"มังคุด โลละ 20 บาท กับประโยชน์เกินร้อย"
ขณะที่ชาวสวนผลไม้ขายส่งมังคุดกันจากสวน
ในราคากิโลกรัมละไม่ถึงสิบบาท และมาถึงพวกเราในราคากิโลละไม่กี่สิบบาท
พวกเราทราบไหมคะว่า ผลไม้ราคาถูก รสชาติหวานอร่อย กับฉายา "ราชินีแห่งผลไม้"
นั้นมากไปด้วยคุณค่าต่อร่างกาย และกลายเป็นผลไม้ส่งออกไปทั่วทุกทวีปในรูปของน้ำมังคุด
นั่นเพราะความอร่อยที่มากคุณค่าของมังคุดนั่นเอง
- มังคุดสามารถปรับระดับภูมิคุ้มกันให้สมดุล
ซึ่งจะช่วยทำให้ลดอาการที่เกี่ยวข้องกับการแพ้ภูมิตัวเองและการอักเสบต่าง ๆ รวมถึงความผิดปกติของสมองอันเกิดจากการอักเสบด้วย
- มังคุด ช่วยเพิ่มการหลั่งสาร Interleukin II ของเม็ดเลือดขาว
ซึ่งทำให้ร่างกายของเราสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอมทั้งหลาย อย่างไวรัส แบคทีเรีย ที่เข้าสู่ร่างกาย
- GM-1 เป็นสารแซนโธนที่มีมากในเปลือกมังคุด
สามารถยับยั้งเชื้อมาลาเรีย ต้านออกซิเดชัน รักษาโรคข้อเสื่อมได้ดี
ในประเทศอื่น ๆ ก็เห็นประโยชน์ของมังคุด และใช้มังคุดในการรักษาโรคต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ
- ประเทศอินโดนีเซีย
ใช้เปลือกไม้ของต้นมังคุด กินแก้โรคบิด และนำใบแห้งมาต้มดื่มแก้ไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง
- ประเทศจีน
มีการนำเข้าเปลือกมังคุดแห้ง เพื่อนำไปบดเป็นผงใช้เป็นยาแก้บิด แล้วยังใช้สกัดใส่ยาขี้ผึ้ง (ointment) ใช้ทารักษาอาการผื่นแพ้และปัญหาทางผิวหนังอื่น ๆ ชาวจีน นำเปลือกผลของมังคุดมาใช้ต้มกินเพื่อรักษาอาการท้องร่วงและทางเดินปัสสาวะอักเสบ โรคโกโนเรีย
- ประเทศฟิลิปปินส์
ก็ใช้ใบและเปลือกของต้นมังคุดมาต้มน้ำเพื่อรักษาอาการท้องเสีย โรคบิด ช่วยถ่ายพยาธิ และโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ แล้วยังเชื่อด้วยว่าการกินผลมังคุดจะทำให้ไข้ลด
- ประเทศมาเลเซีย
ใช้ใบมังคุดไปต้มชง นำมาผสมกล้วยดิบ โดยใส่เบนโซอินไปเล็กน้อยใช้ทาแผลที่ขลิบ และใช้รากมังคุดต้มดื่ม รักษาอาการประจำเดือนไม่ปกติ ใช้เปลือกมาสกัดสาร "amibiasine" ขายในท้องตลาดเพื่อรักษาโรคบิด
- ประเทศแถบทะเลแคริบเบียน
จะมีชา "eau de creole" ทำจากมังคุด มีฤทธิ์เป็นยาบำรุงแก้อ่อนเพลีย และเชื่อว่าการกินมังคุดจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายเป็นปกติ
บอกแล้วว่า โลละ 20 บาท แต่ประโยชน์เกินร้อย รีบซื้อหามาไว้กินก่อนจะหมดฤดูกาล ช่วงนี้ยังพอหาได้บ้าง
แต่ถ้าไม่ทันก็เอาไว้รอฤดูกาลหน้าก็ได้นะคะ อยู่เมืองไทยมีผลไม้ สด ๆ อร่อย ๆ
อุดมด้วยประโยชน์ให้รับประทานกันตลอดปี
ผลัดกันมาไม่มีหมดอยู่แล้วค่ะ
พลาดจากมังคุด ก็รออ่านเรื่องราวของผลไม้มากคุณค่าได้ที่นี่เรื่อย ๆ
Cosme*net จะทยอยเอามาฝากกันเรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทยค่ะ www.mangosteenrd.com