Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!
บทความแนะนำ

ช่องคลอดอักเสบ(Vaginitis) โรคยอดฮิตของผู้หญิง

33,591
1 ธ.ค. 2554

โรคช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis)


       เปิดโลกทางนรีเวช ปัญหาหลักของคุณผู้หญิงที่ควรรู้ และค้นหาคำตอบโรคฮอตฮิตที่พบได้บ่อย พร้อมกับวิธีสังเกตเบื้องต้นว่า คุณกำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคใดหรือไม่

ช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เกิดขึ้นบริเวณภายในช่องคลอด (vagina) และปากช่องคลอด(vulva)

      อาการที่พบบ่อย คือ อาการตกขาวผิดปกติ คันกลิ่น ตกขาวปนเลือด แสบร้อนในช่องคลอด ซึ่งการวินิจฉัยโรคสามารถทำโดยการตรวจภายใน ร่วมกับการนำตกขาวไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุของเกิดช่องคลอดอักเสบ ว่ามีที่มาจากเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง เนื่องจากการรักษาแต่ละสาเหตุมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งได้โดยสังเขป ดังนี้
  • ตกขาวจากเชื้อรา เกิดจากความอับชื้น โดยตกขาวชนิดนี้จะมีลักษณะเป็นแป้ง และมีอาการคันบริเวณช่องคลอด
  • ตกขาวจากเชื้อแบคทีเรีย ตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นคาว หรือมีกลิ่นภายหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

     ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดช่องคลอดอักเสบ คือ การสวนล้างช่องคลอด การใช้แผ่นอนามัย การใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป เนื่องจากจะทำให้ขาบีบชิดกันมากเกินไป ผู้ที่รับประทานยาแก้อักเสบบ่อยๆ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดเกิดความเปลี่ยนแปลงไปจึงเกิดตกขาวได้ง่าย เป็นต้น

     เมื่อมีอาการควรรีบพบแพทย์ เนื่องจากหากเกิดอาการบ่อยๆ บริเวณปากมดลูกจะเกิดการระคายเคือง และอาจส่งผลเกี่ยวเนื่องกับมะเร็งปากมดลูกได้
  • ประจำเดือนผิดปกติ ผู้ที่ประจำเดือนมาผิดปกติ โดยส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์ด้วยอาการ ประจำเดือนออกกระปริดกระปรอย ประจำเดือนมามากหรือน้อยเกินไป และประจำเดือนขาดหายโดยมิได้เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจส่งผลถึงการทำงานของรังไข่ และหากเกิดในผู้สูงอายุ อาจเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก โดยสาเหตุหลักของประจำเดือนที่มาผิดปกติ เกิดจากฮอร์โมนที่ผิดปกติ และการตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้ 2 วิธี คือการตรวจภายใน และการตรวจอัลตร้าซาวด์หน้าท้องหรือช่องคลอด
  • ก้อนในบริเวณท้องน้อย สำหรับก้อนบริเวณท้องน้อยของผู้หญิง จะมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ปัสสาวะบ่อย เลือดออกผิดปกติ คลำเจอก้อน น้ำหนักลด ซึ่งอาการดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นอาการนำของโรคทางนรีเวชในหลายๆ โรค อาทิ เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกรังไข่และท่อนำไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ฯลฯ โดยสามารถตรวจวินิจฉัย ด้วยการตรวจภายในอัลตร้าซาวด์ เพื่อวินิจฉัยถึงที่มาของสิ่งผิดปกติที่พบและจำแนกว่าเป็นถุงน้ำ ก้อนเนื้อธรรมดา หรือมะเร็งเป็นต้น 
  • มะเร็งอวัยวะสืบพันธ์ นับได้ว่าเป็นโรคมะเร็งอันดับต้น ๆ ที่เป็นภัยร้ายคร่าชีวิตผู้หญิงไทยไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ภัยดังกล่าวจะมีอัตราลดลงบ้าง เนื่องจากผู้หญิงมีความตื่นตัว และใส่ใจในการดูแลโรคทางนรีเวชมากขึ้น แต่ถึงอย่างไร ก็ยังเป็นสิ่งที่ทุกคนควรดูแลและให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะมะเร็งอวัยวะสืบพันธ์ของผู้หญิงเกิดได้ในหลายส่วน โดยมะเร็งปากมดลูกพบมากที่สุด มะเร็งรังไข่พบมากเป็นอันดับสอง

     การดูแลตนเองเบื้องต้นสำหรับผู้หญิง
เกี่ยวกับช่องคลอดหลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด ใช้แผ่นอนามัยเฉพาะช่วงวันที่มีประจำเดือน หลีกเลี่ยงการใส่กระโปรง หรือกางเกงรัดรูป ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนักตามเกณฑ์ที่กำหนด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากไขมันเป็นสารตั้งต้นของการเกิดโรคหลายชนิด อาทิ มะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น



ขอขอบคุณข้อมูลจาก รพ.เปาโล และ www.vcharkarn.com
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) เท้าแตก ทําไงดี? 5 สูตรสครับแก้เท้าแตก ให้ผิวเนียนนุ่ม ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!
COMMENTS