ฟองโฟมนุ่มยืดย้วยที่สาว ๆ เห็นในโฆษณาโฟมล้างหน้าหลาย ๆ ยี่ห้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกโฟมสัญชาติญี่ปุ่น นอกจากจะทำให้ดูน่ารักน่าใช้ สาว ๆ รู้ไหมคะ ว่าการตีโฟมให้ขึ้นโฟมวิปโฟมเนี่ยมันมีประโยชน์อีกมากมาย เพราะมันเป็นหนึ่งในขั้นตอนทำความสะอาดใบหน้าที่สาวญี่ปุ่นนิยม (จริง ๆ ตอนนี้ก็นิยมกันทั่วโลกเลยแหละ ^^) นั่นก็เนื่องมาจาก ฟองโฟมเนี้ย มันจะละเอียดมากกว่าเนื้อโฟมหรือสบู่ไม่ได้ผ่านการตีฟอง ไม่เกิดการบาดผิวหน้า ดังนั้น มันเลยสามารถเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึกมากนั่นเองง
เมื่อเรารู้แล้วว่ายิ่งฟองเยอะ ฟองนุ่ม ยิ่งดีต่อการทำความสะอาดผิวหน้า แล้วแบรนด์ของโฟมล้างหน้าในท้องตลาดช่วงนี้มีเยอะมาก แบรนด์แปลก ๆ จากร้านดรักสโตร์สัญชาติญี่ปุ่น ก็มีเยอะแยะมากมายหลายหลาก
แล้วเราเอามาตีฟองโฟมได้ทุกยี่ห้อหรือไม่? แต่ละแบรนด์แตกต่างกันอย่างไร? วันนี้ Cosme*net Street Team เลยเอาโฟมล้างหน้าที่งัดจากหน้ากระจกของสาว ๆ cosme*net ทั้ง 4 ตัวมาแข่งกันดูซิว่า โฟมไหนฟูฟ่องสุด แน่นสุด แล้วก็นุ่มสุด มาดูกัน!!!!
หลอดที่ 1 Covermark Mineral Wash ราคาหลอดละ 1,200 บาท เคลมว่า ฟองโฟมเข้มข้น มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก
ผู้ทดสอบตีฟองคือ น้องมาย คนดีคนเดิมเพิ่มเติมฟองเพียบ (เชื่อหนูสิ!)
หลอดที่ 2 Three Balancing Foam โฟมล้างหน้าที่หอมผ่อนคลายที่สุดด้วย เอสเซนเชียล ออยล์ และฟอสซิล คอรอล จากจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยทำความสะอาดล้ำลึก ดูกระจ่างใสและอ่อนนุ่ม
หลอดนี้ทดสอบตีฟองโดย พี่ฟ้าใส เพื่อแบรนด์ในดวงใจเธอทุ่มสุดตัว
หลอดที่ 3 Shiseido Senka Perfect Whip Foam วิปโฟมตัวดังที่สาว ๆ หลายคนคุ้นเคย คุณสมบัติชำระล้างและปริมาณฟองโฟมฟูฟ่องทำให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในบรรดาโฟมล้างหน้าแบบตีฟองนุ่มด้วยกัน
น้องแพรว บอกจะตีฟองให้สูงเท่าแก้วซ้อนกันสามชั้นให้ดู
หลอดที่ 4 Biore 2in1 Makeup Remover Foam โฟมล้างหน้าสูตรผสมสารทำความสะอาดเมคอัพในขั้นตอนเดียว หมดจดทั้งคราบเมคอัพ สิ่งสกปรกอุดตัน ใช้ได้ทุกวัน แม้วันที่ไม่แต่งหน้า และยังรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
พี่หนูนา ขออาสาตีโฟมหลอดจิ๋วหลอดนี้สู้ดูซักตั้ง
"เปรียบเทียบเนื้อของโฟม"
"ขั้นตอนการตีโฟม"
มาถึง ขั้นตอนตีฟองโฟม แล้วนะคะ วิธีตีฟองโฟมจริง ๆ ไม่ยาก แต่ต้องใช้ความอดทนเล็กน้อยค่ะ นั่นก็คือ บีบโฟมล้างหน้าบนมือ แล้วก็หยดน้ำลงไป ถู ๆ วนๆ หยดน้ำ ถู ๆ วน ๆ จนโฟมขึ้นฟอง ซึ่งกว่าจะฟูเนี่ย แรก ๆ ก็ยังสนุกดีหรอก หลัง ๆ เริ่มเมื่อยมือ (หรือขี้เกียจ) ดังนั้น โลกใบนี้เขาก็ประดิษฐ์สิ่งที่ทุ่นแรงให้การตีฟองโฟมเป็นเรื่องง่ายขึ้น นั่นก็คือ เจ้าฟองน้ำช่วยตีโฟม (มีจำหน่ายตามร้านขายของ 60 บาท) หน้าตาแบบนี้นี่เองค่ะ
เมื่อถึงขั้นตอนตีฟองโฟมพบว่า แต่ละยี่ห้อ ให้การขึ้นโฟมที่แตกต่างกันออกไป
*เราอนุญาตให้สาว ๆ ใส่น้ำเพิ่มไม่เกิน 3 ครั้ง ในการตีฟองโฟมนะคะ*
Shiseido Senka Perfect Whip Foam
Covermark Mineral Wash
Biore 2in1 Makeup Remover foam
THREE Balancing Foam
"ลักษณะของเนื้อโฟมหลังการตีฟอง"
Shiseido Senka Perfect Whip Foam เนื้อโฟมค่อนข้างเบาค่ะ แอบนึกถึงฟองเวลาถูสบู่ตีแช่อาบ แต่มันแน่นกว่าแล้วก็ค่อนข้างนุ่ม ๆ
Three Balancing Foam เนื้อโฟมเนียนค่ะ ตอนตีขึ้นจะค่อนข้างช้าแต่ว่ามั่นคง คือจะเป็นโฟมที่เนียน ค่อนข้างแน่น ไม่ค่อยมีรูพรุนแบบฟองสบู่เท่าไหร่ค่ะ
Biore 2in1 Makeup Remover Foam เนื้อโฟมขึ้นฟองง่ายกว่าที่คิด เนื้อเนียนดีแต่ไม่แน่น เท่า Three Balancing Foam ความนุ่มไม่เท่า Shiseido Senka Perfect Whip Foam
Covermark Mineral Wash เนื้อโฟมหนืดมาก ขึ้นช้า แต่ได้ในเรื่องของความแน่น แบบ แน้นแน่น นึกสภาพถึงความเป็นวิปครีม ที่มีความฟู และหนักกว่าตัวอื่น ๆ
คราวนี้เราจะตั้งโฟมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วมาดูกันว่าโฟมจะมีสภาพเป็นอย่างไร
ยี่สิบนาทีผ่านไป…
แต๊นนนน....ดูไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ก็จะมี Covermark ที่ดูยุบ ๆ กับ Biore และ Three ที่ย้วยล้นขอบ
คราวนี้เรามาเรียงลำดับ "ความแน่นของโฟม" หลังจากทิ้งเอาไว้ 20 นาทีกันค่ะ ผลลัพธ์ได้แก่….
ความแน่นของเนื้อโฟม Three มาเป็นอันดับ 1 ตามด้วย Covermark / Shiseido และ Biore ตามลำดับ
คราวนี้เรามาเรียงลำดับ "ความฟูฟ่องของโฟม" หลังจากทิ้งเอาไว้ 20 นาทีกันค่ะ ผลลัพธ์ได้แก่….
ความฟูฟ่อง Shiseido Senka มาเป็นที่ 1 ตามด้วย Three / Biore และ Covermark ตามลำดับ
มาดูเนื้อโฟมแบบซูมกันใกล้ ๆ ชัด ๆ บ้างค่ะ
ขุ่นพระ…. ดู Shiseido Senka ความพรุนและหน้าตาของมันดูแปลกมากกว่าตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเทียบกับ Three ที่ยังฟูเนียน และ Covermark ที่ยังคงความเป็นครีมมี่อยู่ ส่วน Biore ก็กลาง ๆ ไม่ได้แฟบลงไปมากนัก หน้าตาก็ยังคงเป็นฟองโฟมปกติ
มาทดลอง "ความหนืดของโฟม" กัน เราแอบขโมยวิธีของ Dairy Queen Blizzard มาให้ดูกันเลย
Covermark กับ Three ลงไปก่อนเพื่อนเลยจ้า แล้วเวลาลงไป ลงทั้งยวง ไม่เกาะกับแก้ว แต่เนื้อของเค้าเกาะรวมกันหนึบดีมาก มีความหนาแน่นพอที่จะดึงตัวกันหล่นลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ในขณะที่ Shiseido Senka และ Biore กว่าจะหล่น ต้องเขย่ากันนานพอสมควร แล้วก็ค่อย ๆ หล่น Biore นี่ยังเห็นความยืดย้วยกว่าจะหล่น ส่วน Shiseido Senka นี่ เขย่ากันเมื่อยยเลยทีเดียววว กว่าจะหล่น
สุดท้ายคือเรื่องของ "ความคงทนขอตัวฟองโฟม" เราใช้วิธีปาดโฟมแล้วขยำ ๆ เพื่อดูสภาพของฟองโฟมค่ะ จะอยู่ทนแค่ไหน อย่างไร...มาดูกันเลยยย
โฟมเนื้อครีม ๆ อย่าง Three และ Covermark เมื่อตบ ๆ ขยำ ๆ ก็ยังมีเนื้อของโฟมคงรูปอยู่ โดยเฉพาะ Three โฟมยังคงรูป ผิดกับค่ายโฟมฟูอย่าง Shiseido และ Biore ขยำไปเรื่อย ๆ ฟองก็หายไปอย่างรวดเร็ว งี้แปลว่ามีสิทธิ์ที่เราจะล้างมันไม่สะอาดแล้วเราก็ไม่รู้ตัวน่ะสินะ ;___; หลังจากที่ทดสอบกันแบบนี้แล้ว เราก็ลองให้สาว ๆ ทุกคนลองใช้โฟมแต่ละตัวกันจริง ๆ 1 วันค่ะ ผลการทดสอบ สาว ๆ ก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับโฟมแต่ละตัว ดังนี้
หนูนา
ใช้ตัว Biore 2in1 Makeup Remover Foam เห็นเคลมว่าใช้ทำความสะอาดเมคอัพได้ด้วยเลยไม่ได้เช็ดอะไรก่อน ไปล้างเลย ปัดขนตาปลอมบาง ๆ ก็พอออกนะ พวกผิวออกในรอบสอง แล้วลิปแมตต์ที่ทาก็ออกไม่เยอะมาก ต้องเอาเคลนซิ่งมาเช็ดอีกทีอยู่ดี เนื้อโฟมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเนียนกับหน้าเท่าไหร่เหมือนเอาอะไรๆมาถูๆ ล้างออกก็รู้สึกว่าแห้งตึงมาก ละพอส่องกระจกก็หน้าดูแห้ง ๆ สาก ๆ รู้สึกไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ คือปกติผิวมันนะ ชอบอะไรที่ล้างแล้วหน้าไม่มัน เหมือนได้ล้าง แต่อันนี้เยอะไป ยังไม่ค่อยปลื้มค่ะ
ฟ้าใส
ใช้ตัว Three Balancing Foam โดยครั้งแรกลองบีบเยอะไปหน่อย โฟมออกมอลังการงานสร้างมากกก ครั้งถัดไปเลยลองบีบนิดเดียวแล้วตีฟอง โฟมก็ยังได้เยอะอยู่ แถมเป็นวิปโฟมที่เนื้อแน่นมาก แต่เนื้อละเอียดเรียบเนียน โดยส่วนตัวแล้วชอบนะเรื่องเนื้อสัมผัส แต่อีกเรื่องที่ถูกใจสุดๆคือเรื่องของกลิ่น ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่เป็นกลิ่นคล้ายๆสมุนไพรให้อารมณ์ประหนึ่งอยู่ในสปา ล้างออกง่ายไม่ลื่นติดหน้า ความรู้สึกคือหน้าเกลี้ยงดี และให้ความรู้สึกว่าหน้าสะอาดด้วยค่ะ ถ้าเทียบราคากับปริมาณที่ใช้ต่อครั้งคิดว่าคุ้มนะ อาจจะราคาสูงกว่าบางแบรนด์ แต่บีบแค่นิดเดียวก็ได้ฟองมหาศาลโดยที่เนื้อโฟมไม่กลวงด้วยค่ะ
หน่องแพรว
ได้ทดลองใช้ตัว Shiseido Senka Perfect Whip Foam คือรู้สึกว่าโฟมตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่หน้ามัน แต่แพรวเป็นคนหน้าแห้งเลยรู้สึกว่าไม่เหมาะเท่าไหร่ เนื้อโฟมแต่ขึ้นฟองดีมาก แต่พอตีแล้วลองทิ้งฟองไว้สักพัก พอมาดูมันเหมือนฟองผงซักผอกที่ยุบตัวแล้ว เป็นเกล็ด ๆ เหมือนมีผงแป้งเคลือบไว้ แต่ล้างออกค่อนข้างง่าย ให้ความรู้สึกสะอาดเลยนะ แต่มันทำให้หน้าแพรวแห้งมากกกก ตอนล้างเสร็จแล้วลองทิ้งหน้าไว้ 20 นาที ปรากฎว่าหน้าแห้งมาก แห้งกว่าเดิมอีก แห้งจนรู้สึกคันยิบ ๆ เลย แพรวรู้ไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับเจ้าตัวนี้ เพราะฉะนั้นใครที่หน้าแห้งแพรวไม่แนะนำค่ะ แต่สำหรับใครที่หน้ามัน (มาก) ก็น่าจะชอบนะ
มายมาย
ได้ลองใช้โฟมครีม ของ Covermark Mineral Wash คือ เนื้อโฟมแน่นมาก รู้สึกได้เลย เนื้อสัมผัสคือนุ่ม โฟมตีขึ้นง่าย ใช้โฟมเพียงแค่ 1 ข้อนิ้วเท่านั้น แต่ได้โฟมค่อนข้างเยอะพอสนควร แต่ให้เรื่องของการชำระล้างแอบหน้าเอี๊ยดตอนล้างน้ำเปล่าออก แต่ก็ให้ความรู้สึกสบายผิว และรู้สึกว่าล้างออกหมดจดดี ไม่ทิ้งคราบความมันไว้บนใบหน้าเลย ตัวเนื้อโฟมไม่มีกลิ่น คิดว่าคนที่แพ้พวกน้ำหอมก็น่าจะใช้ได้
เคล็ดลับการใช้โฟมล้างหน้าที่ตีฟองโฟม
- เกลี่ยฟองให้ทั่วใบหน้า
- อย่าให้มือสัมผัสกับใบหน้าแรงๆ อาจจะถูตรงบริเวณซอกจมูกมากหน่อย ส่วนบริเวณที่เหลือให้แค่เกลี่ยโฟมลงไปเท่านั้น
- เนื้อโฟมละเอียดจะเข้าไปทำความสะอาดเอาสิ่งตกค้างออกจากรูขุมขนได้หมดจด
- ควรล้างให้ถึงช่วงลำคอด้วย เพื่อที่ช่วงลำคอของเราเรียบเนียนสวยเหมือนกับใบหน้าค่ะ
- ใช้น้ำสะอาดหรือน้ำอุ่น ชำระล้างให้หมด พยามอย่าให้เนื้อฟองตกค้าง จะได้ไม่ระคายเคืองเนอะ
- ใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ ซับใบหน้า อย่าถูรุนแรงเพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ค่ะ แค่นี้เราก็มีใบหน้าสะอาดสดใสแล้วววว
สรุป
- โฟมล้างหน้า น่าจะเหมาะกับสาวหน้ามัน ที่อยากได้ความสะอาดหมดจด
- คนที่ผิวแห้งอาจจะต้องรีบทาครีมตามนะคะเพราะโฟมบางตัวทำให้หน้าเราแห้งผากมากเกินไป
- ควรเช็ดเคลนซิ่งให้หมดก่อน เพราะความสกปรก ครีมกันแดด รองพื้น ฯลฯ ไม่อาจถูกกำจัดได้เพียงแค่โฟมล้างหน้านะคะ
เอาเป็นว่า อ่านแล้วถูกใจคุณสมบัติไหน อย่างไร ก็เลือกสอยให้ตรงตามความต้องการก็แล้วกันนะจ๊ะ cosme*net จะสรรหาอะไรมาทดสอบให้สาว ๆ อ่านเล่นกันอีกนั้น อย่าลืมติดตามนะจ๊ะ :)