Cosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!

สกินแคร์

5 สาเหตุสิวที่รักแร้ เกิดจากอะไร? พร้อมแนะวิธีรักษาสิวที่รักแร้ที่ถูกต้อง

20,411

28 มิ.ย. 2566

สิวเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณใบหน้าเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “สิวที่รักแร้” ที่นอกจากจะสร้างความรำคาญ และความเจ็บปวดแล้ว ยังทำให้รู้สึกไม่มั่นใจอีกด้วย วันนี้ *Cosmenet เลยถือโอกาสพาทุกคนมาทำความรู้จักกับสาเหตุสิวที่รักแร้ เกิดจากอะไร? พร้อมแนะวิธีรักษาสิวที่รักแร้ที่ถูกต้องกันค่าา ~

สิวที่รักแร้ เกิดจาก

1. สิวที่รักแร้จากขนคุด

ขนคุดเกิดจากการโกน ถอน หรือกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผิวหนัง และรูขุมขนเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน ทำให้มีแผลอักเสบ ร่วมกับมีอาการคัน ผิวไม่เรียบเนียน หรือบางคนอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเกิดเป็นตุ่มแข็ง ๆ และเป็นหนองตามมาได้ค่ะ

2. การอักเสบของต่อมเหงื่อ

สิวที่รักแร้ อาจเกิดได้จากการอักเสบของต่อมเหงื่อ เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ซึ่งเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในรูขุมขนและต่อมเหงื่อ โดยทั่วไปมักจะพบได้บ่อยในบริเวณที่มีความอับชื้นอย่างขาหนีบและรักแร้ โดยจะมีลักษณะเป็นตุ่มแข็งคล้ายสิวที่รักแร้ มาพร้อมกลิ่นเหม็น แนะนำว่าควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมาได้ค่ะ

3. การอักเสบของรูขุมขน

สิวที่รักแร้ อาจเป็นปัญหาที่เกิดจากการถอน หรือแว๊กซ์ขนบ่อย ๆ จนทำให้รูขุมขนกว้างส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่รักแร้นั่นเองค่า

4. การแพ้สารเคมีบางชนิด

สิวที่รักแร้เกิดจากการแพ้สารเคมีบางชนิดในผลิตภัณฑ์ใต้วงแขน ไม่ว่าจะเป็นครีมบำรุงใต้วงแขน, น้ำหอม, โรลออน และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย โดยจะทำให้เกิดตุ่มบวมแดง มีอาการคัน หรือรู้สึกเจ็บแสบร่วมด้วย แนะนำให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทันที และหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเลยค่ะ

5. ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

เคยมั้ย? อยู่ดี ๆ ก็เป็นสิวที่รักแร้โดยไม่ทราบสาเหตุ นั่นอาจจะเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียได้ จนเกิดเป็นสิวที่รักแร้ขึ้นมานั่นเองค่ะ แต่ต้องสังเกตุดี ๆ นะคะ เพราะถ้าเป็นตุ่มที่มีขนาดใหญ่ หรือเป็นสิวที่รักแร้ไม่มีหัว และมาพร้อมกับอาการปวด เจ็บ บวมแดง และอักเสบ อาจมีความเสี่ยงเป็นฝีใต้รักแร้ หรือซีสต์ใต้รักแร้ได้ แนะนำให้รีบไปหาคุณหมอคลินิกใกล้บ้านเพื่อวินิจฉัยแนวทางรักษาต่อไปค่ะ

วิธีรักษาสิวที่รักแร้ที่ถูกต้อง

สิวที่รักแร้ สามารถดูแลรักษาให้อาการดีขึ้นได้ ดังนี้ค่ะ

ทำความสะอาดรักแร้ด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ : สำหรับใครที่มีปัญหาสิวที่รักแร้ควรดูแลเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ โดยแนะนำให้ทำความสะอาดผิวบริเวณรักแร้ด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวนั่นเองค่าา

ใช้ยาแต้มสิว : ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบ สามารถใช้ยาแต้มสิวทาบริเวณหัวสิวได้ หรือใช้ยาปฏิชีวนะที่เป็นชนิดทาอย่าง Mupirocin ที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และใช้รักษาการติดเชื้อที่ผิวหนัง ทาวันละ 2-3 ครั้ง ก็จะทำให้สิวอักเสบทุเลาลงค่ะ

หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณสิว : ถึงแม้จะรู้สึกคันแค่ไหน ก็ไม่ควรเกา แกะ บีน หรือกดสิวที่รักแร้เด็ดขาดเลยนะคะ เพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อลุกลามได้

วิธีรักษาสิวที่เกิดจากขนคุด : หากเป็นที่เกิดจากขนคุด สามารถใช้เข็มที่ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์แล้ว มาสะกิดเพื่อเปิดหัวสิว และค่อย ๆ ใช้แหนบดึงขนคุดออก จากนั้นให้ล้าง หรือเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ และใช้ยาแต้มสิวทาบริเวณหัวสิวที่เป็นขนคุดเพื่อลดการอักเสบ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้สิวหายเร็วแล้ว ยังไม่ทิ้งรอยสิวให้ปวดใจด้วยค่ะ

พบแพทย์เพื่อทำการรักษา : หากเป็นสิวที่รักแร้ไม่มีหัว มาพร้อมอาการปวด เจ็บ บวมแดง และอักเสบ อาจเป็นสัญญาณของฝีที่รักแร้ แนะนำให้รีบไปหาคุณหมอเพื่อทำการรักษาทันทีจะดีกว่านะคะ หากปล่อยไว้นานเกินไปแล้วอาจเจ็บจนทนไม่ไหวและเป็นฝีหนองได้ค่ะ

สิวที่รักแร้ ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยไว้อาจจะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมาได้ แต่ในกรณีที่รักษาด้วยตัวเองแล้วไม่หาย หรืออาการไม่ทุเทาลง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

นอกจากสิวที่รักแร้ ใครที่กำลังเจอกับปัญหาสิวไม่มีหัว รีบตามมาดูสาเหตุและวิธีรักษาสิวอุดตันไม่มีหัวที่ถูกต้องกันต่อเล้ยย