ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับร่างกาย ใคร ๆ มักบอกกับเราว่า “ดื่มน้ำเยอะ ๆ สิ” นั่นหมายถึง “น้ำ” คือสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการให้เพียงพอเสมอเพื่อนำไปใช้กับระบบต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง เรามาดูประโยชน์ของน้ำกันดีกว่าค่ะ
ประโยชน์ของน้ำดื่มสะอาด
- ประโยชน์ของน้ำดื่ม ช่วยให้สุขภาพผิวดูมีน้ำมีนวล เปล่งปลั่งสดใส
- น้ำช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ เพราะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวของเราแห้งกร้าน
- ช่วยให้ดวงตาของคุณดูสดใส มีชีวิตชีวา
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลในร่างกาย
- ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย สบายใจ
- น้ำช่วยให้สมองทำงานได้ไว และดียิ่งขึ้น
- ช่วยทำให้เกิดสมาธิมากขึ้น ผู้ที่อยู่ในวัยเรียนควรให้ความสำคัญ
- ช่วยลดการเกิดกลิ่นปาก
- ช่วยชะลอความแก่ ทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายไม่ขาดน้ำ และทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- ช่วยลดอาการเครียด สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น อย่าเครียดจนลืมดื่มน้ำ!
- น้ำช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายของเราได้ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่
- น้ำสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับผิวหนังของคุณได้ แถมยังป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย
- ช่วยลดการปวดหลังหรือบั้นเอว
- ช่วยลดอาการปวดข้อต่าง ๆ
- ช่วยให้ข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น เคลื่อนไหวไปมาได้สะดวก
- รู้หรือไม่ว่าน้ำก็คือยาวิเศษดีๆนี่เอง ถึงแม้จะไม่เห็นผลทันตาแต่ก็สามารถช่วยรักษาโรคหลาย ๆ ชนิดได้
- น้ำช่วยลดอาการการปวดศีรษะและไมเกรนได้ไม่มากก็น้อย เพราะผู้ป่วยไมเกรนหากร่างกายขาดน้ำหรือได้รับไม่เพียงพอแล้ว อาการปวดหัวอาจจะรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
- ช่วยในการย่อยอาหาร เพราะทำให้ระบบย่อยอาหารทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงยังช่วยป้องกันโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย
- สำหรับผู้ที่ท้องผูกน้ำคือสิ่งจำเป็นอย่างมาก
- น้ำมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักตัว โดยไปลดความอยากอาหารก่อนการรับประทานอาหารนั่นเอง
- การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยให้ปริมาณไขมันในร่างกายของเราให้ลดลงได้
- ช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างเป็นปกติและมีประสิทธิภาพ
- ช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย
- ช่วยรักษาสุขภาพไตให้แข็งแรง
- ประโยชน์ของการดื่มน้ำ ประการสุดท้ายก็คือช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต
แล้วเราต้องดื่มน้ำวันละกี่แก้วดี ต้องดื่มช่วงเวลาไหนบ้าง น้ำเย็นล่ะดื่มได้ไหม?
การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี
- น้ำที่ดื่มถ้าจะให้ดีต้องเป็นน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนมากหรือเย็นจัด แต่ก็ยกเว้นในบางกรณี เช่น ตอนเช้าถ้าเป็นไปได้ควรดื่มน้ำอุ่นเพราะจะช่วยในการขับถ่ายให้ดียิ่งขึ้น ลำไส้ก็จะสะอาดมากขึ้นตามไปด้วย
- การดื่มนั้นที่ถูกต้องนั้น ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือจะให้ดีก็วันละ 14 แก้ว หรือโดยเฉลี่ยแล้วควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับน้ำหนักตัวของคุณ เช่น ถ้าคุณมีน้ำหนัก 60 kg. ก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 10 แก้วนั่นเอง (กรณีนี้ให้นับรวมปริมาณอื่น ๆ ด้วย เช่น น้ำจากผักผลไม้ แกง ก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ด้วย)
- ในตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือก่อนแปรงฟัน ควรดื่มน้ำ 2-4 แก้ว เป็นน้ำอุ่น ๆ ได้ก็จะดีมาก
- ในระหว่างวัน ควรดื่มน้ำ 1 แก้วทั้งก่อนและหลังมื้ออาหาร ทุก ๆ มื้อ และในระหว่างช่วง สาย บ่าย เย็น ก็ควรดื่มน้ำอีกครั้งละ 1 แก้ว
- ในช่วงก่อนนอน น้ำอุ่น ๆ สัก 1 แก้วจะดีมาก
- การดื่มน้ำควรดื่มครั้งละแก้ว และที่สำคัญไม่ควรดื่มรวดเดียวหลาย ๆ แก้ว เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ “น้ำเป็นพิษได้”
- อย่าดื่มน้ำมากเกินไปก่อนที่จะรับประทานอาหาร หรือถ้าจะดื่มก็ควรดื่มน้ำก่อนสักประมาณครึ่งชั่วโมง หรือ 45 นาที
- ในระหว่างรับประทานอาหารไม่ควรดื่มน้ำตลอดเวลา เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ทำให้ระบบย่อยทำงานได้ไม่ดี
- ภายหลังจากรับประทานอาหารเสร็จไม่ควรดื่มน้ำทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยควรดื่มหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วครึ่งชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นและน้ำอัดลม เพราะน้ำเย็นจะไปดึงความร้อนในร่างกายมาทำให้น้ำที่เราดื่มเข้าไปมีอุณหภูมิเท่ากับร่างกาย จึงจะดูดซึมได้ ทำให้ร่างกายเสียเวลาในการปรับสมดุลและสูญเสียพลังงาน
- สำหรับคุณผู้หญิงบางท่านที่มักมีอาการปวดประจำเดือน ช่วงที่มีประจำเดือนควรงดดื่มน้ำเย็น เพราะการดื่มน้ำเย็นจะทำให้อาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้น
อย่างที่เห็นว่า การดื่มน้ำสำคัญขนาดนี้ แล้ววันนี้คุณดื่มน้ำไปกี่แก้วแล้วเอ่ย นอกจากจะได้ผลในเรื่องของสุขภาพแล้ว ผิวพรรณก็จะสดใสอีกด้วย เพราะฉะนั้น อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำกันนะคะหนุ่มสาว Cosme*net :)
ขอขอบคุณภาพจาก : cleanwateraction.org jaysonfeltner.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th