มาดูเนื้อผลิตภัณฑ์กันค่ะ
จากที่ลองทาลงบนผิว รู้สึกว่าเป็น
เนื้อที่เข้มข้น แมตต์ และสีค่อนข้างสว่าง พอทาลงบนข้อมือก็สามารถปกปิดเส้นเลือดได้หมดและทำให้ผิวดูขาวกว่าผิวจริงนิดหน่อยตอนทาแรกๆค่ะ
มาดูหน้าสดของเราปกติกันบ้าง อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่แล้ว ว่าเราจะเป็นคนหน้ามัน สิวเสี้ยนประมาณหนึ่ง และมีรอยแผลสิวประปราย ใต้ตาคล้ำหย่อนคล้อย (ฟังดูเศร้า) โดยทั่วไปก็ไม่ค่อยเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นหรือเน้นลุคดิวอี้ ฉ่ำๆ เกาหลีเท่าไหร่อยู่แล้วค่ะ
ในวันปกติของเราที่ไม่ได้แต่งหน้าเยอะอะไร ก็จะใช้
เบสที่มีสารกันแดด รองพื้นเนื้อครีมแทนคอนซีลเลอร์ เพราะปกปิดได้ดี ซึมเข้ากับผิวเลย ไม่หนักหน้า ส่วนใหญ่ก็เป็น 2 ตัวนี้ค่ะ
พอแตะพัฟกับ
YSL - LE CUSHION ENCRE DE PEAU เนื้อคุชชั่นเข้มข้นและหนามากค่ะ การซึมซาบของพัฟดีมากๆ กดแรงไปนี่ได้เนื้อคุชชั่นมาแทบเต็มพัฟอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ
แตะลงกับผิว ปรื้ดดดดดดดดด
ตัดภาพอย่างว่องไว เมื่อเสร็จแล้วก็จะเป็นเช่นนี้ค่ะ แต๊นนนนน
ถ้าทาไม่ถึงคอ ดูลอยนะคะ เพราะนางขาวมาก สว่างมากถ้าดูใกล้ๆ ก็แอบเหมือนทารองพื้นอยู่นะคะ ช่วงแรกที่ทาเสร็จใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ค่ะ รู้สึกหน้าลอย แต่พอทิ้งไว้สัก 15 นาที เค้าก็จะทำให้ผิวเราดูผ่องๆ เนียนๆ ไม่มัน ไม่เทาเท่าตอนทาแรกๆนะ
เปรียบเทียบก่อนทากับหลังทา
เห็นได้เลยว่าผิวดูเนียนขึ้นและสว่างขึ้น ดูสม่ำเสมอ ถ้ามาดูใกล้ๆ ก็จะเห็นว่าทารองพื้นอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่ได้ดูหลอกมาก ใช้ในงานถ่ายรูปน่าจะทำให้ผิวดูสวยค่ะ
พอทาทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ผิวหน้าเราจะมีน้ำมันหน่อยๆ ซึ่งพอผสมกับเนื้อคุชชั่น ก็จะไม่ทำให้ขาวลอยนะคะ ดูเป็นธรรมชาติขึ้นค่ะ ถ่ายในที่ร่มก็ไม่เห็นว่าหน้าเทาค่ะ จริงๆถ้าใช้สีที่พอดีกับผิวกว่านี้สักเบอร์หนึ่ง น่าจะใช้ในชีวิตประจำวันได้ค่ะ
ความคิดเห็น : โอเคดี ถ้าใช้สีถูกกับหน้า (มากกว่านี้) แต่เหมาะกับการใช้แต่งลุคเนี้ยบ ที่ต้องการให้ถ่ายภาพออกมาผิวหน้าดูเนียนสวยสว่างใส ไม่มันเยิ้ม ไม่ดูฉ่ำวาว
เปรียบเทียบ CC Cushion แบรนด์เกาหลี กับ YSL Cushion คุชชั่นทางเกาหลีเขาจะให้ลุคที่ดูวาวๆ นิดนึงค่ะ
ส่วนของ YSL ก็แมตต์กว่าอย่างที่เขาว่าจริงๆ
ตามมาด้วยตัวที่ 2 ตัวนี้ GIVENCHY - Teint Couture Cushion
คุชชั่นตัวแรกจาก Givenchy เคลมว่า เป็นคุชชั่นที่มีความเข้มข้นของน้ำสูง ทาแล้วผิวดูอิ่ม กระจ่างใส ไม่มันวาว
ความพิเศษของคุชชั่นตัวนี้คือ ตรงตลับ ที่เมื่อเปิดมา จะเป็นถาดเหล็ก Metal Plate ที่เวลาใช้งานเราจะต้องกดลงไป แล้วเนื้อคุชชั่นจะไหลออกมาตามช่องของคุชชั่นค่ะ
GIVENCHY - Teint Couture Cushion
Metal Plate ถาดเหล็กของคุชชั่นจาก Givenchy ที่ไม่เหมือนใครค่ะ
ความสนุกอยู่ตรงที่ตอนกดคุชชั่นนี่ให้บีบออกมาได้ตรงกับตัวสัญลักษณ์แบรนด์ ถ้าเลอะก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะตรงถาดเหล็กสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือเนื้อคุชชั่นของ
Givenchy พอผ่านถาดเหล็กมา เนื้อจะค่อนข้างเย็น ทางแบรนด์บอกว่านี่เป็นเคล็ดลับที่ทำให้แตกต่างจากคุชชั่นแบรนด์อื่นๆ เวลาทาบนผิวจะค่อนข้างเย็นสบายค่ะ
สีที่เราใช้คือ
04 Fresh Beige ค่อนข้างเหมาะกับผิวสาวโทนเหลือง สัมผัสแรกบนผิวเราแอบรู้สึกคล้ำกว่าผิวจริงนิดหน่อย แต่พอซับๆไปเรื่อยๆ ก็เริ่มโอเคขึ้น การปกปิดเส้นเลือดที่ข้อมือก็ค่อนข้างใช้ได้ รู้สึกว่าเนื้อของคุชชั่นไม่หนาเท่ากับ
YSL ค่ะ
พอกดถาดเหล็กแล้วเนื้อคุชชั่นไหลออกมา เราก็เอาพัฟไปแปะตรงถาดเหล็ก ซึ่งผลออกมาคือหน้าตาไม่ค่อยสวยค่ะ 5555 แต่ได้เห็นเนื้อของเค้า ที่ข้น เวลาใช้ทางบีเอแนะนำว่าให้แตะๆ วอร์มๆ ที่ตรงมือก่อน แล้วค่อยเอาพัฟแตะๆ เนื้อครีมคุชชั่นนั้นมาซับที่หน้าของเราค่ะ
แตะกับผิวแล้วววว วาร์ปไปดูเมื่อเสร็จเรียบร้อยกันค่า
แต๊นนนนนนนน
เรียบร้อยแล้วค่ะ :D
สำหรับตัวนี้ อาจจะเป็นเพราะได้สีที่ตรงกับผิวมากๆมา เวลาทาเสร็จเรียบร้อยเลยเหมือนไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง เรื่องความขาวเด้งขึ้นเท่าไหร่นัก แต่ได้เรื่องของความเรียบเนียน ผิวดูดีเป็นธรรมชาติค่ะ
มองใกล้ๆก็เห็นเหมือนทารองพื้นนะคะ แต่รูขุมขนดูเล็กลงกว่าเดิมเยอะเลย ดูผิวละเอียดขึ้น ไม่แห้ง มันหน่อยๆ พอเป็นธรรมชาติ ปกปิดได้ปานกลางค่ะ ที่สำคัญคือซึมค่อนข้างไว ไม่หนักหน้า สบายดีค่ะ ชอบตรงนี้
พอถ่ายในที่ร่มรู้สึกว่าอยู่กับแสงธรรมชาติแล้วดูโอเคกว่า YSL
ไม่ได้ดูขาวสว่าง แต่ให้สีผิวที่ดูธรรมชาติ แบบกล้าใช้ซ้ำระหว่างวัน
ความคิดเห็น : ส่วนตัวชอบตัวนี้มากกว่าตัว YSL แต่ตัวนี้ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างจากปกติเท่าไหร่ ถ้าชอบลุคธรรมชาติ ฉ่ำนิดๆ แต่ไม่ถึงกับลุคเกาหลี ตัวนี้ก็ดีค่ะ ใช้ระหว่างวันก็ได้ไม่มีปัญหา ทิ้งไว้นานๆ สัก 1 ชั่วโมง สีผิวไม่หมองลงด้วยค่ะ
คราวนี้มาดูเปรียบเทียบเวลาทาครึ่งหน้า ระหว่างคุชชั่นทั้ง 3 ตัวค่ะ
No Make Up vs. YSL - LE CUSHION ENCRE DE PEAU
GIVENCHY – Teint Couture Cushion vs. YSL - LE CUSHION ENCRE DE PEAU
ในส่วนของการทำความสะอาด เราใช้สำลีชุบ cleansing water แล้วเช็ดบนหน้าทั้งสองซีก
ดูซิว่าอันไหนเป็นอย่างไร
Cleansing Water ปริมาณเท่าๆกันค่ะ
ทั้งๆที่ทาแค่ครึ่งหน้าเท่านั้น แต่ต้องใช้สำลีถึง 3 แผ่นในการเช็ดทำความสะอาด เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะใช้คุชชั่นยี่ห้อไหนก็ตาม ต้องทำความสะอาดให้ละเอียด หมดจดนะคะ ไม่งั้นตกค้างบนหน้าเราแน่ๆ
สรุปผลการรีวิว
•
YSL Cushion น่าจะเหมาะสำหรับ การแต่งหน้าเนี้ยบๆ กริ๊บๆ และต้องใช้แสงถ่ายภาพแบบ มีการจัดแสง ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ส่วนตัว
GIVENCHY เหมาะสำหรับ
everyday look แต่ถ้าปาดเยอะๆหน่อย ก็ช่วยปกปิดได้ค่ะ แต่ไม่ดีเท่า
YSL Cushion
• พัฟของ
GIVENCHY นุ่มกว่า
YSL Cushion ทำให้เวลาทาๆบนหน้า รู้สึกสบายกว่า เนื้อก็เย็นกว่า ซึมไวดีค่ะ
•
GIVENCHY ใช้แล้วเบาหน้ากว่า YSL นิดนึงค่ะ แห้งแล้ว แต่งหน้าง่ายกว่า
YSL ค่ะ ส่วน
YSL ต้องทิ้งช่วงนิดนึงถึงจะสีเข้ากับผิวเรา ถ้ารีบๆ ใจร้อน ก็ไม่ค่อยเหมาะค่ะ
• ทั้งสองตัวนี้ควรวอร์มเนื้อคุชชั่นก่อน โดยการแตะจากตลับ แล้วมาแตะๆ กับผิวบริเวณหลังมือเรา แล้วเอาพัฟกดจากมือไปกดที่หน้าอีกที วิธีนี้จะทำให้เนื้อคุชชั่นไม่หนามากเกินไปเวลาอยู่บนผิวหน้าเราค่ะ
• ทั้งสองตัวนี้ไม่ได้ให้ลุคแมตต์มากขนาดนั้นค่ะ ก็คือแมตต์แต่พอเจอน้ำมันนิดๆ ก็ดูโอเคเป็นธรรมชาติดี แต่ไม่ฉ่ำวาวแบบงานเกาหลีค่ะ
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งรีวิวที่นานๆทีเราจะได้ลองเล่นของราคาแพงกับเขาบ้าง 5555
ชอบอันไหน อยากลองอะไร ไปลองกันตามเคาท์เตอร์ได้เลยนะคร้าบพ้มม (^o^)/