สมอง คือส่วนที่ควบคุมการทำงานของร่างกายทั้งหมด ทั้งการเคลื่อนไหว การพูด ความคิด และกระบวนการทั้งหมด แม้แต่ในยามหลับ สมองของคุณก็ไม่เคยหยุดทำงาน ดังนั้น การละเลยที่จะดูแลสมอง ดูจะไม่ฉลาดเลยเนอะ ว่าไหม นอกจากการฝึกสมองด้วยการเล่นเกมส์บางอย่าง และการนั่งสมาธิ ที่พวกเรารู้กันอยู่แล้ว เรื่องอาหารสมองก็อย่าได้ขาด แล้วทราบกันไหมคะว่า เราจะ Feed สมองกันด้วยอะไรดี?
1. กาแฟ
โอ้ กาแฟ ใครจะคิดว่าเครื่องดื่มอันอุดมไปด้วยคาเฟอีนแก้วนี้จะกลายมาเป็นอาหารสมอง ก็คาเฟอีนใช่ว่าจะเป็นตัวร้ายไปเสียทุกเรื่องนี้นา ในเมื่อคาเฟอีนในระดับที่พอดีนั้น จะช่วยให้สมองตื่นตัว คุณจะสามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น และผลการวิจารจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดวัยพบว่า การดื่มกาแฟเพื่อส่งผลดีดังกล่าวต่อร่างกายนั้น ต้องไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อชั่วโมง และนักวิจัยเห็นด้วยกับการดื่มกาแฟในตอนเช้าเพื่อให้กระฉับกระเฉง แต่ก็ไม่ควรวันละเกิน 2 แก้วครึ่ง หรือ 200 มิลลิกรัม นอกจากนี้การดื่มกาแฟ 1 แก้วใหญ่ (คาเฟอีน 100มิลลิกรัม) ก่อนออกกำลังกายประมาณครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้กระชุ่มกระชวย แต่หากคุณมักเกิดอาการใจสั่นหลังการดื่มกาแฟ ก็ไม่ควรค่ะ เพิ่มคุณค่าให้ร่างกายอีกนิดด้วยการเติมนมสดลงไปในกาแฟ เป็นการเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกายอีกด้วย
2. เมล็ดวอลนัท
แม้จะเป็นถั่วประเภทที่หาซื้อได้ในราคาสูงสักหน่อยในประเทศไทย แต่ก็อุดมไปด้วยคุณค่าที่ถือว่าราคาถูกกว่าอาหารเสริม แล้วยังมีรสชาติกรุบกรอบ อร่อยมันๆ อีกด้วย เมล็ดวอลนัท อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และ โอเมก้า 6 มากกว่าถั่วชนิดอื่น การรับประทานวอลนัทเป็นประจำ จะช่วยทำให้ความเครียดไม่พุ่งปรี๊ดอีกด้วย เพราะเข้าไปช่วยควบคุมสมดุลเคมีในสมอง ราคาของเมล็ดวอลนัทจะอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 600-800 บาท ในบ้านเรา
3. เมล็ดฟักทอง
เป็นตัวช่วยที่หาได้ง่ายที่สุดแล้วในบ้านเรา แล้วหลายคนคงไม่รู้ว่า เมล็ดฟักทองอบเกลือห่อละ 10-25 บาท นั้น อุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุที่สมองต้องการอย่างสังกะสี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามินเอ และเส้นใยอาหาร เมล็ดฟักทองช่วยในเรื่องความจำของสมองได้ดี คุ้มเลยกับของทานเล่นราคาถูกแต่คุณค่าล้นเหลือ
4. ปลาสวาย
นักวิจัยของไทยพบว่า โอเมก้า 3 ที่ช่วยพัฒนาระบบประสาทและสมองนั้น ไม่ได้มีแต่ในปลาทะเลน้ำลึกเท่านั้น แม้แต่ในปลาสวาย ซึ่งเป็นปลาน้ำจืด ก็มีโอเมก้า3 สูงเช่นกัน จากผลการวิจัยพบว่าในปลาสวายมีโอเมก้า 3 สูงกว่าในปลาแซลมอนด้วยซ้ำ โดยเนื้อปลา 100 กรัมนั้น ปลาสวายจะมีโอเมก้า3 ปริมาณ 2,570 มิลลิกรัม ขณะที่ปลาแซลมอนจะมีเพียง 1,000-1,700 กรัม แต่วิธีกินปลาสวายให้ได้โอเมก้า3 สูงสุดคือ การนำมานึ่งนะคะ
5. ธัญพืช
ใครที่ไม่ค่อยชอบรับประทานพวกธัญพืชทั้งหลาย ควรจะเริ่มนำเข้ามาเติมเข้าไปในอาหารบางมื้อกันบ้างนะคะ เพราะธัญพืช ช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาท และป้องกันการเสื่อมของเซลล์ทั้งหลาย รวมถึงเซลล์สมองด้วย
6. ดาร์กช็อคโกแลต
ใครที่ชอบทานช๊อคโกแลตขมๆ ก็ได้ประโยชน์กันไปเต็มๆ ด้วยสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ลดการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด และยังมีสารประกอบ ฟลาวานอล และกลุ่มสารโพลีฟีนอลที่ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น การรับประทานช๊อคโกแลตให้ได้ประโยชน์ ควรให้มีเนยโกโก้อย่างน้อย 65% ในช๊อคโกแลตด้วยนะคะ
7. อโวคาโด้
ผลไม้เลอค่าที่ไม่ควรมองข้ามอย่างอโวคาโด้ แม้จะมีราคาสูงกว่าผลไม้ส่วนใหญ่ที่ปลูกได้ในบ้านเรา แต่ก็หยิบติดมือกลับมาบ้านบ้างก็ดี เพราะอโวคาโด้ มีกรดไขมันโอ้เมก้า 3 และ 6 ที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยบำรุงประสาทและสมอง และกรดโอเลอิกที่มีอยู่มากจะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. น้ำดื่มสะอาด
ผลการวิจัยจากวงการแพทย์ บอกว่า สมองของคนเราสูญเสียน้ำรวดเร็วกว่าอาการกระหายน้ำของเราเสียอีก และนั่นจะทำให้เราเกิดอาการงัวเงีย เบื่อหน่าย ขาดสมาธิ ดังนั้นมาเพิ่มศักยภาพทางสมองด้วยการวางน้ำดื่มเอาไว้ใกล้ตัวอยู่เสมอ และอย่าขี้เกียจยกขึ้นดื่มในเวลาที่รู้สึกกระหายน้ำ ฝึกให้เป็นนิสัย อย่าปล่อยให้สมองขาดน้ำ
เห็นไหมล่ะ...มีอาหารหลายอย่างในลิสท์ที่คุณพลาดไป และอาจทำให้นึกไปถึงปัญหาความจำ ความมึนของคุณในบางครั้ง อาจเป็นเพราะสมองขาดอาหารบางประเภทก็ได้ว่าไหมล่ะ? แบบนี้ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว รีบจัดด่วน กับอาหารสมองในมื้อต่อไปเลยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : cosmopolitan.com