และนี่คือสีทั้งหมดที่เราจะใช้ในวันนี้นะคะ อันแรกเลยที่ผู้หญิงอย่างเราแทบจะขาดไม่ได้คืออายไลเนอร์ค่ะ
กันค่ะ ฟ้าลองขีดลงบนผิวแค่ครั้งเดียวนะคะ จะเห็นว่าสีเข้มชัด และด้วยความที่เนื้อของอายไลเนอร์ที่ขีดแล้วสามารถเกลี่ยให้ฟุ้งๆด้วย ก็จะดูให้หน้าของเราเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
เป็นเนื้อกลอสที่มีความแวววาวแต่ไม่ได้เยอะจนทำให้ดูเหมือนปากมันเพราะไปกินข้าวมันไก่มา ตรงนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้หญิงได้เป็นอย่างดีค่ะ คือ
แต่ถ้าอยากได้สีสันซักหน่อยเราก็ทาให้เต็มที่ไปเลยค่ะ เนื้อลิปข้นสีติดแน่นดีมีกลิตเตอร์นิดๆทำให้สามารถใช้ได้ทั้งตอนที่ต้องออกงาน หรืออยากสวยในวันธรรมดาก็ย่อมได้ค่ะ
ในเรื่องของแพ็คเกจไม่ต้องกลัวตกแตกเลยค่ะ เพราะเป็นกระดาษอัดแข็ง น้ำหนักเบา พกง่ายสบายกระเป๋าค่ะ
สำหรับพาเลทนี้
Warm Neutrals ที่เราใช้จะเน้นไปทางแต่งหน้าให้เป็นธรรมชาติดูอบอุ่น สีก็จะเป็นประมาณนี้ โดย
ด้านหลังพาเลทจะมีชื่อเรียกแต่ละสีให้ด้วยค่ะ ขอบอกว่าตอนแรกที่แกะกล่องออกมาแอบคิดไปเหมือนกันนะคะว่าจะงงไหมว่าเราใช้สีไหน กลัวคราวต่อไปจะใช้สีไม่ถูกจำสีผิดบ้าง แต่พอพลิกดูด้านหลังก็โล่งใจค่ะใช้ครั้งหน้าไม่งงแน่นอน
สำหรับลุคแรกที่เราจะครีเอทนั้นเป็น
ลุคแต่งหน้ามาทำงานแบบสบายๆค่ะ หรืออาจจะใช้ลุคนี้เป็น
Daily Look ได้เช่นกัน คือเอาแค่พอออกไปพบเจอผู้คนได้อย่างไม่อายใครค่ะ หลังจากที่เราเตรียมพร้อมผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว (ขั้นตอนการเตรีมผิวหน้าอยู่ที่แต่ละคนนะคะ) ของฟ้าหลังจากทำความสะอาดผิวหน้า และทารองพื้นแล้วก็ใช้
Eye Shadow Base ตัวนี้ลงที่เปลือกตาก่อน นอกจากจะช่วยให้อายแชโดว์เกลี่ยที่เราทาไปแล้วเกลี่ยง่ายแล้วยังติดทนนานตลอดวัน อีกด้วยค่ะ
จะเห็นว่าหลังจากทา
Eye Shadow Base ไปแล้วเปลือกตาเราจะมีเข้มขึ้นมานิดนึง แต่ไม่ใช่สีจัดแบบเวลาลงอายแชโดว์นะคะ จะเป็นสีบางๆคล้ายๆเวลาเราทาเบสหรือรองพื้นลงบนหน้านั่นล่ะค่ะ
ของเราเน้นมองแล้วหน้าไม่ติดแต่ก็ดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้าหนักมาค่ะ ฟ้าเลยใช้สี
Milky ทาทั่วเปลือกตา แล้วผสม สี
Cinnnamon ทาทับลงไปอีกครั้งค่ะ
มาที่อายไลเนอร์ต้องบอกว่าดีงามค่ะ เพราะปกติฟ้าจะแต่งหน้าบนรถทุกเช้าเพราะบ้านอยู่ค่อนข้างไกลจากที่ทำงาน อายไลเนอร์ที่ใช้ประจำก็จะเป็นแบบน้ำทำให้กรีดตาลำบาก พูดง่ายๆว่าตาเบี้ยวมาทำงานทุกทีเลย T_T ต้องมานั่งลบและกรีดใหม่อยู่บ่อยๆค่ะ ค่ะ พอได้ใช้
Eye Liner Pencil ก็รู้สึกชีวิตง่ายขึ้นเยอะค่ะ เพราะเนื้ออายไลเนอร์เขียนทีเดียวก็ได้เส้นที่คมชัด ตอนอยู่บนรถฟ้าเขียนได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องเป็นกังวลเหมือนตอนใช้สูตรน้ำเพราะถ้าพลาดปุ๊ปเลอะยาวลบยากด้วยค่ะ สีแรกนี้ที่ฟ้าใช้เป็นสี
Vintage ก็จะให้สีอ่อนๆดูเป็นธรรมชาติไม่เข้มมาก เพิ่มความโตของดวงตาได้ในระดับหนึ่ง
แต่งตาเสร็จแล้วได้ลุคประมาณนี้ค่ะ แต่งเหมือนไม่แต่ง ชอบมากๆเลยค่ะ
เราใช้ลิปสีนี้ค่ะ Skiny Dip ทาลงไปบางๆพอไม่ต้องหนานะคะ จะได้ดูเป็นธรรมชาติเข้ากับเปลือกตาค่ะ
ภาพรวมของลุคมาทำงานตอนเช้าค่ะ หน้าไม่ป่วยดูสวยใสวัยรุ่นชอบเลยจ้า
ลุคที่ 2 - Meeting Look
มาถึงลุคที่สองได้เวลาเข้าประชุมค่ะ เราทาอายแชโดว์เพิ่มด้วยสี
FAWN สีไม่ทิ้งจากลุคที่หนึ่งมากค่ะ แค่เติมให้เข้มขึ้นนิดหน่อยและมีกลิตเตอร์แทรกอยู่บนเปลือกตาดูไม่เปลือยจนเกินไป
จากนั้นหยิบอายไลเนอร์สี
Nutmag สีน้ำตาลที่ผสมความแวววาวน้อยๆ นอกจากได้ดวงตาที่กลมโตจากลุคแรกแล้วนั้น
พอเราใช้สีนี้วาดขอบตาทับก็ช่วยให้ตาดูฟุ้งๆดูนุ่มนวลมากขึ้นไม่แข็งทื่อ มองแล้วไม่หลอกตาค่ะ
ใครอยากเพิ่มลูกเล่นให้ตาโตขึ้นมากกว่านี้ก็ใช้อายแชโดว์สี
Milky ที่เราใช้ตอนแรก ทาตรงช่วงหัวตาลากยาวมาจนถึงกลางตาตาค่ะ ด้วยลุคที่ต้องการเน้นไปทางธรรมชาติโทนอบอุ่นเลยที่เลยใช้อายแชโดว์วาดค่ะ เพราะไม่อยากให้เส้นหนาเกินไป และกลัวจะไปกลบความคมชัดของอายไลเนอร์สีน้ำตาลซะหมด
จะได้โทนสีตาออกมาแบบนี้ค่ะ อย่าลืมปัดขนตาด้วยนะจ้ะ
ส่วนลิปเราใช้สีเดิม Skinny Dip เติมลงไปออกสีมากขึ้นค่ะ
มาถึงลุคที่สามกันแล้ว - Event Look เป็นลุคออกงานอีเว้นท์ของฟ้าเองค่ะ ด้วยความที่เราต้องไปพบเจอผู้คนเยอะก็สามารถแต่งหน้าแบบจัดเต็มได้เลย แต่อย่าให้ดูเยอะเกินไปเอาแบบพอดีที่คนมองแล้วเรารู้สึกมั่นใจ เราไม่ต้องทาอายแชโดว์สีอื่นทับนะคะ แต่อาจลงสีเดิมซ้ำให้เข้มขึ้นได้ค่ะ เนื่องจากสีเดิมที่ใช้จากลุคที่2มีกลิตเตอร์อยู่แล้ว เวลาเปลือกตาโดนแสงไฟก็จะแวววาวสามารถออกงานได้อย่างเฉิดฉายเลยค่ะ ลุคนี้ฟ้าจะเน้นในส่วนขอบตาโดยการใช้อายไลน์เนอร์สีดำนะคะ
เมื่อเสร็จจากขั้นตอนการเขียนขอบตาทั้งด้านบนและล่างแล้ว เราจะมาทำดั้งพุ่งกันจ้า
โดยใช้สี Cozy ไล้ด้านข้างจมูกทั้งสองข้างเลย เว้นพื้นที่ตรงกลางไว้เพื่อลงสี
Sugar Milk ค่ะ ก็จะได้ดั้งแบบในภาพ ฟ้าจะไล้เข้มหน่อยเนื่องจากออกงานและเจอแสงไฟค่ะ แต่ถ้าใครอยากให้ดูธรรมชาติมากกว่านี้ก็ไล้ด้วยอายแชโดว์สีอ่อนได้นะคะ
ฟ้าใช้ลิปสี Steady Glow มีกลิตเตอร์ผสมในเนื้อกลอส และให้สีเข้มสดใส ทำให้หน้าดูมีสีสันมากขึ้น
และนี่คือลุคที่สามที่ฟ้าแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ^^ ดูโตขึ้นมาจากลุคแรกเยอะเลย
ลุคที่4 – Party Look หลังจากทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาปล่อยแก่แล้วจ้า สำหรับลุคปาร์ตี้กับเพื่อนแฮงก์เอาท์สุดมันส์ ฟ้าเลือกให้ใบหน้าตัวเองสุดเหวี่ยงเต็มที่กับสีแสบซ่าค่ะ เริ่มด้วยลงสี Warm Stone ที่เข้มที่สุดของพาเลทลงไปบนเปลือกตา
จะได้สีตาเข้มประมาณนี้ ฟ้าเลือกใช้สีเข้มเพราะเราต้องอยู่ยาวทั้งคืน ไม่ได้เติมหน้าบ่อยๆ ถึงสีอาจจะดร็อปลงไปเล็กน้อยบ้าง แต่ก็ยังมีสีอายแชโดว์ติดอยู่บนเปลือกตาอยู่ดีค่ะ
ส่วนอายไลเนอร์ และ ลิปสติก ฟ้าใช้สีขนมหวานเปลี่ยนลุคให้เป็นสาวปาร์ตี้ด้วย อายไลเนอร์สี My Cloud และ ลิปสี Chill Out ค่ะ
และนี่คือลุคที่ได้จ้า ถ้าอยากเพิ่มความเด่นที่ดวงตาสามารถติดขนตาปลอมเพิ่มเข้าไปได้เลย ดีงามมากค่ะ
มาดูสี่ลุคในหนึ่งวันของฟ้ากันค่ะ เรื่องการแต่งตัวเราหาชุดที่สามารถได้ในหลายโอกาส หรือเสื้อนอกเก๋ๆติดไว้สักตัว ไว้ใช้เปลี่ยนลุคไปมาได้นะคะ
ต้องขอบคุณตัวช่วยแปลงกายของเหล่า
Sigma Beauty ที่ช่วยเปลี่ยนลุคให้ฟ้าเจิดจรัสเก๋ไก๋ไฟท์ติ้งพร้อมทุก สถานการณ์ในครั้งนี้ด้วยค่ะ สำหรับสาวๆคนไหนที่สนใจอยากมีไว้ครอบครองสามารถหาซื้อได้ที่ร้าน
LASHES ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยที่เดียวเท่านั้นค่ะ
ฟ้ามีโปรโมชั่นจาก Sigma มาฝากค่ะ
เมื่อซื้อ Sigma Eyeshadow Palette 1 ชิ้น
รับแปรงอายแชโดว์ มูลค่า 550 บาท ฟรี !
เพียงโชว์คูปองนี้ที่ Lashes สาขาสยามซอย 5 เท่านั้น