น้ำผึ้ง คือ ความหวานที่ถูกสร้างขึ้นจากธรรมชาติ ซึ่งมนุษย์เรารู้จักมายาวนาน
และในความหวานนั้นก็มีคุณค่าต่อร่างกายมากมายเสียด้วย มิเสียแรงที่ชอบเติมน้ำผึ้งแทนน้ำตาลในการชงกาแฟ
นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังแคลอรี่น้อยกว่าน้ำตาลเล็กน้อย แต่คุณค่าทางอาหารมากมายจริง ๆ
คุณค่าของน้ำผึ้ง
- วิตามิน
สารพัดวิตามินในน้ำผึ้ง ขึ้นอยู่กับว่า เป็นน้ำผึ้งที่ได้มาจากดอกไม้ประเภทใดบ้าง ที่มีมากที่สุดก็จะมี โฟเลต และวิตามินซี นอกจากนั้นจะเป็นไรโบลฟาวิน, ไนอาซิน, กรดแพนโทเทนิก และวิตามินบี 6
- เกลือแร่
มีเกลือแค่พอเหมาะกับที่ร่างกายต้องการ อย่าง แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, โพรแตสเซียม, เหล็ก, สังกะสี, แมกนีเซียม, ซีลีเนียม, ทองแดง และแมงกานีส โดยจะมีโพรแทสเซียมมากที่สุดประมาณ 11 มิลลิกรัม ต่อน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (21 กรัม)
- น้ำตาล
ในน้ำผึ้งจะประกอบไปด้วยน้ำตาลชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (กลูโคลสและฟรุกโทส) ที่มนุษย์และสัตว์นำไปสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย นอกจากนั้นจะเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่อย่าง มอลโทส, ซูโคลส และแล็กโทส และน้ำตาลโมเลกุลซับซ้อนอย่าง เดกซ์โทรส ที่ทำให้ชุ่มคอและทำให้ผิวชุ่มชื่น โดยการทำงานของน้ำตาลในน้ำผึ้งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ เพราะเหล่าน้ำตาลทั้ง 3 ชนิด จะมีคุณสมบัติดูดความชื้นจากบรรยากาศได้ คือสามารถดูดซึมน้ำออกจากจุลินทรีย์ได้ทั้งหมด ทำให้เชื้อโรคต่างๆไม่สามารถเติบโตได้ในความเข้มข้นของน้ำผึ้ง
ที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ การผลิตน้ำผึ้งโดยฝีมือมนุษย์เข้าช่วยผึ้งหาอาหารโดยนำน้ำตาลไปให้ผึ้งกิน จะทำให้มีปริมาณซูโครสมากเกิน ถือว่าไม่เป็นน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติค่ะ
- กรด
ในความหวานของน้ำผึ้งก็ยังมีกรดอยู่ด้วย อย่างกรด กลูโคนิก ซึ่งคือส่วนประกอบของน้ำตาลกลูโคลส รวมถึงกรดอะมิโนที่สำคัญ ไอโซลูซีน, ลูซีน, ไลซีน, โพรลีน, เมไทโอนีน และอื่น ๆ
- เอนไซม์
เอนไซม์ตัวสำคัญที่พบในน้ำผึ้ง คือ เอนไซม์อินเวอร์เทส ซึ่งจะเปลี่ยนน้ำตาลซูโครสในน้ำหวานของดอกไม้ ให้เป็นน้ำตาลกลูโคสและฟรุกโทส และเอนไซม์กลูโคออกซิเดส จะเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสให้เป็น กรดกลูโคนิก แล้วยังมีเอนไซม์ ตัวอื่นๆอีก ที่ทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโต และทำลายเชื้อโรคได้
- อินฮิบิน มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อโรค ช่วยรักษาแผลสดและแก้อักเสบได้
นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารอื่น ๆ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาทดลอง
เพราะเชื่อว่าสารเหล่านี้มีส่วนในการกระตุ้นปฏิกิริยาทางชีวภาพ อาจช่วยในการเจริญเติบโตของยีน
และช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
วิธีที่ 1 หยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชู ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอม หยดน้ำผึ้งจะขยายเป็นวงกว้าง
วิธีที่ 2 เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ในน้ำชา(ชาใบหรือชาถุง) ครึ่งแก้ว แล้วคนให้เข้ากัน
ถ้าน้ำชาเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ แปลว่า เป็นน้ำผึ้งปลอม เพราะน้ำชาจะต้องไม่เปลี่ยนสีถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้
วิธีที่ 3 ใช้ช้อนเล็ก ๆ ตักน้ำผึ้งขึ้นมา และปล่อยให้ไหลกลับไป น้ำผึ้งจะหยดไหลเป็นทางไม่ขาดสาย
และจะพับกองเป็นชั้น ๆ ก่อนจะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีที่ 4 ถ้าเก็บในที่อุณหภูมิต่ำ (ตู้เย็น) น้ำผึ้งจะมีผลึกน้ำตาลกลูโคสตกเป็นเกล็ดเล็ก ๆ
วิธีที่ 5 แตะน้ำผึ้งด้วยนิ้วและคลึงไปมา น้ำผึ้งแท้จะไม่แห้งและยังลื่นอยู่ตลอด
ด้วยประโยชน์มากมายซะขนาดนี้ ลองเปลี่ยนมาใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลในอาหารบางประเภท
เช่นใส่ในเครื่องดื่ม นอกจากจะให้ความหวานที่กลมกล่อมแล้ว ยังนำคุณค่ามาสู่ร่างกายอย่างมากมาย
แต่ควรหาซื้อน้ำผึ้งจากแหล่งขายที่มั่นใจได้จริง ๆ ค่ะ เพื่อคุณค่าที่จะมาแบบเต็ม ๆ
เพิ่มเติมอีกนิดว่า คุณค่าต้องมาพร้อมกับการบริโภคที่พอดีด้วยนะคะ
โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานก็ต้องระมัดระวังการรับประทานอาหารหวานตามคำแนะนำของแพทย์
เพราะยังไงเสีย ความหวานก็ยังเป็นความหวานอยู่ดีค่ะ
ขอขอบคุณภาพจาก : ria.ru, prafulla.net, pinterest.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th