" กินข้าวกับน้ำพริกสิจ๊ะ "
อาหารพื้นบ้านของคนไทยที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละภาค ต้องยกให้ "ผักและน้ำพริก" ค่ะ
อาหารจานสำคัญที่จะทำให้คุณเติมข้าวสวยอีกสักจานเสมอ แล้วที่สำคัญยิ่งไปกว่ารสชาติ
ก็คือประโยชน์ต่อสุขภาพที่มาครบพร้อมแบบไม่อ้วนอีกด้วย (ถ้าไม่เติมหลายจาน)
Cosme*net ยกสำรับพร้อมผัก-น้ำพริกมาเสิร์ฟพร้อมคุณค่าทางโภชนาการตามนี้เลยค่ะสำหรับมื้อต่อไปของคุณ
น้ำพริกกะปิสุดคลาสสิค
น้ำพริกกะปิอุดมไปด้วยแคลเซียมจากกุ้งเคย และวิตามินซีจากน้ำมะนาว นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรสำคัญอย่างกระเทียมเป็นส่วนประกอบ เราจึงได้ทั้งวิตามินบี1 และวิตามินซี จากกระเทียมด้วย ประโยชน์ของกระเทียมไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสรรพคุณต้านมะเร็ง และช่วยทำให้เลือดไม่จับตัวเป็นลิ่ม สำหรับภาคใต้ที่นิยมใส่พริกขี้หนูจำนวนมากในน้ำพริกกะปิ ที่พวกเขาเรียกว่า น้ำชุบ จะยิ่งได้รับ แคโรทีนไปเต็ม ๆ ซึ่งจะช่วยในการไหลเวียนโลหิต แต่หากรับประทานรสเผ็ดมากจนเกินไป ก็ต้องระวังจะปวดกระเพาะค่ะ
- ในน้ำพริกกะปินิยมใส่มะเขือพวง : ซึ่งอุดมไปด้วยแคลเซียมและวิตามินเอซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโต การสร้างกระดูก และป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ แล้วช่วยทำให้ผิวและผมแข็งแรง
- น้ำพริกต้องมากับผักชนิดต่าง ๆ : แนะนำให้รับประทานผักสดตามฤดูกาล ยิ่งถ้ามาจากร้านที่มั่นใจได้ว่าเป็นผักปลอดสารพิษ จะยิ่งดีต่อสุขภาพ
- น้ำพริกกะปิมักรับประทานคู่กับปลาทูทอดด้วย : ซึ่งจะทำให้คุณได้คุณค่าของสารอาหารจากปลาทะเล โดยเฉพาะวิตามินดี จำนวนมากในปลาทู จะไปช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเข้าสู่ลำไส้ได้ดี เพื่อไปช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง แล้วยังรักษาระบบประสาท การทำงานของหัวใจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และทราบหรือไม่ว่า ปลาทู มีกรดอมิโนโปรตีนสูงกว่าปลาอื่น ๆ ด้วยนะ โดยเฉพาะไลซีน ที่จะช่วยให้กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อ เส้นเอ็นแข็งแรง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยไขมันโอเมกา 3 อาหารสมอง พระเอกแห่งยุคนี้เลยทีเดียว
น้ำพริกอ่อง
เผ็ด ๆ กันมาแล้ว มาถึงน้ำพริกรสหวานอร่อยทานง่ายอย่างน้ำพริกอ่องกัน ไม่ใช่แค่อร่อย แต่ยังเป็นน้ำพริกเพื่อผิวพรรณของสาวๆอีกด้วย เพราะมี "มะเขือเทศสีดา" เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้เราได้รับวิตามินซีเพื่อไปช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์
- สารไลโคปีนในมะเขือเทศ : คือดับเบิ้ลความอ่อนเยาว์ ซึ่งเป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลส์ และไลโคปีนนี้คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มีพลังในการยับยั้งความเสื่อมของเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ๆ ด้วย
- โปรตีนจากเนื้อหมูในน้ำพริกอ่อง : ก็ช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้น้ำพริกถ้วยนี้เข้าไปอีก ตามด้วยผักสดที่อุดมไปด้วยประโยชน์ต่อร่างกาย มื้อนี้ก็เป็นอีกมื้อสุขภาพของสาว ๆ กันแล้วค่ะ
น้ำพริกปลาร้า
คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มหันมาทำความรู้จักกับ "ปลาร้า" กันมากขึ้น นั่นทำให้พวกคุณได้รับคุณค่าของสารอาหารเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย อย่าได้รังเกียจปลาร้ากันไปเลย เพราะจริง ๆ แล้ว ปลาร้านั้นก็เข้าไปอยู่ในตำรับชาววังกับเขาเหมือนกัน ในหลาย ๆ เมนู แต่มาดูกันว่า น้ำพริกปลาร้า มีอะไรที่พลาดไม่ได้บ้าง
- สมุนไพร : ที่ใช้มาคั่ว หรือเผา ก่อนนำมาตำน้ำพริก ประกอบไปด้วย กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู ที่เต็มไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี1 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และสารต้านอนุมูลอิสระ
- ปลาร้ามากด้วยโปรตีน ไขมันน้อย วิตามินเอ วิตามินบี 1,บี 2 ไนอาซีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก โดยจะมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่สูงมาก
ถึงแม้ว่าน้ำพริกปลาร้าจะเข้ากันได้ดีกับผักต้ม แต่การกินน้ำพริกให้ได้คุณค่าทางอาหารสูง ควรรับประทานกับผักสดที่ล้างสะอาดนะคะ ส่วนปลาร้าที่ใช้ก็ควรเป็นปลาร้าที่ผ่านกระบวนการที่สะอาดและต้มจนสุกแล้วด้วย
เห็นประโยชน์ของ น้ำพริก 3 ถ้วยนี้แล้ว ก็อย่าอร่อยจนลืมตัว เติมข้าวหลายจาน
หักห้ามใจสักนิด เก็บน้ำพริกใส่ตู้เย็น ปิดฝาให้มิดชิด จะสามารถนำกลับมาอุ่นทานได้อีกในมื้อถัดไปค่ะ