PANTONE ประจำปี 2018 นั่นก็คือ สีม่วง ส่งผลให้เทรนด์หลาย ๆ อย่างในปีนี้ล้วนต้องมีสีม่วงด้วยทั้งสิ้น แต่สีม่วงก็อาจจะดูใช้ยากไปสักหน่อยในเรื่องของเมคอัพ แต่ถ้าเป็นสีม่วงอมแดงอย่างโทนสี “เชอร์รี่” แล้วล่ะก็จะดูเป็นธรรมชาติ แต่งง่ายขึ้นเลยใช่ไหมล่ะ ปีนี้หลาย ๆ แบรนด์ดีก็มีเมคอัพโทนสีอมแดงออกมามากมาย และแน่นอนที่โด่งดังสุด ๆ ในจังหวะนี้ก็ต้องเป็นพาเลตตาระดับโลกอย่าง Urban Decay NAKED CHERRY อ่ะเนอะ
cosme*net ก็ไม่พลาดที่จะอัพเดทพาเลตใหม่ล่าสุดนี้ให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน จัดมาทั้งสวอชสีและจับโทนสีแต่งตาแบบง่าย ๆ 3 ลุคกันด้วย จะเป็นยังไงบ้าง ควรค่าแก่การตำแค่ไหน? ไปดูกันนน
Urban Decay Naked Cherry Palette ราคา 2,500 บาท
แพคเกจจะเป็นพลาสติกหนา ดูเป็นสามมิติมากขึ้นแบบรุ่น Naked Heat มีลายเชอร์รี่อยู่หน้าตลับและชื่อรุ่น Naked แบบปั๊มนูน มีความหนาดูแข็งแรงมาก ๆ ฝาเปิดปิดล็อคด้วยแม่เหล็ก
เปิดออกมาก็จะเจอกับอายแชโดว์ทั้งหมด 12 สีด้วยกัน มีทั้งอายแชโดว์เนื้อแมทท์และเนื้อชิมเมอร์ โทนสีโดยรวมจะเป็นโทนม่วงเข้ม - ชมพู - แดง ถามว่าต่างจากรุ่น Naked 3 ยังไง ก็โทนชมพูอมม่วงเหมือนกัน? Naked Cherry จะมีโทนสีที่เป็นม่วงอมแดงและมีความเข้มกว่านั่นเองค่ะ
แปรงที่ให้มาก็จะแตกต่างจากพาเลท Naked รุ่นก่อน ๆ ด้วยนะ ด้ามแปรงจะเป็นเนื้อโปร่งใส ดูสวยจังเลย > < และจะเป็นแปรงทรงพุ่มกลมใหญ่หน่อย กับแปรงทรงดินสอหัวเล็ก ขนแปรงแน่นค่ะ
สวอชสี Urban Decay Naked Cherry Palette
▲ สวอชอายแชโดว์ทั้ง 12 สีบนแขน
3 Look Make up จาก Naked Cherry
▲ Look 1 : เลือกใช้สีอ่อนเบลนให้เข้ากัน ให้ดวงตาดูมีสีอมชมพูแบบธรรมชาติค่ะ
▲ Look 2 : เติมสีม่วงไวน์แดงลงไป ให้เปลือกตาดูเข้มขึ้นมาอีกนิดนึง
▲ Look 3 : เติมสีน้ำตาลเข้มในการคัดเบ้าหางตาและ ไล่สีใต้ดวงตาให้ได้ลุคดูคมเข้ม เปรี้ยวขึ้นมาค่ะ
สรุป Urban Decay NAKED CHERRY เป็นพาเลทที่มีโทนสีม่วง-แดง-ชมพู เชอร์รี่สมชื่อ
สีโดยรวมแล้วจะโทนเข้มกว่า NAKED 3 มีสีที่ใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันไปจนถึงแต่งตาเข้ม ๆ เลยค่ะ
พาเลทนี้จะสายฝอหรือสายเกา ก็ได้ทั้งนั้นเลยค่าา
♥♥ สำหรับใครที่ชื่นชอบบทความรีวิวนี้ก็ฝากกด LIKE กด SHARE บทความเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
อยากให้ cosme*net หยิบอะไรมารีวิวอีกก็คอมเมนท์บอกกันได้ค่า ♥♥
แต่ถ้ายังเลือกไม่ถูกจะซื้อพาเลท Naked รุ่นไหนดี เรามีรีวิวเปรียบเทียบ Urban Decay Naked Palette ทั้ง 5 คอลเลคชั่น ด้วยนะ
v
v