นอกจากกลิ่นตัวแล้ว ก็มีกลิ่น (น้องสาว) จุดซ่อนเร้นนี่แหละที่เป็นปัญหากวนใจของสาว ๆ หลายคน จนบางครั้งทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ซึ่งปัญหาช่องคลอดมีกลิ่น หรือกลิ่นจุดซ่อนเร้นอาจเกิดจากการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้ไม่ดีพอ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่าา วันนี้ *Cosmenet มีวิธีดูแลจุดซ่อนเร้นที่ถูกต้องมาแนะนำกันแล้วว~
ทำไมน้องสาว (จุดซ้อนเร้น) ถึงมีกลิ่น?
- การดูแลทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น : ปัญหากลิ่นอับชื้น หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์อาจเกิดจากการที่สาว ๆ ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นได้ไม่ดีพอ โดยแนะนำให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นก็จะช่วยระงับกลิ่นได้ค่ะ และในช่วงมีประจำเดือนยิ่งต้องดูแลเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ สาว ๆ ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอับชื้นนั่นเองค่าา
- การติดเชื้อแบคทีเรีย : เกิดจากความไม่สมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดเกิดการอักเสบ โดยจะมีอาการคัน ตกขาว และเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมา ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ทั้งในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์และไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ : หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดเกิดคความไม่สมดุลคือการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยจะทำให้มีตกขาว มีอาการคัน และช่องคลอดมีกลิ่น บางคนอาจมีเลือกอออกร่วมด้วย แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ด่วนเลยค่ะ
- ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นจุดซ่อนเร้นได้เช่นกันค่ะ โดยสาเหตุนี้จะพบบ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นกว่าปกติหลายเท่า
- อาหารที่รับประทาน : หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอาหารที่เรารับประทานก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นจุดซ่อนเร้นได้เช่นเดียวกันค่ะ โดยเฉพาะอาหารหมักดอง อาหารรสจัด ปลาร้า และกระเทียม เพราะฉะนั้นใครไม่อยากมีกลิ่นไม่พึงประสงค์เลี่ยงได้เลี่ยงนะคะ
วิธีดูแลจุดซ่อนเร้นที่ถูกต้อง
1. การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ถูกต้อง
สาว ๆ สามารถทำความสะอาดน้องได้ง่าย ๆ ด้วยการล้างทำความสะอาดเบา ๆ ที่ผิวภายนอกด้วยน้ำสะอาด ไม่ควรใช้นิ้วล้วง หรือสาวนล้างเข้าไปในช่องคลอด เพราะการสวนล้างภายในจะทำให้แบคทีเรียชั้นดีตาย ส่งผลให้น้องสาวอ่อนแอและไม่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้นั่นเองค่าา
2. เลือกใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นสูตรอ่อนโยน
“น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น” ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่สาว ๆ ควรมีติดห้องน้ำ แต่ห้ามเลือกแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะน้องสาวของเราบอบบางมาก จึงอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย โดยแนะนำให้เลือกน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
- เลือกน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมอ่อนโยน ปราศจากสารที่อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง
- เลือกน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่มีค่า pH เหมาะสม โดยอยู่ระหว่าง 3.8 - 4.5 ซึ่งหากเลือกค่า pH ที่สูงหรือต่ำเกินไปก็จะทำให้จุดซ่อนเร้นเกิดภาวะเสียสมดุล และทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้ค่า
- เลือกน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของกรดแลคติก เพราะ กรดแลคติเป็นกรดที่มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสมดุลค่า pH ให้เหมาะสม แถมยังมีอ่อนโยนต่อจุดซ่อนเร้นด้วยน้าา
แนะนำน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น
- Lactacyd Feminine Wash (ราคา 149 บาท / 150 ml.) : น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นลูกรักของสาว ๆ หลายคน โดยเป็นสูตรที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ช่วยทำความสะอาดน้องสาวอย่างอ่อนโยนและช่วยคงค่าความสมดุลบริเวณจุดซ่อนเร้น ด้วยสารสกัดจากน้ำนมและกรดแลคติค มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นตลอดวัน
- Saugella Attiva pH3.5 (ราคา 179 บาท / 100 ml.) : เป็นน้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นที่สูตินรีแพทย์แนะนำให้ใช้ เพราะเค้ามีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติจากใบไทม์และใบเสจ ช่วยลดการสะสมของเชื้อ และแอนติ อ็อกซ์ซิเด๊นท์ แถมยังช่วยลดกลิ่นจุดซ่อนเร้นและลดการระคายเคืองได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ ใครผิวบอบบางแพ้ง่ายแนะนำเล้ยย
- Dettol Feminine Wash (ราคา 225 บาท / 220 ml.) : น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นสูตร Soap-free ที่มาพร้อมส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ ซึ่งอ่อนโยนต่อจุดซ่อนเร้นขั้นสุด! และมีค่า pH balance ที่อ่อนโยนคงสภาพสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิว แต่ที่เลิฟมากสุด ๆ คือเค้ามีกลิ่นหอมสดชื้น ช่วยปกป้องจากกลิ่นอับชื้นระหว่างวันได้เริ่ดมาก ๆ
3. เช็ดน้องสาว ให้แห้งทุกครั้ง จากหน้าไปหลัง
ไม่ว่าจะหลังอาบน้ำ หรือหลังเข้าห้องน้ำ สาว ๆ จะต้องเช็ดทำความสะอาดน้องสาวให้แห้งอยู่เสมอนะคะ เพราะการปล่อยให้น้องสาวเฉอะแฉะนอกจากจะทำให้เกิดกินอับชื้นแล้ว ยังอาจจะตามมาด้วยปัญหาผดผื่น สิว และเชื้อรา โดยแนะนำให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อยู่บริเวณทวารหนัก ไม่ให้มารบกวนน้องสาวนั่นเองค่าา
4. งดกำจัดขนน้องสาว
นอกจากขนน้องสาวจะช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดได้แล้ว ยังช่วยลดการเกิดกลิ่นจุดซ่อนเร้นได้ด้วยนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสาว ๆ ก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ โดยอาจจะเล็มขนออกบ้างเล็กน้อย แต่ห้ามแว็กซ์ หรือโกนขนออกจนหมดนะคะ เพราะอาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดได้ง่าย แถมยังทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย
5. เปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นประจำ
ช่วงมีประจำเดือน สาว ๆ ยิ่งต้องหมั่นทำความสะอาดน้องสาวมากเป็นพิเศษ โดยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3-4 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนถ้วยอนามัยตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ และยังช่วยป้องกันกลิ่นอับชื้นที่จะตามมาได้อีกด้วย
6. หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท
อย่างที่บอกไปในตอนต้นค่ะว่าอาหารบางประเภทก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นซ่อนเร้นได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นใครที่ลองมาทุกวิธีแต่ยังมีกลิ่นจุดซ่อนเร้น แนะนำให้ของปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินกันดูนะคะ โดยหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารรสจัด รวมถึงอาหารที่มีกลิ่นฉุนอย่าง ปลาร้า และกระเทียม เป็นต้น
สาว ๆ คนไหนรู้ตัวว่ามีกลิ่นจุดซ่อนเร้น หรือช่องคลอดมีกลิ่นก็ลองนำ 6 วิธีดูแลจุดซ่อนเร้นที่ถูกต้องไปปรับใช้กันดูนะคะ แต่ถ้ายังแก้ไม่หาย แนะนำว่าให้รีบไปพบคุณหมอเพื่อตรวจดูอาการทันที ห้ามปล่อยไว้เด็ดขาดเลยน้า เพราะอาจจะเป็นอันตรายได้ค่าา