เข้าสู่ต้นฤดูฝนแล้วนะคะ เตรียมรับมือกับอาการหวัดกันได้แล้วสำหรับหนุ่มสาวชาวเมืองที่ขาดการออกกำลังกายและพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่วนใครที่มีอาการคัดจมูกก่อนฝนมาทุกครั้ง นั่นคือ อาการภูมิแพ้อากาศ ที่จะไวต่อละอองเกสรสารพัดที่มากับลมฝน รวมถึงละอองจากปีกแมลงสาบ อาการเหล่านี้มักจะเกิดก่อนก่อนฝนตก ทำให้กลายเป็นนักพยากรณ์อากาศกันไปเลย อาการเหล่านี้ทำให้กลายเป็นหวัดเรื้อรัง
และทราบหรือไม่ว่า ยิ่งสังคมพัฒนาไปมากเท่าไหร่ ผู้คนก็จะมีอาการภูมิแพ้อากาศ หวัดเรื้อรังกันมากขึ้น ซึ่งพบว่าในปี 1987 ค่ายาต่าง ๆ รักษาภูมิแพ้อากาศคิดเป็นเงินทั้งหมด 1 พันล้านดอลลาร์ในอเมริกา ถ้าเป็นมาก คิดเป็นจำนวนคนที่ขาดงาน 800,000 กว่าวัน หรือเป็นเด็กขาดเรียน 800,000 กว่าวัน
อาการและอาการแสดง
- คันจมูก (Itching) อาจร่วมกับ คอ ตา ผิวหนัง ก็ได้
- น้ำมูกไหล (Runny nose)
- การรับกลิ่นเสียไป (Impaired smell)
- จมูกตัน (Nasal congestion)
- ไอ (Coughing)
- ปวดศีรษะ (Headache)
- น้ำตาไหล (Tearing eyes)
- หายใจเสียงดัง (Sneezing wheezing)
วิธีรับมือกับอาการภูมิแพ้
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ เช่น ขนสุนัข, ควันบุหรี่, เกสรดอกไม้, ฝุ่นในบ้าน,นมวัวและผลิตภัณฑ์จากวัว
- ปรับอาหาร โดยการกินอาหารที่ต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี คนเราสร้างวิตามินซี ไม่ได้ ไม่เหมือนสุนัข, แมว ซึ่งสร้างวิตามินซีได้ วิตามินซีจะอยู่ในอาหารประเภทเปรี้ยว , ฝาด, คือ ผัก ผลไม้ที่สด ๆ อนุมูลอิสระอีกกลุ่มหนึ่ง คือ วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ซึ่งอยู่ในผักผลไม้ที่มีสีเขียวจัด , สีเหลือง, สีแดง,สีม่วง, แครอทมีเบต้าแคโรทีน แต่มีไม่มาก แครอท 100g มีวิตามินเออยู่ 1,144 อินเตอร์เนชั่นแนลยูนิต แต่ที่มีเบต้าแคโรทีนมาก คือ ผักเหลียง ,ผักปัง,ผักขี้เหล็ก 100 g มีวิตามินเอ 43,333 อินเตอร์เนชั่นแนลยูนิต มากกว่าแครอท 40 เท่า วิตามินอีกตัวที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิตามินอี ซึ่งมีอยู่ในเมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน,เมล็ดฟักทอง,จมูกข้าว ฉะนั้นควรกินข้าวกล้องจะมีจมูกข้าวมาก คนที่เป็นภูมิแพ้ถ้าอยากหายควรกินข้าวกล้อง น้ำผลไม้สดวันละ 2 แก้ว
- การออกกำลังกาย ต้องสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3 วัน ๆ ละ ½ ชั่วโมง ทำให้ภูมิแพ้ดีขึ้น
- เพิ่มภูมิต้านทาน เช่น อบสมุนไพร ,ซาวน่า .อาบแสงตะวัน เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจะมีไข้ ไข้ไม่ใช่สิ่งที่เชื้อโรคสร้างขึ้นมา แต่เป็นสัญญาณเพื่อกระตุ้นให้ภูมิต้านทานออกมาทำงานให้สมดุลขึ้น แต่ถ้าเราปกติ สามารถกระตุ้นให้ภูมิต้านทานทำงานโดยการทำให้มีไข้ โดยไปอบซาวน่าหรืออาบแสงตะวัน ร่างกายจะเหมือนมีไข้ ภูมิต้านทานจะออกมาทำงาน แสงแดดควรเป็นช่วงบ่าย หันหน้า-หลัง ข้างละ 10 นาที หรืออาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็นอย่างละ 1 นาที สัก 2-3 รอบก็ได้
Cosme*net อยากให้คนรุ่นใหม่ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้
สุขภาพดี ยิ้มสดชื่นในสายฝนกันค่ะ
“อย่ากลัวฝน เพราะฝนนั้นเย็นฉ่ำ..”
ก็รบกวนอย่าตกลงมาช่วงก่อนเข้างานและหลังเลิกงานเลยนะคะ พลีสสสส