ดูแลผิวหนังอย่างไร เมื่อต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วม

       ขณะนี้ปัญหาน้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ของประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ประสบภัย ทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน และที่สำคัญส่งผลต่อสภาพจิตใจ และสุขภาพเป็นอย่างมาก

 ... วันนี้ทีมงานจะขอคุยเฉพาะเรื่องโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังอย่างเช่น โรคน้ำกัดเท้าแล้วกันนะคะ


       
         โรคน้ำกัดเท้า เกิดขึ้นจากเชื้อโรคต่างๆ ที่อยู่ในน้ำ ในอากาศ และทุกๆ ที่ ปกติแล้วร่างกายเราก็ได้สัมผัสกับเชื้อโรคพวกนี้อยู่แล้ว แต่ร่างกายเรามีกระบวนการในการกำจัดให้มันออกไป และผิวหนังก็สามารถป้องกันเชื้อโรคพวกนี้ได้ แต่เมื่อเท้าเราแช่น้ำนานๆ จนเกิดการอับชื้น สกปรก พวกสิ่งสกปรกเหล่านี้จะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี เหมือนเท้าเราเป็นโรงครัวให้เชื้อโรคเลยล่ะ แล้วยิ่งแช่น้ำนานๆ จนผิวหนังเริ่มเปื่อย ลอก หลุดออก ก็จะทำให้ผิวหนังบางลง การป้องกันเชื้อโรคก็น้อยลง หนังที่หลุดออกมาก็เป็นอาหารให้พวกเชื้อราเป็นอย่างดี เชื้อราจึงไปเกาะตามซอกหนังที่หลุดออกมา หรือตามง่ามนิ้ว ทำให้เกิดแผลเล็กๆ ขึ้น และอักเสบ แสบคันได้



         การป้องกัน ก็ง่ายๆ คะ แค่อย่าให้มือ หรือเท้า ไปแช่น้ำนานๆ จนผิวเปื่อย แต่ถ้าจำเป็นต้องแช่นานๆ (เช่น คนที่ทำงานอยู่กับน้ำ หรือมีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำบ่อยๆ) ก็ขอให้สวมรองเท้าบู๊ทกันน้ำ ป้องกันของมีคมในน้ำทิ่ม ตำ เท้า แต่ถ้าไม่มีรองเท้าบูทหรือน้ำลึกจนต้องสัมผัสกับน้ำจริงๆ ก็ขอให้หลังจากขึ้นจากน้ำ ต้องชำระล้างร่างกายโดยฟอกสบู่ให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง เสื้อผ้าที่ใส่ก็ซักให้สะอาด ไม่ควรปล่อยให้อับชื้นนานๆ
ยิ่งถ้าน้ำที่คุณต้องเดินลุยน้ำที่มองแล้วว่าไม่สะอาดแน่ๆ ก็ควรเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยยิ่งดี อย่าลืมเช็ดตรงง่ามนิ้วด้วยนะคะ เพราะตรงนั้นแหละจะเป็นที่สะสมเชื้อโรคที่สุดยอดเลยคะ 


         แต่ถ้าป้องกันไม่ทันแล้ว มีอาการเป็นโรคน้ำกัดเท้า ให้พยายามทำให้บริเวณที่เป็นแห้งมากที่สุด ทายารักษาเชื้อราบนผิวหนัง ถ้าอักเสบมีหนองหรือน้ำเหลือง ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำด่างทับทิม หรือน้ำเกลือละลายจางๆ โปะไว้จนผ้าหมาด ทำบ่อยๆ จนกว่าแผลจะแห้ง แล้วค่อยใช้ยารักษาเชื้อราทา

ป้องกันมือเท้าไม่ให้อับชื้นไว้ดีกว่านะคะ


โรคน้ำกัดเท้าในระยะแรกนี้ ยังไม่มีเชื้อรา เป็นเพียงอาการระคายเคืองจากความเปียกชื้นและสิ่งสกปรกในน้ำ ทำให้เท้าเปื่อย ลอก แดง คันและแสบ การรักษาในระยะนี้ควรใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อนๆ เช่น 0.02 Triamcinolone cream หรือ 3 % vioform in 0.02 % Triamcinolone cream ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา เพราะยาเชื้อราบางชนิดจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบมากขึ้น ยิ่งถ้ามีผิวเปื่อยหรือเป็นแผล เมื่อสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่เจือปนอยู่ในน้ำจะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เมื่อมีการติดเชื้อ แบคทีเรีย จะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด ต้องให้การรักษาโดย การรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมกับการชะล้างบริเวณแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น น้ำด่างทับทิม แล้วทายาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ หากปล่อยให้มีอาการโรคน้ำกัดเท้าอยู่นาน ผิวที่ลอกเปื่อยและชื้นจะติดเชื้อราทำให้เป็นโรคเชื้อราที่ซอกเท้ามีอาการบวมแดง มีขุยขาวเปียก มีกลิ่นเหม็นและถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นเรื้อรัง เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนังรักษาหายยาก ถึงแม้จะใช้ยาทาจนอาการดีขึ้นดูเหมือนหายดีแล้ว แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อเท้าอับชื้นขึ้นเมื่อใด ก็จะเกิดเชื้อราลุกลาม ขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดอาการเป็น ๆ หาย ๆ เป็นประจำไม่หายขาด

         การดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับเป็นซ้ำอีกจึงมีความสำคัญ การรักษาความสะอาดให้เท้าแห้งอยู่เสมอเป็นหลักปฏิบัติที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรคนี้ และควรให้ความสนใจเป็นพิเศษที่บริเวณซอกนิ้วเท้า เมื่อเช็ดให้แห้งแล้วให้ทายารักษาโรคเชื้อรา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ทายาไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับไต และควรรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเองแม้ว่าจะดีขึ้น การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมด มีโอกาส กลับเป็นซ้ำอีกได้ง่าย

         นอกจากนี้ผู้ประสบกับปัญหาน้ำท่วมควรระมัดระวังเมื่อเดินลุยน้ำเพราะอาจถูกของมีคมทิ่ม ตำ ทำให้เกิดบาดแผลและติดเชื้อโรคต่าง ๆ รวมทั้งเชื้อบาดทะยักตามมาได้ เพราะอย่าลืมว่ากระแสน้ำจะพาสิ่งสกปรก เชื้อโรค ของเสียที่เคยถูกเก็บในที่มิดชิด หรือ สารเคมี
กระจายเป็นวงกว้างและ ไปห่างไกลจากแหล่งเดิม น้ำท่วมทำให้สภาพสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนทำให้
สัตว์ แมลง ไม่มีที่อยู่อาศัยออกจากถิ่นที่อยู่เพ่นพ่านทั่วไป ในขณะเดียวกันสภาพน้ำท่วมทำให้
พาหะนำโรคต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดีซึ่งส่งผลทำให้ปริมาณเชื้อโรคมีจำนวนเพิ่มขึ้นและแพร่ได้
อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อประสบเหตุดังกล่าวควรไปทำแผลที่ที่สถานพยาบาลทันที และถ้าไม่เคยฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อบาดทะยักมาก่อนควรปรึกษาแพทย์ด้วย

..และทีมงานก็มีเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ ในกรณีที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อยที่มีพิษทำร้ายมาฝากด้วยนะคะ " มะนาวช่วยหายเจ็บจากพิษได้ " เกร็ดความรู้ช่วยคนน้ำท่วม โดยภูมิปัญญาไทยมาไกลจากอิตาลี โดยพระครูสันติธรรมวิเทศ (พระปรีชา ชุตินธโร) วัดสันตจิตตาราม ประเทศอิตาลีได้ค้นพบว่า เวลาที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อยที่มีพิษ เช่น ตะขาบ แมลงป่อง หรือ ตัวต่อ เพียงนำเอามะนาวมาฝานและแปะลงบนผิวที่ถูกต่อย จะทำให้พิษสลายไปภายในห้านาที หายปวดในทันใด ท่านได้ทดลองมาแล้วหลายครั้งได้ผลชะงักทีเดียว จึงนำมาฝากบอกด้วยความเป็นห่วงสมาชิกทุกท่านที่กำลังประสบภัยน้ำท่วมเพราะ อาจมีสัตว์ต่างๆเลี้อยขึ้นบ้านหลบน้ำเช่นกัน