เคยไหมคะ พักผ่อนยังไงก็ไม่หายอ่อนเพลีย? หลับเท่าไหร่ก็เหมือนจะไม่พอ
เป็นแบบนี้ติดต่อกันหลายวัน ทำให้ไม่กระปรี้กระเป่า ขาดสมาธิในการทำงาน
และอาการเหล่านี้มักจะ จู่ ๆ ก็เกิดขึ้นมา หลังจากหักโหมกับงานหนักเป็นเวลานานติดต่อกัน
หรืออดหลับอดนอนปาร์ตี้หามรุ่งหามค่ำติดๆกัน
แหม เป็นสองอย่างที่ไปคนละทาง แต่ก็เกิดผลเสียเหมือนกันค่ะ ร่างกายของคุณกำลังประท้วงนะคะ
เขาเรียกอาการนี้ว่า “อ่อนเพลียเรื้อรัง” เรามาดูวิธีรักษาด้วยตัวเองกันดีกว่าค่ะ
- หยุดคาเฟอีนสักระยะนะคะ
ก็รู้ว่ามันยาก สำหรับคนที่ติดกาแฟ อาจถึงขั้นทำงานกันต่อไปไม่ไหว เอาเป็นว่า แนะนำให้ลางานสักหนึ่งวันติดกับเสาร์-อาทิตย์ เพื่อฟื้นฟูสภาพของคุณเองที่จะแย่เอา ถ้าไม่รีบจัดการกับสุขภาพให้ดีขึ้น งดรับงานทุกอีเวนท์ และงดกาแฟ หลับพักผ่อนนอนกลางวันให้สบายไปเลย ประมาณ 2 วันก็จะดีขึ้นค่ะ
- หยุดความหวาน
ทราบไหมคะว่า น้ำตาลทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนส์เครียด ช่วงนี้แนะนำดื่มน้ำลูกหม่อน หรือเรียกให้เก๋ก็คือ น้ำมัลเบอรี่ และรับประทานผัดบล๊อคโคลี่เยอะ ๆ ค่ะ จะช่วยปรับสมดุลร่างกายได้ดีขึ้น เอาความหวานจากธรรมชาติที่ปราศจากน้ำตาลมาหลอก ก็พอไหวใช่ไหมคะ
- หยุดไขมันแปรรูป
นั่นเพราะไขมันประเภทนี้ทำให้ โคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดลง และ ชนิดร้าย (LDL) เพิ่มขึ้น เช่นเนยขาว ครีมเทียม ซึ่งไขมันชนิดนี้จะพบในขนมขบเคี้ยวและอาหารฟาสท์ฟู้ดมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้น เพื่อสุขภาพ ก็หยุดดีกว่าค่ะ
- เริ่มมื้อเช้าให้เร็ว
การเริ่มกินให้เร็วขึ้นภายในชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน จะช่วยให้การเผาผลาญเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะช่วงเที่ยงวันจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเผาผลาญอาหารได้สูงสุดค่ะ
- กินอาหารให้ครบทุกสี
โอ้โห! อะไรจะสีสันกันขนาดนั้นกับชีวิต แม้แต่เวลากัน แต่นี่คือสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะจะได้สารอาหารจาก พฤกษเคมี ซึ่งการกินแบบนี้เป็นการกินแบบ 'ชีวจิต' อาหารหลากสีช่วยต้านทานโรค และการอักเสบได้ดี แล้วยังช่วยรักษาสมดุลฮอร์โมนอีกด้วย นอกจากนี้แถมอีกนิดว่า ควรลองหันมทากินข้าวไม่ขัดสี และกินให้หลากหลายสายพันธุ์ก็จะดีต่อสุขภาพด้วยนะคะ
- นอนในความมืด
มีหลายคนที่กลัวความมืด จึงมักเปิดทีวีทิ้งเอาไว้ สิ่งนี้จะไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวนะคะ ให้ดีที่สุดคือ ต้องปิดม่านให้มืดชิดด้วยค่ะ เพราะพวกเราส่วนใหญ่มีธรรมชาติที่ไวต่อแสง ส่วนตอนเช้า เมื่อตื่นนอนก็ควรเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำตัวให้กลมกลืน ลื่นไหลไปกับธรรมชาติ เพราะพวกเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ นี่คือหลักการอันสำคัญของชีวิตค่ะ
- นอนให้เป็นเวลาและไม่ดึก
เราอาจบังคับช่วงเวลาตื่นนอนกันไม่ได้ บางวันก็มีธุระแต่เช้า บางวันก็สาย แต่ถ้าเรานอนเร็ว นอกจากจะช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายตามนาฬิกาชีวภาพแล้ว ยังเป็นการจัดเวลาในชีวิตอีกด้วย เพราะตอนเช้าสมองจะเฟรชที่สุด ตื่นขึ้นมา ได้กินข้าวเร็วขึ้น ทำธุระส่วนตัวตอนเช้าแบบไม่ต้องเร่งรีบ ไปถึงที่ทำงานก่อนใครแบบสมองเต็มพลัง อะไร ๆ ก็ดีไปหมดตลอดทั้งวัน
- ฝึกหายใจ
หาเวลาว่าง ๆ เพื่อฝึกการหายใจ ไม่ต้องนานมากค่ะ สัก 5 นาที แอบแว่บจากงานมาฝึกการหายใจ หรือถ้าใครที่ไม่ได้ขับรถไปทำงานเอง ก็อาศัยช่วงเวลาบนรถโดยสาร หลับตา ฝึกการหายใจเข้า-ออก ให้ถูกต้อง คือ เมื่อหายใจเข้า ท้องป่อง และหายใจออก ท้องยุบ ฝึกให้เป็นนิสัย แล้วจะทำได้ถูกต้องเองโดยอัตโนมัติในทุกลมหายใจ
การฝึกหายใจก่อนนอน เป็นการฝึกสมาธิ ให้จิตใจสงบ หลับสบายอีกด้วยค่ะ คืนนี้ลองดูกันเลยนะคะ
- ออกกำลังกายแบบได้สมาธิ
ไม่ต้องหักโหมมากค่ะ เช่นโยคะ ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ไทชิ ไทเกก หรือแม้แต่เดินออกกำลังกาย วิ่งเหยาะ ๆ
- อาบแสงแดด
ถ้ากลัวมะเร็งผิวหนัง ก็อาบแดดช่วงเช้าก่อน 9 นาฬิกา และหลัง 16.00 น. ก็ได้ค่ะ แต่จริง ๆ แล้ว แสงแดดระหว่างนั้นจะให้วิตามินดีสูงมาก ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ลองดูตามสะดวกกันเลยค่ะ
นอกจากจะแก้ไขตามวิธีนี้แล้ว ยังนำมาใช้ปรับพฤติกรรมได้ในทุกๆวันก็ดีนะคะ เพราะสุขภาพร่างกายของเรา ไม่ใช่สิ่งที่ต้องมารักษา หรือแก้อาการกันเมื่อเกิดเหตุ ให้ดีที่สุดคือดูแลกันในทุกๆวัน เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกเรื่องราวอันหนักหนาสาหัสในแต่ละวัน กายพร้อม ใจพร้อม อะไรเข้ามาก็ไม่หวั่นค่ะ อาการอ่อนเพลียก็คงมาเยือนกันเบาๆ แล้วก็จากไป ...ก็คนเขาแข็งแรงนี่คะ
ขอขอบคุณภาพจาก : womensministry.net, bodyshapeshiftersonline.com,peerfit.com, nannystateliberationfront.wordpress.com, impeccablegentleman.com, calypsostbarth.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th