"นาฬิกาออกกำลังกาย" อีกหนึ่งเครื่องประดับที่คนรักการออกกำลังกายควรมี ด้วยฟังก์ชันไม่ว่าจะเป็นการจับค่าการเต้นของหัวใจ การเผาผลาญแคลอรี หรือแม้แต่จับการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ฯลฯ
ล่าสุด
Fitbit ได้ปล่อยน้องใหม่อย่าง
Fitbit Charge 3 มาเอาใจคนรักสุขภาพ และเพิ่มลูกเล่นพร้อมความทันสมัยเข้าไปให้ตอบโจทย์กลุ่มคนที่กว้างมากยิ่งขึ้น Fitbit Charge 3 ตัวนี้จะมีฟังก์ชันไหนที่น่าสนใจบ้าง วันนี้
cosme*net จะมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันค่ะ ว่าแล้วไปดูกัน~
มาเริ่มต้นกันที่ลักษณะโดยทั่วไปของ Fitbit Charge 3 กันก่อนเลยดีกว่า
หน้าจอการทำงานของ
Fitbit Charge 3 เป็นแบบขาว-ดำค่ะ (ใหญ่กว่ารุ่น Charge 2 ถึง 40%) หน้าจอคมชัดด้วยระบบ touchscreen OLED และปุ่มด้านข้างที่เป็นแบบสัมผัส ส่วนแบตเตอรี่ก็อยู่ได้นานถึง 7 วัน/ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ตัวเรือนทำด้วยอลูมิเมียม (สเปคเดียวกับ aerospace-grade ที่ให้ความเบาและทนนาน) ต่างจาก Charge 2 ที่เป็นสแตนเลส แน่นอนว่าความเบาในการใส่ก็ย่อมสบายกว่า
สำหรับคนที่รักการว่ายน้ำ
Fitbit Charge 3 ตอบโจทย์อย่างแน่นอนด้วยการ
"กันน้ำ" ได้ลึกถึง 50 เมตร จะใส่ว่ายน้ำ อาบน้ำ หรือล้างมือก็ไม่ต้องถอดเหมือน Fitbit Charge 2 นะจ๊ะ
ส่วนคราวนี้เรามาดูฟังก์ชันหลัก ๆ ของ Fitbit Charge 3 กันค่ะว่าทำอะไรได้บ้าง
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24/7
- จับการเผาผลาญแคลอรี่ตลอดทั้งวัน
- ระบบรู้จำการออกกำลังกายอัตโนมัติ
- เพซและระยะทางแบบเรียลไทม์
- โซนอัตราการเต้นของหัวใจ
- แผงแดชบอร์ด ติดตามความคืบหน้า ดูภาพรวมเกี่ยวกับสุขภาพ
- ติดตามการนอนและภาวะหลังช่วงต่าง ๆ
- ติดตามสุขภาพสุภาพสตรี สามารถใช้ app Fitbit ติดตามรอบเดือน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้
- ระดับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
- ติดตามเป้าหมายการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์
- แนะนำการหายใจอย่างเหมาะสม
สำหรับหน้าจอนาฬิกาเพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้นะคะ ซึ่งเขาก็มีให้เลือกตั้ง 8 แบบ ตามความชอบเลย โดยเข้าไปใน app Fitbit แล้วไปเลือก Clock Focos กดเข้ามาจากเป็นหน้าจอปัจจุบันที่เราใช้อยู่ ถ้าจะเปลี่ยนก็กดที่ Pick a New Clock แล้วก็เลือกแบบที่ชอบได้เลยค่ะ
Fitbit Charge 3 สามารถเซ็ตการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ หรือเรียกได้ว่าเราสามารถตั้ง goal ในการออกกำลังกายแต่ละครั้งของเราได้ อย่างเช่นถ้าเราต้องการออกกำลังกาย 1 นาที พักระหว่างท่า 30 วินาที และทำแบบนี้ซ้ำ ๆ กัน 15 ครั้ง เราก็สามารถทำได้ และสามารถเซ็ตได้กับการออกกำลังกายแบบต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น การวิ่งเราก็สามารถเซ็ตได้ว่าเราจะวิ่งกี่กิโลเมตร หรือวิ่งกี่นาที เป็นต้น
ออกกำลังกายอยู่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องมือถือ ข้อความหรือว่าสายเรียกเข้า เพราะนาฬิกาตัวนี้สามารถรับรู้ได้ถึงทุกการแจ้งเตือน ฟังก์ชันนี้ตอบโจทย์ทุกระบบมือถือ แต่พิเศษสำหรับ Android ที่จะสามารถตอบรับสายเรียกเข้าแบบอัตโนมัติผ่านนาฬิกา
Fitbit Charge 3 ได้ด้วย แฟน ๆ iOS ต้องรอไปก่อนนะค๊า
สายรัดสามารถถอดเปลี่ยนได้ มีให้เลือกด้วยกันหลายแบบ ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ ทุกไลฟ์สไตล์ของคนใส่
(อุปกรณ์เสริมราคาจะอยู่ที่ระหว่าง 990-1,890 บาท)
จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่
Fitbit ทำขึ้นมาเพิ่มให้กับ Charge 3 นั้นก็คือ FITBIT PAY เราจะสามารถชำระเงินโดยไม่ต้องพกกระเป๋าตังค์อีกต่อไป! แต่สำหรับประเทศไทยบัตรที่สามารถผูกได้ ณ ตอนนี้ก็จะเป็นบัตรเครดิตของ SCB, K Bank และ KTC เท่านั้นก่อนนะคะ โดยการผูกบัตรก็เพียงเข้าไปที่ app Fitbit แล้วตั้งค่าตามขั้นตอนที่ app แนะนำได้เลย
แล้วอย่างสุดท้ายคือ การซิงก์ข้อมูลแบบไร้สาย และสามารถเชื่อมต่อกับ GPS บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ด้วย ดีอย่างไรหรอ? เพื่อให้ข้อมูลจังหวะก้าว ระยะทาง และความเร็วที่แม่นยำมากขึ้น โดย Fitbit Charge 3 จะเก็บข้อมูลการวิ่งและเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณโดยอัตโนมัติ (ทั้งนี้คือต้องเปิด Bluetooth ด้วยนะถึงจะเชื่อมต่อได้)
หยิบนาฬิกาแล้วไปออกกำลังกายกันค่ะ!
ใครสายรักสุขภาพออกกำลังกาย ห้ามพลาดกับ
Fitbit Charge 3 นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับชาว 4.0 ที่ไม่ได้มีดีแค่การจับค่าการเต้นของหัวใจ การเผาผลาญแคลอรี เท่านั้น แต่ยังรองรับเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอีกด้วย
ราคา
Fitbit Charge 3 มีด้วยกัน 2 ราคา : Special Edition ที่มีสายมาให้ 2 แบบ
ราคา 6,990 บาท และแบบธรรมดามีสายมาให้แบบเดียว (แต่มี 2 ขนาดคือ เล็กกับใหญ่)
ราคา 6,490 บาท โดยมีจำหน่ายที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไป เช่น บีทูเอส, ร้าน .Life, คิงพาวเวอร์, พาวเวอร์บาย, วีมาร์ท และลาซาด้า
♥
นอกจากนี้ Fitbit ยังมีรุ่นอื่น ๆ อีกนะคะ เพื่อน ๆ สามารถอ่านรีวิวของรุ่นอื่นเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ
▼ Fitbit Flex 2 ▼
▼ Fitbit ionic ▼
แชร์บทความนี้ให้เพื่อน ๆ สายสุขภาพ เผื่อจะสนใจนาฬิกาออกกำลังกายรุ่นใหม่ล่าสุดนี้นะจ๊ะ ^ ^