า แต่ถ้าช่วงไหนที่รู้สึกว่าผิวแห้งกร้านเป็นพิเศษ ก็จะเลือกใช้เป็นตัวครีม Moisturizing Cream แทนจ้า เนื้อของเค้าจะหนักกว่าตัวโลชั่นนิดหน่อย ทาทิ้งไว้ก่อนนอนตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นมากเลย~~
ราคา : 88ml / 260 บาท และ 473ml / 690 บาท
ลำดับสุดท้ายของการดูแลผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาแข็งแรงชุ่มชื้นอีกครั้งต้องไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดนะคะ เพราะอย่างที่บอกเลยว่าผิวแห้งกร้านก็มาจากแสงแดดได้เช่นกัน การทำกิจกรรมกลางแดดโดยที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดส่งผลให้เกิดผิวไหม้นำไปสู่ปัญหาผิวที่แห้งกร้านและคล้ำเสีย
สำหรับกันแดดที่ทางเราแนะนำคือ La Roche-Posay ANTHELIOS INVISIBLE SPRAY SPF50 กันแดดแบบสเปรย์ที่ให้การปกป้องรังสีอัลตราไวโอเลต UVA UVB แสงอินฟราเรดและมลภาวะ ได้สูงถึง SPF 50 เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง บอบบางระคายเคืองง่าย หรือผิวที่มีแนวโน้มไวต่อแสงแดด ใช้ได้ทั้งผิวหน้า-ผิวกาย ที่สำคัญไม่ทำลายระบบฟอกสีของปะการัง หมดกังวลไปเลยว่าฉีดไปแล้วจะเยิ้มหรือเปล่าเพราะตัวนี้เค้าเป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อ กันทราย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว ปราศจากน้ำหอมและพาราเบนอีกด้วย
Tips : อย่าลืม! เขย่าขวดสเปรย์ก่อนใช้ด้วยน้าา…ที่สำคัญควรทาเป็นประจำทุกวันก่อนออกแดด 15-20 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้กันแดดได้ปกป้องผิวของเราจากแสงและมลภาวะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กันแดดเนื้อน้ำนมที่เป็นแบบหัวสเปรย์ ทำให้ใช้งานง่าย พกพาได้สะดวกสามารถเติมระหว่างวันได้ไม่ยาก ก่อนใช้แนะนำให้เขย่าแรง ๆ หน่อยแล้วค่อยฉีดน้าาา ตัวสเปรย์ไม่ได้ถึงกับเป็นละอองฝอยเล็กมาก ๆ แต่ก็ทำให้การทากันแดดง่ายขึ้น พ่นสเปรย์กันแดดแล้วจึงเกลี่ยค่อย ๆ ตบ ให้ทั่วผิว ส่วนเรื่องกลิ่นก็จะเป็นกันแดดสไตล์ลาโรซเลย คือไม่มีน้ำหอม หลังใช้จะทิ้งความมันไว้ที่ผิวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นคนผิวแห้งก็เลยทำให้รู้สึกสบายผิวค่ะ
ราคา : 200ml / 1,250 บาท
และนี่ก็คือ 5 สเต็ปวิธีแก้ปัญหาผิวแห้งและ 5 ไอเทมที่แนะนำในการกู้ผิวขาดความชุ่มชื้นที่เอามาฝากกันค่ะ เพื่อน ๆ จะได้หมดกังวลในการดูแลผิวที่แห้งกร้านว่าจะใช้อะไรดี? รู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ผิวของเราแห้งขาดน้ำนะคะ เพราะผิวแห้งนอกจากจะทำให้มีอาการระคายเคืองแล้วยังเป็นสาเหตุของริ้วรอยอีกด้วยน้าา แต่เชื่อว่าถ้าใครได้ทำตามสเต็ปที่บอกไว้แล้วล่ะก็ ผิวที่แห้งกร้านจะกลับมาแข็งแรงชุ่มชื้นขึ้นได้แน่นอน…อย่าลืมไปดูแลผิวกันน้าาา
S P O N S O R E D C O N T E N T