อินธุอร
kim_intui
(20 รีวิว)
iD
CLINIQUE
iD
สวัสดีค่าาาาเพื่อนๆ ชาว Cosmenet ทุกคนหายหน้าหายตาไปนานเลยเนื่องด้วยภาวระงานประจำหนักหนาจริงๆค่ะ กลับมาคราวนี้เลยจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วชอบตัวใหม่ ขวัญใจเราเลย แท่นนน แท่นน แท๊นนนนคือตัว Clinique iD เองค่าาาสาวๆน่าจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว เพราะดังมากกกกกกกกกกกก ในหมู่ของบิวตี้บล็อเกอร์เพราะ Clinique นำเอา มอยส์เจอไรเซอร์ ตัวท็อปของแบรนด์ ทั้ง  -  Moisturizing Lotion  เนื้อโลชั่น เหมาะสำหรับผิวแห้งมาก-ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง-  Oil-Free Gel - เนื้อเจล บางเบา เเป็นสูตรปราศจากน้ำมัน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวมัน-ผิวผสมค่อนไปทางมัน- Hydrating Jelly - เนื้อเจลลี่ใส ให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ เหมาะกับทุกสภาพผิวมารวมเข้ากับตัว บูสเตอร์เข้มข้นตามปัญหาผิวของเราซึ่งแบ่งเป็น  5  สีแยกตามปัญหาผิวดังนี้ค่ะ สีเขียว (Delicate Skin) - สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ช่วยปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง มอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยแดงและอาการระคายเคืองด้วยสีฟ้า (Pores & Uneven Texture) - สำหรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน สูตรนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวเนียนละเอียดยิ่งขึ้นสีขาว (Uneven Skin Tone) - สำหรับสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำสีส้ม (Fatigue) - สำหรับผิวเหนื่อยล้า ขาดความเปล่งประกาย ช่วยกระตุ้นผิวที่หมอง ดูเหนื่อย ให้กลับมาดูสดใส ผิวดูโกลว์ เปล่งปลั่งยิ่งขึ้นสีม่วง (Lines & Wrinkle) - สำหรับผิวที่มีริ้วรอย และรอยย่น ช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอย และฟื้นฟูผิวแห้งกร้านให้กลับมานุ่มเนียนซึ่งตอนนี้ความพิเศษมาก ทาง  CLINIQUE สามารถให้เราเข้าไปรับผลิตภัณฑ์ตัวอย่างทดลองฟรีเพื่อทดลองใช้ก่อนจะซื้อขนาดจริงมาด้วยค่ะ เราเลยไปสอบสูตรที่เหมาะกับผิวมา นั้นก็คือ Hydrating Jelly  +  สีส้ม (Fatigue)สภาพผิวของเรานะคะ 1. ผิวแห้งมากกกกก ขาดความชุ่มชื้นสุดๆ2. แพ้ง่ายเป็นสิวง่าย (ใช่ค่ะผิวแห้งแต่เป็นสิวงงตัวเองมากๆเลย)3. ทำงานดึก นอนน้อยมากๆ หน้าโทรมเป็นผีดิบทุกวันเลยค่ะ4. หน้าหมองคล้ำไม่กระจ่างใสความรู้สึกเมื่อใช้  Clinique iD เนื้อผลิตภัณฑ์ : ชอบมากกก 10/10 ไปเลย เป็นคนที่ไม่ชอบครีมที่เป็นเนื้อข้มๆเพราะตอนเช้ารีบไปทำงาน ขี้เกียจรอครีมแห้ง ตอนก่อนนอนทาครีมที่เนื้อข้นมากๆก็จะรู้สึกเหนอะหนะ เลยชอบเจ้า  Hydrating Jelly  ของ  Clinique ค่ะ รู้สึกตอบโจทย์ สาวหน้าแห้งที่ไม่ชอบทาครีมหนักๆ แต่อยากให้หน้าชุ่มชื้นตลอดเวลาแบบเรามากกลิ่น: ไม่มีกลิ่นกวนใจเลยค่ะแฮปปี้มากความชุ่มชื้น : เป็นผลตั้งแต่ครั้งแรกค่ะ ชุมชื้นมากกกกกกกก คือเท่าที่เรารู้มา Clinique เค้าชึ้นชื้อเรื่องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับหน้าอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเห็นผลไวขนาดนี้ ตื่นมาหน้าอิ่มน้ำมาก ผิวนุ่มดีค่ะช่วยให้ผิวแข็งแรง :   Clinique iD ช่วยเติมน้ำให้ผิวกลับมาสดชื่นเมื่อผิวมีสมดุลของน้ำที่เพียงพอผิวเลยแข็งแรงค่ะ ซึ่งส่วนนี้ไม่ค่อยเห็นผลมากเพราะเรายังใช้ได้ไม่นาน แต่เราว่า Clinique ทำได้5555555 ความขาวกระจ่างใส : ตัวนี้ไม่ช่วยเรื่องความขาวนะคะ แต่เรื่องกระจ่างใสหน้าไม่โทรมช่วยจ้าาา ดังนั้นใครชอบความขาวแบบกระดาษเจ้าน้องคนนี้ไม่ตอบโจทย์นะคะ แต่ถ้าความกระจ่างใส ดูสดชื่นตัวนี้แนะนำเลยค่ะผิวแพ้ง่าย : ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ค่ะเราแพ้ง่ายมาก ใช้แล้วไม่เกิดอันตรายใดใด ไม่มีสิวขึ้นนะคะราคา : ส่วนตัวคิดว่าราคาแรงพอสมควรเลย แต่พอเทียบกับประสิทธิภาพก็ต้องยอมเค้าตรงๆค่ะ เป็นสกินแคร์ที่ควรค่าน่าลงทุน ขวดใหญ่ใช้ได้นาน ทาได้ทั้งตอนเช้าก่อนไปทำงานและก่อนนอน คะแนนที่ได้ 9/10 ค่าาาาาาาถือว่าเป็นคะแนนที่เยอะมากพอตัวเลย สมกับคำล่ำลือจริงๆ Clinique iD ออกใหม่ตัวนี้เราชอบมากค่ะอยากให้เพื่อนๆได้ลองใช้กันดู สามารถแก้ปัญหาผิวของแต่ละคนได้ตรงจุดที่สุด ขอหัก 1 คะแนนเรื่องราคาน้าาา55555555555 แต่ของเค้าดีจริงๆ สาวๆควรซื้อมีติดบ้านไว้ใช้อุ่นในแน่นอนค่ะวันนี้ไปแล้วค่ะขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านรีวิวค่ะ <3
more
Teint Idole Ultra Wear Foundation
Lancome
Teint Idole Ultra Wear Foundation
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว  cosmenet ที่น่ารักทุกคนวันนี้นะคะเราจะมารีวิวรองพื้นตัวใหม่จากแบรนด์ที่ครองใจทั้งสาวๆส่วนใหญ่ค่ะ นั้นคือแบรนด์ lancome นั่นเองค่ะ ขอบอกก่อนเลยนะคะ lancome เราเป็นแฟนคลับเค้าตั้งแต่เรื่องคุชชั่นแล้วค่ะเพราะ lancome ได้ชื่อว่าเป็น Queen of  Cushion ค่ะ เราเลยเชื่อใจ  lancome มากๆๆๆๆว่าเรื่องงานผิวเนี่ย lancome ไม่ทำให้เราผิดหวังแน่นอนค่ะ แล้วตอนนี้ lancome ก็ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่รองพื้นเทพ ตัวใหม่ล่าสุดจาก Lancome ที่มีชื่อว่า  Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation มีให้เลือกถึง 40 สี แต่เมืองไทย นำเข้ามา 24 สี ตอบโจทย์ผิวแบบคนไทยนะคะ จะเป็นเนื้อออกแมทๆ ตามคำเคลมคือ บางเบา แต่ปกปิด และ ติดทนยาวนาน 24 ชม.   ปริมาณ   30ml / 1,950 บาท  โดยทาง  lancome  บอกคุณสมบัติของรองพื้นตัวนี้ออกมาเป็น 6 ประการนะคะ *การปกปิดขั้นสูงแบบ Full Coverageติดทนตลอดวันโดยไม่ต้องเติมแป้ง *SPF สูงสุดถึง 38 PA+++ *เนื้อสัมผัสแบบแมทท์  *เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่ายมอบสัมผัสเบาสบาย   “การรวมการปกปิดเนียนสนิทและความติดทนนานเข้ากับผลการแต่งผิวที่ดูเป็นธรรมชาติราวกับไม่ได้รองพื้น” รองพื้นเฉดใหม่นี้ยังมีสูตรที่ได้รับการพัฒนาให้เหมาะกับผิวของชาวเอเชียโดย ประกอบด้วยอนุภาคระเหยไว (volatile particle) ซึ่งทำให้ได้เนื้อลิควิดที่เปล่งประกายแต่ไม่มันเยิ้ม ขณะที่สารดูดซับน้ำมันช่วยดูดซับไขผิวหนัง (sebum) แล้วจับไว้แน่นเหมือนฟองน้ำ ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ละมุนละไม ผสมสารกันแดดที่มีค่าการปกป้องผิวจากแสงแดดในระดับ SPF 38/PA+++ เฉดสีได้รับการออกแบบขึ้นเพิ่มเติมโดยแบ่งขั้นของสีอย่างละเอียดออกเป็น 12 เฉดสีใหม่ เพื่อขยายทางเลือกให้กว้างมากขึ้นและมั่นใจได้ว่าสีกลมกลืนกับโทนสีผิวของสาวเอเชียทุกระดับอย่างแท้จริง “ นี่คือคำอธิบายรีวิวของ   https://www.cosmenet.in.th/product/31988/Teint-Idole-Ultra-Wear-Foundation? นะคะคืออ่านแล้วกิเลสพุ่งมากจิตหลุดสุดๆเลยค่ะต้องนั่งรถไปเค้าเตอร์ลังโคมด่วนๆเพราะอยากลองมาก พอไปถึงพนักงานที่เค้าเตอร์ลังโคมน่ารักมากค่ะเป็นกันเองอธิบายดีสุดๆ มาถึงเค้าก็อธิบายความพิเศษของผลิตภัณฑ์ก่อนเลย จากนั้นก็นำผลิตภัณฑ์มาเทสกับตรงหลังมือเราก่อนค่ะ จากนั้นก็เทสสีผิวเราว่าตรงกับสีอะไร ลักษณะสีผิวของเรา : เป็นคนผิวสองสี หน้ามันถึงมันมากโดยเฉพาะทีโซน มีจุดรอยดำจากสิว เบอร์รองพื้นที่เลือก : สำหรับตัวเราเองนะคะสีผิวอยู่ที่ NC35 ค่ะ แล้วก็ไปเทสกับบีเอที่เค้าเตอร์ได้เป็น เบอร์ 049 ค่ะ ##ขอย้ำกับเพื่อนๆทุกคนนะคะถึงเราจะคิดว่าตัวเองสีผิวระดับนี้แต่เราควรไปทดลองเองที่เค้าเตอร์เลยค่ะ ให้บีเอแนะนำเพื่อที่จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับสีผิวของเรามากที่สุดค่ะ ถึงเราเลือกสีรองพื้นที่เข้ากับสีผิวเราได้แล้วแต่เราไม่ได้ซื้อเลยนะคะ เองลองขอๆตัวเทสเตอร์บีเอมาก่อนเพราะอยากลองตอนแต่งหน้า อยากลองว่าคุมมันได้ในระดับไหนค่า (ใจจริงอยากเอามารีวิวให้เพื่อนๆใน cosmenet รู้ก่อนค่ะ5555) แต่ตัวเทสเตอร์เหลือแค่สี 01 นั้นค่ะเศร้ามาก  สีค่อนข้างจะฉีกกับสีผิวเรามากเลย แต่เราลองใช้แต่งหน้าตัวเองและสังเกตการณ์คุมมันก่อนนะคะ  ถ้าน้องคนนี้เค้าลองแล้วคุมมันดีไปตำดวนๆแน่นอนค่า55555       เนื้อสัมผัส  : 10/10 ไปเลยยยยย ของดีไม่ต้องพูดมาก เป็นรองพื้นเหลวๆเกลี่ยง่ายมากค่ะ ออกไปทางน้ำๆ ไม่แมตท์นะคะ ให้งานผิวที่เสมือจริง เสมือนไม่ลงอะไรมากกว่าเป็นธรรมชาติดีค่ะ  เราลงรองพื้นด้วยมือนะคะเพราะตอนแรกเราลงด้วยแปรงแล้วไม่ค่อยให้งานผิวเท่าไหร่เลย ลงด้วยมือสิทันใจกว่า55555555     ระดับการปกปิด : เต็ม 10 เราให้ 8 นะคะไม่ได้ปกปิดมากถ้าเป็นรอยสิวเรายังเห็นจางๆอยู่นะ แต่ให้งานผิวมากๆไม่ฉ่ำเกินไป ไม่แมตท์เกินไป มันคือความพอดีที่อธิบายยากมากๆค่ะ 55555 แต่เอาเป็นว่าสามารถใช้แต่งหน้าออกจากบ้านได้เลย สามารถใช้แต่งได้ทุกวันไม่ต้องรอแต่งไปงาน ลุคที่ได้ออกมาหน้าไม่แน่นมากนะคะ กำลังพอดี     ความติดทน  : ประหลาดใจมากค่ะตอนแรกเราทำใจไว้เลยว่าน้องคนนี้ไม่น่าจะติดทนเท่าไหร่ด้วยความี่น้องให้ลุคเบาๆไม่ถึงขั้นเต็มอะไรมากมายแต่พอใช้ไปวันนั้นเราแต่งหน้า 10.00-17.00 (เวลาโดยประมาณนะคะ) เราว่าน้องแทบจะไม่หลุดเลย อยู่ดีมากเป๊ะตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลย55555ชอบมากค่ะไม่หลุด ไม่ดรอประหว่างวัน สำหรับเราเราว่าสีเค้าไม่ค่อยเพี้ยนนะคะ      ความมันระหว่างวัน : อันนี้ต้องให้ 10000000000000000000000/10เลยค่ะคุมมันมากๆๆๆ สาวๆที่มีผิวมันต้องตำด่วนๆๆเลยค่ะ นี่คือทางออกของสาวผิวมันที่อยากแต่งหน้าแต่ไม่อยากใช้ไพร์เมอร์เพราะกลัวจะอุตตัน รองพื้นตัวนี้คุมมันดีมากค่ะตอนแรกที่ทดสอบโดยการเทไว้กับกระดาษซับมันเราก็แอบตกใจนิดนึงนะคะเพราะทิ้งไว้หลายชั่วโมงน้องก็ไม่มีน้ำมันออกมาเท่าไหร่เลย พอลงหน้าพอใช้จริง โอ้โหหหหหห ไม่มันเลยค่ะไม่ได้ใช้ไพร์เมอร์ด้วยวันนั้น ดีงามมากควรซื้อมาเป็นไอเทมติดตัวกันตายไว้เลยค่ะไม่ผิดหวังแน่นอน   ข้อดี 1.เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ดีมากกกตามมาตรฐานของลังโคมเลยค่ะไม่ฉ่ำวาสหรือแมตท์จนเกินไปสาวๆคนไหนชอบผิวลุคธรรมชาติรองพื้นตัวนี้ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ 2.มีสีรองพื้นให้เลือกค่อนข้างเยอะนะคะ และมีเข้มเยอะด้วยเหมาะกับสาวไทยเช่นเราค่ะ 3.คุมมันมากสาวๆผิวมันที่ชอบแต่งหน้าแต่ไม่อยากลงไพร์เมอร์ทุกวัน เพราะกลัวอุตตันนะคะตัวนี้คุมมันดีมากกกกก ควรตำที่สุดเราหน้ามันที่สุดในสามโลกยังชอบตัวนี้เลยขอยืนยันว่าคุมมันสุดยอดค่ะ ข้อเสีย 1.ราคาค่ะ ราคาแรงเหมือนกันนะตัวเอง55555(แต่สาวๆคนไหนมีงบเราว่าตัวนี้ควรค่าที่เราคู่ควรมากค่ะ) 2.ไม่มีค่าานึกไม่ออกจริงๆของเค้าดี:) สรุปนะคะถ้าให้เราให้คะแนน Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation รองพื้นตัวนี้เราขอให้ 9.5/10 แล้วกันค่ะที่คแนนโหดขนาดนี้เพราะเนื่องจากเราเป็นคนผิวมันมาก จุดอ่อนของเราคือเรื่องนี้เลย  แล้วน้องคนนี้ก็มาช่วยเราได้ตรงจุดมากปลื้มมากกกก อยากให้เพื่อนลองใช้ตัวนี้นะคะ อยากให้การรีวิวของเราช่วยเพื่อนๆในการตตัดสินใจเลือกรองพื้นค่ะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านรีวิวของเรานะคะ   I    Love    Lancome
more
Life Plankton™ Essence
BIOTHERM
Life Plankton™ Essence
สวัสดีค่าทุกคนวันนี้เราจะมารีวิว biotherm life plankton essence ขอบอกเลยว่าเป็นการรีวิวที่พลีชีพมาก เพราะเราจะเอาหน้าสิวๆในอดีตของเรามาโชว์ (ฮื้อออออ ) เราเป็นสิวเพราะเราใช้เครื่องสำอางค์แล้วแพ้ค่ะ ทำให้หน้าเราเป็นสิวอักเสบขึ้นเยอะมากทั้งหน้าผาก ข้างแก้ม แล้วก็คาง ตอนนั้นอายมากค่ะ จากคนหน้าใสๆ เป็นคนหน้าสิวไปไหนใครก็ทักว่าทำไมสิวขึ้น อายมากค่ะ เสียความมั่นใจเสียความรู้สึกสุด(บางคนทักเราด้วยค่ะว่าเอาน้ำโคลนล้างหน้าหรอหน้าถึงเป็นแบบนั้นฮื้อออ ใจร้ายมากTT) เราพยายามหาทางรักษาหลายๆอย่างแล้วจ้าแต่ไม่ดีขึ้นเลย ไปหาหมอก็เหมือนเลี้ยงไข้พอหยุดไปสิวก็กลับบมา เพื่อนเราเลยแนะนำให้ไปลองใช้ biotherm life plankton essence เพราะเพื่อนเราใช้ตัวนี้ตอนสิวอักเสบแล้วหายไปเลย ผิวหน้าดีขึ้นมากกกกกกกกกกกกก คือเพื่อนเชียร์หนักมากค่ะ เราก็ยังไม่เชื่อนะคะ ไปหาข้อมูลในเน็ต อ่านรีวิว ดูบิวตี้เบอร์เกอร์แนะนำหลายๆคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยค่ะว่าใช้ดีจริงรักษาสิวหายจริง คุณค่าที่ผู้หญิงทุกคนควรลองงง *o* มาฟังคำเคลมของ biotherm life plankton essence ตัวนี้สามารถช่วยฟื้นบำรุง 8 สภาพผิวที่มีปัญหาได้ 8 สภาพผิวที่มีปัญหาของสาวๆ ได้แก่ • ผิวเป็นสิว • ผิวบอบบาง แพ้ง่าย • ผิวที่มีรอยดำ • ผิวที่มีริ้วรอย • ผิวหมองคล้ำ • ผิวขาดความชุ่มชื้น • ผิวขาดความกระจ่างใส • ผิวที่มีรูขุมขนกว้าง โหหฟังปุ๊ปคือตรงกับชีวิตอะไรขนาดนั้นน เราพุ่งไปเค้าเตอร์ biotherm เลยค่ะอยากลองไม่ไหวแล้ว55555555555 วิธีใช้ : ตอนเราไปซื้อพี่ BA บอกว่าให้เทใช้มือ ถูๆๆๆๆๆๆๆวอร์มน้องแพลงตอนในมือเราให้อุ่นแล้วตบๆๆ กดๆๆๆลงหน้าของเรา ย้ำๆๆๆๆนะคะว่ากดลงใบหน้าไปเอาถูลงใบหน้านะ เนื้อสัมผัส : จะเป็นน้ำตบไม่ใสมากค่ะ ซึมง่ายนะไม่หนึบหน้า ทาแล้วไม่เหนอะหน้าแน่นอนค่ะ ที่ชอบคือตบๆๆ แปปเดียวก็ซึมเข้าหน้าแล้วง่ะ โอ๊ยยดีลืมมมม 55555555 กลิ่น : เราว่ามันมีกลิ่นจางๆ นะคะไม่เห็นไม่คาว ไม่ใช่กลิ่นแอลกอฮอล์แต่อย่างใด(บางคนไม่ชอบกลิ่นนะคะ แต่เราชอบบบ555555555 ) เราว่ามันเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของ biotherm เรารู้สึกไปเองว่ามันหอม55555555555 คือชินกับกลิ่นนี้ไปแล้วค่ะสำหรับเรา เราว่ากลิ่นไม่แย่นะไม่ติดหน้าแต่อย่างใด ผลลัพธ์หลังการใช้ติดต่อกัน 8 วัน หน้าเราที่เต็มไปด้วยสิวหยุบหยับจ้าทั้งสิวอุตตันแล้วก็สิวอักเสบเลย Day1 วันแรกที่ใช้เราใช้ก่อนนอนค่ะ ได้มาปุ๊ปใช้เลยมีความอยากลองมาก พอตื่นมาหน้านุ่มมากกกกคือเห็นผลตั้งแต่วันแรกเลยโอ๊ยยยย ชั้นรักเธอ biotherm <3 <3 Day2 เราใช้เช้าเย็นเลยนะคะ เราว่าผลลัพธ์ที่เห็นชัดมากๆแน่นอนเลยคือหน้านุ่มขึ้น นุ่มขึ้นจริง Day3 เราตื่นมาเรารู้สึกว่าหน้ามันใสๆ สว่างๆค่ะ ไม่รู้รู้สึกไปเองมั้ย55555 สิวอักเสบเริ่มยุบ บางส่วนก็แห้งไปเองเลยค่ะ น้องแพลงตอนทำให้สิวอักเสบยุบไปเองเลยจ้า Day4 วันนี้ยังคงใช้ไปเรื่อยๆค่ะ สิวยุบเยอะขึ้นน้า สิวที่ข้างแก้มที่แดงๆ อักเสบเยอะๆก็หายไป Day5 วันนี้พีคสุดคือเพื่อนที่ทำงานเดินมาทักว่าไปทำไรมาหน้าใสขึ้นนนนนนน วี๊ดดดดดดดดดด5555555555 ดีใจมากค่ะ มีคนทักหน้าดีขึ้น Day6 เรารู้สึกว่าสิวยุบหมดแล้ว รอยแดงจากสิวเริ่มจางค่ะเป็นสิ่งที่เรากลัวสุดเลย เพราะรักษาสิวมาหลายรอบรอยสิวนี้แหล่ะรักษายากสุด Day7 รอยแดงจากสิว มีขนาดเล็กลงหน้าที่เคยอักเสบทั้งหน้ายุบลงไวมากค่ะ Day 8 วันนี้ที่รอคอยครบ 8 วันที่พี่ BA บอกแล้วค่ะว่าเราจะพบความแตกต่างเราขอมาสรุปการเปลี่ยนแปลงที่เราเจอกับตัวนะคะ # ความรู้สึกหลังใช้ biotherm life plankton essence ครบ 8 วัน# 1. สิวอักเสบ สิวหนองยุบลงจริงค่ะ คอนเฟิร์มเลย ไม่อยากเชื่อ เพราะมันเป็นสิวที่อยู่ติดหน้าเรามาตลอดเจ้า biotherm ช่วยกำจัดสิวอักเสบของเราออกไปได้ ใครมีปัญหาสิวอักเสบยังไงทดลองใช้ดูนะคะมันดีมากกกกกกจริงๆ 2. รอยสิว รอยแดง รอยดำที่เรากังวล คนรักษาสิวรู้ดีค่ะว่า สิวที่ว่าหายยากแล้วรอยสิวหายยากกว่า เราเองเสียเงินค่ารักษารอยสิวหนักกว่ารักษาสิวอีก หลังจากใช้ได้ 8 วันbiotherm นอกจากจะช่วยให้สิวอักเสบยุบแล้ว รอยสิวจางลงด้วยค่ะ (เราใช้คำว่าจาง เพราะในเวลา 8 วันรอยสิวไม่มีทางหายหมดต้องใช้เวลานานกว่านั้นนะคะ) ทั้งรอยดำรอยแดงสำหรับเราจางลงหนักมาก 3. สำหรับคนที่กลัวแพ้ เราแนะนำให้ไปเค้าเตอร์ biotherm เพื่อไปปรึกษากับพี่ BA ประจำเคาท์เตอร์เลยค่ะว่าผิวเราเป็นแบบนี้ๆ มีปัญหาอย่างนี้ๆ พี่ BA เค้าจะแนะนำเราดีมากว่าเป็นยังไง แนะนำวิธีใช้ด้วยค่ะ BA ของbiotherm น่ารักทุกคนค่ะ (เราซื้อสาขาเซ็นทรัล บางนาจ้า55555พี่ใจดีมาก แนะนำวิธีใช้ดีมากค่ะ) สามารถไปเค้าเตอร์ตามพิกัดนี้ได้เลยจ้า • พารากอน ชั้น M BEAUTY HALL แผนกเครื่องสำอาง 02-6107759 • เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น 1 แผนกเครื่องสำอาง 02-5411536 • เซ็นทรัลบางนา ชั้น 1 แผนกเครื่องสำอาง 02-3611047 • เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 1 แผนกเครื่องสำอาง 02-8848097 • เดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 1 แผนกเครื่องสำอาง 02-3633125 ขอบคุณทุกคนที่อ่านรีวิวของเรานะคะ ใครเป็นสิวอักเสบ รอยจากสิวเราเอาใจช่วยนะคะ
more