หลายตำราสอนเราว่า "คิดบวก" แล้วดีจริงๆ ทั้งต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และมีแนวโน้มไปสู่ความสำเร็จในชีวิตด้วย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังเข้าใจว่า คิดบวก ก็คือแค่ "มองโลกในแง่ดี" ซึ่งความจริงแล้ว คำว่า คิดบวก หรือ Positive Thinking มีความหมายไปไกลกว่านั้นเยอะเลย เพราะ คิดบวก หมายถึง เลือกจะพูด จะคิดในด้านทีเป็นบวกไปทั้งหมด โดยไม่ไปทำให้สะดุดด้วยคำว่า "แต่ถ้าไม่ได้..." หรือ "อาจจะไม่..." เป็นต้น และใช่ว่าดันทุรังต้องได้เท่านั้น แต่ต้องมีความเชื่อว่าต้องดี ต้องทำได้สิ คือเราต้องดำเนินชีวิตแบบโลกสวยอย่างมีสตินั่นเอง เพราะเมื่อเชื่อในด้านดี คุณก็จะมีพลังผลักดันไปในทางดีมากกว่า
มาเริ่มฝึกกันดีกว่า ทีละ Step ตามเวลาตั้งแต่ตื่นเช้ายันเข้านอนเลย!
- Step 1 (6.00 น.) : ตื่นเช้าและพูดกับตัวเองว่า "โลกสดใส วันนี้ฉันมีพลังจังเลย"
- Step 2 (6.30 น.) : ส่องกระจก ชมส่วนที่เราชอบทีละส่วน เช่น ฉันชอบเส้นผมของฉัน ฉันชอบน่องของฉัน ฉันชอบจมูกของฉัน โดยไม่ต้องไปสนใจส่วนอื่นๆ ให้เลือกส่วนที่ตัวเองชอบ สำหรับวันแรกๆ
- Step 3 (7.30 น.) : อ่านหนังสือดีๆ ก่อนเริ่มงาน ไม่ว่าจะเป็นบนถนนตอนรถติด หรือระหว่างที่นั่งรถไฟฟ้า หนังสือดีๆ คือ หนังสือธรรมะ หรือข้อคิดดีๆ เชิงบวก
- Step 4 (8.00 น.) : ทักทายคนที่พบคนแรกของวันด้วยคำชื่นชม เช่น "โอ้โห กระโปรงตัวนี้ใส่แล้วดูดีมากเลย" หรือ "เธอดูฟิตขึ้นนะ" "วันนี้หน้าตาสดชื่นดีจัง" รับรองว่าคนที่คุณชมจะส่งยิ้มสวยมาให้ ซึ่งจะก่อพลังเล็กๆ ขึ้นในตัวคุณแน่นอน
- Step 5 (9.00 น.) : หลับตาหายใจเข้าออกช้าๆ สัก 1-2 นาที ก่อนเริ่มงาน เพื่อให้สมองปลอดโปร่ง ระหว่างที่หลับตาก็จับให้ได้ว่าเผลอว่อกแว่กไปคิดไม่บวกอะไรอยู่หรือเปล่า จำเอาไว้ วันนี้คุณจะคิดให้ดีงาม
- Step 6 (10.00 น.) : หาโอกาสทำบุญช่วยเหลือใคร หรืออะไรสักหน่อย เล็กๆ น้อยๆ ในเว็บไซต์มีอยู่เยอะแยะเลย พร้อมกับอวยพรพวกเขาในใจด้วย
- Step 7 (11.00 น.) : ยิ้มให้ใครต่อใครให้มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพบว่า "เฮ่ย ทำไมงานมันยากจัง" "น่าเบื่อจัง" ก็ให้คิดว่า วันนี้ได้ฝึกทักษะเพิ่มเติมอีกแล้ว ยิ้มกว้างๆ ไปเลย
- Step 8 (12.00 น.) : พักเที่ยง โทรไปบอกรักใครก็ได้ หรือบอกผ่านไลน์ก็ดี
- Step 9 (14.00 น.) : แชร์เรื่องราวดีๆ มาสร้างกำลังใจใครต่อใครในโลกโซเชียล และหยุดอ่านเรื่องหดหู่ เพราะถึงคุณไม่อ่าน เรื่องพวกนี้ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี
- Step 10 (15.00 น.) : ทำงานวันนี้ให้ดีที่สุดและให้เสร็จแบบไม่ขาดไม่เกิน หมายถึงไม่จำเป็นต้องไปเกินเยอะถ้าคุณเหนื่อย แต่ถ้าไม่เหนื่อยก็ทำไปเยอะๆ เลย ที่สำคัญ ถึงเหนื่อย แต่งานไม่เสร็จ ก็ต้องสร้างพลังให้กับตัวเองด้วยการเบรกสัก 5-10 นาที นั่งฟังเพลง หรือหลับตาทำสมาธิ แล้วคุณจะนิ่ง พร้อมลุยรวดเดียวจบ
- Step 11 (17.00 น.) : ขอบคุณใครหรือสิ่งใดๆก็ตามที่ดีกับชีวิตของคุณ
- Step 12 (22.00 น.) : ทบทวนเรื่องราวดีๆ ประจำวันพร้อมชื่นชมตัวเองก่อนนอน
สำหรับวันแรกๆ เริ่มแบบนี้กันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งระบบความคิดของคุณถูกเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติให้มองโลกอย่างสร้างสรรค์ ชื่นชมผู้คนและตนเองมากขึ้น ถ้าคุณอยากให้โลกเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนที่ตัวเรา โลกก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปค่ะ ก็คุณมองโลกไม่เหมือนเดิมแล้วไง แทนที่จะหันไปมองรถขยะข้างหน้าแบบอารมณ์หดหู่ คุณก็จะมองเลยไปที่ตำรวจจราจรบนถนนที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งในเสื้อปิดคอปิดแขนฟิตเปรี๊ยะแทนด้วยความเห็นใจ เป็นไงล่ะโลกสวยขึ้นโดยพลันใช่ไหมล่ะ มาเปลี่ยนชีวิตด้วยการคิดบวกกันดีกว่า