ปัญหาผิวที่ส่วนตัวมีแบบบ่อยมากๆ คือเวลาเป็นสิวชอบบมีพวกจุดด่างดำ รอยดำทิ้งไว้ตลอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะบีบ หรือไม่บีบ คือมีให้ชมเชยทิ้งไว้คาใจตลอด บางครั้งช่วงรอบเดือนจะมา หรือใส่แมสจะมีสิวแบบแมเ็ดเป้งๆ จะเอ๋ มาทันทีเลยค่ะปวดใจมากๆ แต่นี่ได้ทดลองใช้ * Bright Complete Anti Acne Booster Serum และ * Bright Complete Anti-Acne Serum Cream นี่ใช้พร้อมกัน สองตัว ควบคู่เลยค่ะเพื่อประสิทธิภาพที่ชัดเจนสุดๆ ลงตัวแรกด้วย Bright Complete Anti Acne Booster Serum เนื้อผลิตภัณฑ์ : เซรั่มสีใสๆ ไม่เหนียว ซึมไว กลิ่น : ออกมะนาวๆ ฉุนๆ นิดนึงค่ะ แต่ส่วนเราเราว่ามันสดชื่นดี ตามด้วย Bright Complete Anti-Acne Serum Cream เนื้อผลิตภัณฑ์ : ครีมสีขาวขุ่น ทาแล้วเย็นนิดๆ สดชื่น ซึมไวไม่เป็นคราบ กลิ่น : มะนาวคล้ายๆ เซรั่มแต่เบากว่าค่ะ ผลลัพธ์ : หลังจากลดลองใช้มา 14 วัน คือเห็นได้ชัดเลยค่ะว่าผิวดีขึ้นแบบตะโกน อย่างแรกสิวลดลงจริงๆค่ะ ไม่ค่อยขึ้นเพิ่มมีแต่อันเดิมๆ พอเห็นอยู่บ้าง แต่พวกรอยสิว รอยดำจางลงไปเยอะมากๆ ค่ะ ที่สำคัญผิวหน้าดูไบร์ท ขาวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิมด้วย ไม่แพ้ด้วยค่ะ ชอบตรงที่ใช้เช้า-เย็นคู่กันเลย และตามด้วย make up หรือกันแดด ก็ปกติค่ะ ไม่เป็นคราบครีมใดใดทั้งสิ้น โดยรวมคือ Happy มากค่ะชอบ ถูกใจเลย ใช่คู่กันเห็นผล x2 จริงๆ ค่ะ ^____^

ปัญหาผิวที่ส่วนตัวมีแบบบ่อยมากๆ คือเวลาเป็นสิวชอบบมีพวกจุดด่างดำ รอยดำทิ้งไว้ตลอดเลยค่ะ ไม่ว่าจะบีบ หรือไม่บีบ คือมีให้ชมเชยทิ้งไว้คาใจตลอด บางครั้งช่วงรอบเดือนจะมา หรือใส่แมสจะมีสิวแบบแมเ็ดเป้งๆ จะเอ๋ มาทันทีเลยค่ะปวดใจมากๆ แต่นี่ได้ทดลองใช้ * Bright Complete Anti Acne Booster Serum และ * Bright Complete Anti-Acne Serum Cream นี่ใช้พร้อมกัน สองตัว ควบคู่เลยค่ะเพื่อประสิทธิภาพที่ชัดเจนสุดๆ ลงตัวแรกด้วย Bright Complete Anti Acne Booster Serum เนื้อผลิตภัณฑ์ : เซรั่มสีใสๆ ไม่เหนียว ซึมไว กลิ่น : ออกมะนาวๆ ฉุนๆ นิดนึงค่ะ แต่ส่วนเราเราว่ามันสดชื่นดี ตามด้วย Bright Complete Anti-Acne Serum Cream เนื้อผลิตภัณฑ์ : ครีมสีขาวขุ่น ทาแล้วเย็นนิดๆ สดชื่น ซึมไวไม่เป็นคราบ กลิ่น : มะนาวคล้ายๆ เซรั่มแต่เบากว่าค่ะ ผลลัพธ์ : หลังจากลดลองใช้มา 14 วัน คือเห็นได้ชัดเลยค่ะว่าผิวดีขึ้นแบบตะโกน อย่างแรกสิวลดลงจริงๆค่ะ ไม่ค่อยขึ้นเพิ่มมีแต่อันเดิมๆ พอเห็นอยู่บ้าง แต่พวกรอยสิว รอยดำจางลงไปเยอะมากๆ ค่ะ ที่สำคัญผิวหน้าดูไบร์ท ขาวกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิมด้วย ไม่แพ้ด้วยค่ะ ชอบตรงที่ใช้เช้า-เย็นคู่กันเลย และตามด้วย make up หรือกันแดด ก็ปกติค่ะ ไม่เป็นคราบครีมใดใดทั้งสิ้น โดยรวมคือ Happy มากค่ะชอบ ถูกใจเลย ใช่คู่กันเห็นผล x2 จริงๆ ค่ะ ^____^

เป็นคนที่ชอบทานพวกชา น้ำอัดลม ฟันเลยมีออกสีเหลืองๆบ้าง นี่พอได้ลอง Optic White O2 Whitening Toothpaste รส Peach Osmanthus ชอบมากกกกกก คือปกติพวกยาสีฟันทำให้ฟันขาวมักแสบปาก! แต่นี่ไม่เลยค่ะ ฟองนุ่ม ไม่แสบปาก ขอบปากไม่ลอกด้วย ที่สำคัญใช้ต่อเนื่องวันที่ 3 ฟันเหลืองๆ ดูแบบน้อยลงไปนิดนึง เนื้อผลิตภัณฑ์ : สีขาว แตะน้ำนิดนึงเพื่อให้เกิดฟองนุ่มๆ กลิ่น : พีชเลยจ้า หอมละมุนสุดๆ รสชาติ : รสพีช ไม่เผ็ดเลย แปรงฟันแบบแฮปปี้มากๆ ส่วนตัวชอบมากค่ะ ซื้อใช้ต่อแน่นอน สาวกรสพีชแบบเราด้วย ดีใจมากแม่ แบบไม่ต้องไปฟอกสัฟันหลายพันบาทก็ได้ ใช้ต่อเนื่องนานกว่านี้ฟันน่าจะขาวขึ้นได้ในระดับนึงแน่นอน

เชื่อเลยว่าเพื่อนๆ หลายคนมีปัญหาการทาแป้งอย่างมากกก... ใช่ค่ะ เราก็มีปัญหา "หน้ามัน หน้าเยิ้ม แป้งเป็นคราบ" บอกตรงๆ ค่ะไปไหนมาไหนเขิลทุกทีเวลาไปๆ เข้าหน้ามัน แป้งเป็นคราบ บางทีตัวเราไม่ทันสังเกต ส่องกระจกดูอีกทีฉันนี่กรี๊ดเลย เพราะนี่เป็นคนหน้ามันบริเวณ T-Zone และนี่ได้ไปค้นพบแป้งตัวนึง ซึ่งตอบโจทย์มากๆ เป็นแป้งที่ตอบโจทย์กับผิวไทย อย่างมาก แถมราคาถูกอีกด้วย นั่นก็คือ " LIN SUPER PERFECT POWDER FOUNDATION" เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้น แต่เน้นงานผิวเนียนแบบธรรมชาติ ​ มาในรูปแบบตลับสีชมพู น่ารักสดใส ขนาดกระทัดรัด กำลังดี แถมพกพาง่าย ( ปริมาณ 10 กรัม ราคา 590.- ) :: มีให้เลือก 3 เฉดสี ตามสีผิวหน้า :: NO.1 ผิวขาวอมชมพู NO.2 ผิวสองสี (โทนเหลือง) NO.3 ผิวสีแทน สำหรับผิวของนุ่น เป๊ะมากกับสี NO.1 ผิวขาวอมชมพู เหมาะกับสีผิวของนุ่นมากๆ ไม่วอก ไม่ลอย แถมตัวแป้งก็มีเป็นชั้นแป้ง ชั้นตลับแยกกันให้อีกด้วย เปรียบเทียบชัดๆ แต่ละเฉดสี "เปรียบเทียบชัดๆ แต่ละเฉดสี" ***ส่วนประกอบสำคัญ ปังไม่ไหว*** เหมาะมากๆ สำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะมีสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน แถมมีส่วนผสมของน้ำมันตับปลาฉลาม ช่วยให้ผิวสุขภาพดี มีส่วนผสมของ วิตตามินอี ช่วยบำรุงผิว และลดการเเกิดริ้วรอย เปรียบเทียบชัดๆ ข้างที่ทาและไม่ทา "เปรียบเทียบชัดๆ ข้างที่ทาและไม่ทา" จากภาพด้านบนที่นุ่นได้ทดสอบทาครึ่งหน้า เปรียบเทียบชัดๆ ได้เลยค่ะว่าผิวเดิมมีปัญหารอยสิว ขอบตาดำ หมอง ไม่สดใส แต่...ข้างที่ลงแป้ง LIN เรียบเนียน กริบทันที แบบว่าไม่ต้องให้ App เลยค่ะ =^^= ที่สำคัญ สบายผิวมากๆ ไม่หนักหน้าเลย หน้าไม่ร่องด้วย ชอบมาก เนื้อสัมผัส คือ ดีมากกกกก ค่ะ บางเบามาก กลืนไปกับผิวหน้าทันที เนียนกริบ แต่ไม่วอก ไม่ลอย ไม่เป็นคราบ ที่สำคัญคุมมันได้ตลอดวันเลยค่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่อยากมีผิวเป๊ะ ไม่โป๊ะ คุมมัน หน้าเด้งตลอดทั้งวัน อยากได้ Look ธรรมชาติ แบบไม่หนา ไม่โบ๊ะ ผู้ชายไม่แซว! "แป้งลิน" ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ ถูกและดี เหมาะกับผิวสาวไทยแบบเรามากๆ ได้ทั้งเนียนใส แถมยังช่วยบำรุงผิวไปในตัวอีก สรรพคุณปังขนาดนี้ ไม่มีที่ไหนอีกแล้วจ้า.... สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ สั่งซื้อได้ที่ Fb / Line : @linthailand Shopee : Linthailandofficial ห้างร้าน : Coscen, Beautrium

ลองเปิดใจครีมซอง เพราะเห็นว่าตัวนี้น่าสนใจดีเพราะมีส่วนผสมของกระชาย นี่คือแบบว้าวมากเอาจริงๆ นี่เลยลองซื้อของ Am Herb มาเพราะเค้าเป็นครีมบำรุงผิวหน้าที่เน้นสารสะกัดจากธรรมชาติมาก่อนเลย (เพราะนี่ก็กลัวแพ้เหมือนกัน555555+) เลยต้องเลือกนิดนึง เนื้อครีม : เป็นครีมออกใสๆ เนื้อสัมผัสเหมือนเจลลี่เลย แต่คือซึมไวมากๆๆๆๆ ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย แปปเดียวแห้งกลืนไปกับผิว กลิ่น : เหมือนได้กลิ่นอ่อนๆ แต่ฟิลแบบสมุนไพรธรรมชาติเบาๆ ค่ะ หลังทดลองใช้ : ไม่มีอาการแพ้ใดๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนผิวเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิม ดูละเอียด ผิวดูใสๆขึ้น พวกรอยสิวจุดด่างดำอาจจะต้องใช้เวลากว่านี้ แต่ผลลัพธ์ตอนนี้ คือโอเคค่ะ พึงพอใจมากๆ ที่สำคัญ น้องพกพาง่าย กระทัดรัด ลืมพกไปไหนก็เลี้ยวเข้าไปซื้อ 7-11 ได้เลยข้อนี้คือดีมาก555555 ราคาไม่แพงด้วยค่ะ ซองละ 49 บาทให้มาเต็มซองเลย (แอบชี้เป้าซื้อออนไลน์ได้นะ ส่งฟรี มีโปร นี่ส๋อยมา 44 บาท ถูกไปอีก)

วันนี้จะมีรีวิว** ครีมกันแดดทาตัวสุดปัง!! ที่ต้องคว้าทาทุกเช้าก่อนออกจากบ้าน "Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Refresh Bright SPF50+/PA+++" แค่ทาก็รู้สึก เฟรชชชชชช สุดๆๆโดยส่วนตัวเป็นคนที่ขาดครีมทาตัวไม่ได้เลยจ้าาาาไม่ทาแล้วเหมือนชีวิตขาดอะไรไป มันแห้งๆ ไม่มั่นใจ ที่สำคัญที่กลัวแดด กลัวดำมากอยู่แล้ว แต่ชอบที่จะออกไปเที่ยว ถ่ายรูปสวยๆ สู้กับแดดว่างั้นละคะเพื่อภาพถ่ายที่สวยงาม55555+ปัญหาที่เจอในครีมกันแดดปกติ*1) เหนียว! แม่เจ้าถ้าขึ้นชื่อครีมกันแดด ทาตัวที่จะปกป้องรังสี UV แบบจริงจัง คือมันต้องเหนียวไง! และเหนียวมันก็หยี๋ๆ อ่ะทำให้เราไม่อยากทา กลัวตั้งแต่บีบใส่ฝ่ามือยังไม่ทันจะทาตัวเลย2) เหนอะหนะ! อาการมันเป็นยังไงน่ะหรอ? บอกเลยว่าสยองมาก ทาไปแล้วนอกจากจะยังไม่แห้งไวแล้วนะ ผิวตัวเราจะเยิ้มๆ เวลาเราใส่เสื้อผ้ามันก็จะติด เฉียดผิวเราไปก่อน มันรู้สึกไม่สบายตัวอย่างรุนแรง หลายคนเจอปัญหาคล้ายๆ แบบนี้เลยหนีการทาครีมกันแดดไปกันเยอะมากค่ะ3) เป็นคราบ! สำคัญที่สุด!!!!! เจอทุกวัน เวลาทาครีมกันแดดที่ตัวแล้วนั่งขับรถ โอ้โหหห เบาะรถไม่ว่าจะเบาะหนัง เบาะผ้า มีคราบขาวๆ ติดกันไปจ้าาา โดนคนที่บ้านบ่นประจำเรื่องคราบครีมกันแดด มันเป็นวงๆ แทบๆ สีขาวๆ แบบนี้ ทำให้หงุดหงิดใจได้มาจริงๆค่ะ เวลาใส่นาฬิกาอีก (คราบครีมก็ต้องติดตรงหลังนาฬิกา) ทำให้นาฬิกาดูเก่า และสกปรกทันที T.Tแต่เดี๊ยวววว...นี่ตั้งแต่รู้จัก ครีมกันแดดของ Biore นี่ชอบ ตัวสูตร BioreUV Anti-Pollution Body Care Serum Refresh Bright SPF50+/PA+++ ที่สุด รู้สึกว่ามันตอบโจทย์มากแม่เพราะนี่ เป้นคนขี้ร้อน กลัวแดด แต่สูตรนี้คือ THE BEST ที่ใช้มาหลายปีละตั้งแต่ตัวนี้ออกมาเลยก็ว่าได้ 5555+ เพราะความ คูล!! COOL ของนาง ทาแล้วให้ความรู้สึกเย็น* ทุกครั้ง มันแฮปปี้มากจริงๆ ที่สำคัญแห้งไวมากกกกกกกกกกก ให้ความชุ่มชื่นไปในตัวอีกด้วย เพราะตัวนี้นาง มีสูตรผสาน Cucumber Extract, Hydro Boost Jelly และ Menthol ให้ผิวเย็นสดชื่นทันทีที่ทา ทำให้สบายตัวตลอดวัน ลดความแสบร้อน*ช่วยเรื่องปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ*ป้องกันผิวไหม้จากแดด*กันน้ำกันเหงื่อให้การปกป้องผิวยาวนาน*มี Moisturizing Pack และน้ำแร่ธรรมชาติจากญี่ปุ่น เติมความชุ่มชื่นให้ผิวแม้หลังออกแดดอีกด้วยแพ็คเก็จ : ถ้าสูตร BioreUV Anti-Pollution Body Care Serum Refresh Bright SPF50+/PA+++ จะเป็นหลอดสีออกเขียวน้ำทะเล และมีรูปหิมะ ที่ทำให้เรารู้เลยว่าเนี่ย สูตรเย็น!! แต่รุ่นใหม่ภาพรวมดูสมูธกว่าอันเก่า ส่วนตัวชอบเพราะแค่มองก็รู้ว่าเย็น สดชื่นแล้วจ้า (หลอดไม่ได้ต่างอะไรกับโฉมเก่ามากเลยแค่ฉลากสูตรจากน้ำเงิน-เป็นเทา)  จริงแล้วเค้ามี 3 สูตรด้วยกัน สีแพ็คเก็จก็จะต่างกันออกไปค่ะ**วิธีใช้ : เปิดฝาส้มๆ และบีบลงที่ตัว และทาได้ทันทีเลยค่ะ ปริมาณเอาตรงๆ แล้วแต่ความชอบนะ เพราะนี่เป็นคนชอบทาครีมเยอะๆ หนาๆ ทั่วๆ เลยบีบเอาตามที่กลบผิวเราได้หมดเลยค่ะเนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อครีมสีขาวขุ่น แน่นๆ สิ่งมหัศจรรย์คือ เกลี่ยง่ายมากกก ไม่เหนียว ไม่หนือ ไม่หลอน555+ ให้ความรู้สึกเย็นทั้งแต่ครั้งแรกที่บีบออกมา ทาแล้วมีความสุขค่ะ มันเย็นสบายมากๆกลิ่น : จะออกเย็นๆ เย็นแบบสบายๆ ไม่ฉุนค่ะ ส่วนตัวคือชอบความรู้สึกหลังทดลองใช้ : เนื้อครีมแน่นจริงแต่ตอนทาซึมเข้าสู่ผิวได้ไวมาก ไม่ทิ้งคราบอะไรทั้งสิ้นหลังทา ไม่เหนียวเลย ให้ความรู้สึกเย็นทันทีที่ทา เย็นสักพักเลยด้วย555+ และยังสามารถทาได้ทั้งวันด้วยค่ะไม่เป็นคราบแน่นอน*ผลลัพธ์ : ตั้งแต่ใช้นางมาต่อเนื่อง คือผิวไม่คล้ำลงเลยค่ะ ถ้าแดดปัจจุบัน วันปกติคือ ทาทุกวันตอนเช้า ลุยได้ปกติทั้งวันค่ะ ใช้ต่อเนื่องรอยจุดด่างดำ ตัวอย่างเช่นรอยยุงกัดเราจางขึ้นเยอะเลยค่ะ นอกจากไปเจอแดดหนักๆ อาจจะมีเติมระหว่างวันด้วยหลอดเล็กบ้าง แต่โดยรวมคือชอบค่ะ เอาอยู่ ผิวไม่แห้ง ชุ่มชื่น นิ่มตลอดวัน เจอแดดผิวไม่มีแสบแดดด้วยค่ะ แฮปปี้มาก สววรค์ของลูกผู้หญิงก็คือมีผิวกายที่ขาว ไม่ดำแดดนี่ละคะ**นอกจากผิวเราจะไม่ดำขึ้นแล้ว แถมผิวยังขาวกระจ่างใสขึ้นด้วย**แนะนำเลยค่ะ ทาทุกวันตอนเช้า หรือตอนไหนก็ได้ ไม่ว่าจะแดดแบบไหน BioreUV Anti-Pollution Body Care Serum Refresh Bright SPF50+/PA+++ ก็เอาอยู่ค่ะ #บล็อกแดดมั่นใจ ดูไบร์ท ไม่แสบผิว แน่นอนค่าราคามีหลายขนาดให้เลือกด้วยตามปริมาณที่ใช้ หรือพกพาก็มีนะขนาดปกติ 150 ML. 290 บาท  (แนะนำ)ขนาดพกพา 50 ML. 129 บาท**ราคาข้างต้นเป็นราคาขายปกติ ทั้งนี้ราคาอาจจะถูกกว่านี้แล้วแต่การจัดโปรโมชั่นแต่ละที่ขาย Website ต่างๆ หรือช่วงเวลาด้วยค่ะ**เพื่อนๆ คนไหนที่อยากลองใช้ สามารถหาซื้อมาลองได้ที่ 7-Eleven มีแบบหลอดเล็กมาทดลองก่อนได้ค่ะ ติดใจค่อยไปส๋อยหลอดใหญ่ติดบ้านไว้ทาประจำได้เลย แต่ให้แนะนำแบบคุ้มๆ "หลอดใหญ่ไปเลยค่ะ" ใช้ทุกวัน ปกป้องทุกวัน คุ่มค่ากว่าแน่นอนค่ะ ^______^

วันนี้จะมีรีวิว** จัดเต็ม กันแดดตัวดีจาก Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ แบบ...จุกก จุกกก จากใจ แบบ...ไม่อวยนะคะ เริ่มต้นจากเป็นคนที่ "ไม่ชอบทากันแดด" เอามากๆ TT.คุณแม่ก็เตือนว่าแดดบ้านเรามันแรง ไม่ทากันไว้หน้าจะแก่นะ ฯลฯ นี่ด้วยเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรเหนียวๆ มันๆ เหนอะหนะ​ๆ คือบายเลย เพราะทุกครั้งรู้สึกร้อนๆ เพราะอากาศหรือสภาวะแวดล้อม ณ เวลานั้น แล้วหน้าเยิ้มๆ อารมณ์เหมือนหน้าใหล เครื่องสำอางเป็นคราบอีก จับแล้วหลุดเลยก็ว่าได้ค่ะ หลอน และ สงสารตัวเองมากๆ TT___TTย้อนเวลาไปเลยลองตัดสินใจซื้อกันแดดที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองสุดๆ ก่อนเลย นี่เลือก "Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++" (ตั้งแต่ตัวหลอดโฉมเก่าสุด) เพราะอะไร ทำไมต้องลองเจ้ากันแดดตัวนี้ ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทากันแดด เพราะรู้สึกว่า1) เนื้อกันแดดมัน ทำให้หน้ามัน เหนียว คือหยี๋มาก 2) ทาทีไรเป็นคราบทุกที ในระดับที่เกลี่ยไม่ดี คนมองตามรอยครีมที่เป็นปืดๆเลยอ่ะ 3) ทาทีไร แต่งหน้ายากทุกที รองพื้น คอนซีลเลอร์ สีตีกันมั่วไปหมด และนี่แต่งหน้าไม่เก่งด้วยไง จะเน้นกลบแค่รอยสิวมากกว่า4) หน้าใหล เป็นสิ่งที่หลอนมาก แค่คิดว่าจะต้องเติมแแป้งถ้ากันแดดมีบนหน้าคือเล็งและเกลี่ยยากมาก เลยทำให้เราไม่กล้าตบแป้งเลยเวลาทากันแดด กลัวหน้าเทา หน้ามัน ฯลฯแต่กันแดดของ Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ ตัวนี้ตอบโจทย์ฉันไง!!!! ปัญหาสาระพัดที่ทำให้ความทรงจำของฉันกับครีมกันแดดที่แย่ๆ หายไปทันที เพราะเป็นกันแดดที่อเมซิ่งมากแม่...นางเป็นกันแดด ครั้งแรกของโลก ที่มีสูตร Micro Defense นวัตกรรมขั้นสุดจากญี่ปุ่น กันแดดสูตรน้ำ เนื้อเอสเซ้นส์ บางเบา ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่ทิ้งคราบ (เอาง่ายๆทาแต่เหมือนไม่ทาอ่ะ) แต่ปกปิดแดดมิดชิด ที่สาดเข้าผิวหน้าเราได้สมบูรณ์แบบมากกกก*ปกป้องแม้ร่องผิวลึกถึงชั้นคอลลาเจน ไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย *กันน้ำกันเหงื่อให้การปกป้องผิวยาวนาน *อีกทั้งยังผสานคุณค่าการบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ผิวเด้งใส อิ่มน้ำไปอีกแพ็คเก็จ : เป็นหลอดสีฟ้าเข้มไล่สีฟ้าอ่อน เป็นฝาเกลียวหมุนเปิด - ปิด ทุกขนาดจะลักษณะเดียวกันเลยค่ะ (ไม่ว่าจะกี่โฉมนางก็จะคอนเซปหลอดสีฟ้าเด่นเช่นเคย)  วิธีใช้ : แนะนำให้บีบครีมเอสเซ้นส์ลงบนฝ่ามือประมาณ 2 ข้อนิ้ว ลูบไล้เบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าและคอหลังครีมบำรุงผิว ใช้ได้ทุกวัน และทาเติมได้ทั้งวันค่ะเนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อครีมแบบเจลหน่อยๆ สีออกอมเหลืองๆ ให้ความรู้สึกเย็นทั้งแต่ครั้งแรกที่บีบออกมา ยันทาบนผิวหน้า แว้บแรกเลยคือ ให้ความรู้สึกเฟรชสุดๆ กลิ่น : ส่วนตัวรู้สึกเหมือนเลมอนอ่อนๆ 5555+ คือชอบมาก ได้กลิ่นทีไรสดชื่นทุกที ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ซึมเข้าสู่ผิวได้ไวมาก ไม่เหนียวเลย ให้ความรู้สึกเย็นๆ สดชื่นด้วย จะทาตอนไหนก็ได้บนผิวไม่ทำให้หน้ามันเลย ไม่ทิ้งคราบ ไม่มีรอยครีมกันแดดบนหน้า ที่สำคัญคือเกลี่ยง่ายมาก ทาทั่วหน้้าได้สบายมากค่ะ ผลลัพธ์ : เราใช้มาต่อเนื่อง 3-4 หลอดแล้ว หน้าก็เด็กแบบที่เห็นแหละคะ 5555 (จะเลข3แล้วนี่) เพราะการทาครีมกันแดดทำให้เราหน้าเด็ก!  นางคือเกราะป้องกันผิวชั้นดีเลยที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด เราสิวไม่ขึ้นเลยนะใช้กันแดดตัวนี้ ล้างออกง่ายด้วย ไม่ตกค้างผิว หน้าไม่มัน ไม่อะไรเลยผิวหน้าปกติ ส่วนคือคือ HAPPY มาก เพราะนางคือกันแดดในฝันอ่ะ ที่ทาไปแล้วปกติแต่ผิวไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง (อดีตยี่ห้ออื่นเจอมาคือทาแล้วหน้ามัน/สิวขึ้นด้วยก็มี) และไฮไลท์ ที่ไม่เหมือนใครของนางคือ "สามารถทาทับเมคอัพได้ " อันนี้อยากกรีดร้อง นี่ลองทาแล้ว หน้าไม่ใหลจริงๆ 5555+ ทาทับกี่รอบหน้าก็ปกติ ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นตอนทาด้วย ที่สำคัญแม้ใส่หน้ากากอนามัยหน้าก็ไม่ใหลเลอะนะจ้า ถือว่ารอดมาก เครื่องสำอางค์ไม่หลุด หน้าไม่มัน เด้งใสทั้งวัน เริ่ดดดดมากกก...ไม่กลัวแก่ ไม่แคร์แดด แม้ covid จะระบาด หรือ น้ำแข็งขั้วโลกกำลังจะละลายแนะนำเลยค่ะ* ยิ่งหนุ่มสาว ออฟฟิต หรือคนอยู่บ้านทั่วไปก็ใช้ได้ค่ะ ง่ายมาก ปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเต็มที่ แต่ประหยัดเวลาหลายๆ อย่างไปมาก ดีต่อผิวไม่ก่อให้เกิดการแพ้ การระคายเคืองอีกด้วย   เอาคะแนนไปเลย 10/10/10 ส่วนตัวคือชอบมาก ตอบโจทย์ชีวิตเรามากราคามีหลายขนาดให้เลือกด้วยตามปริมาณที่ใช้ หรือพกพาก็มีค่ะ 15 กรัม 129 บาท 50 กรัม 420 บาท85 กรัม 650 บาท**ราคาข้างต้นเป็นราคาขายปกติ ทั้งนี้ราคาอาจจะถูกกว่านี้แล้วแต่การจัดโปรโมชั่นแต่ละที่ขาย Website ต่างๆ หรือช่วงเวลาด้วยค่ะ**เพื่อนๆ ที่อยากลองใช้ สามารถหาซื้อมาลองได้ก่อนค่ะ ที่ 7-Eleven หลอดเล็กมาทดลองก่อนได้ค่ะ ติดใจค่อยไปตำหลอดใหญ่ติดบ้านไว้เพิ่มได้เลยค่ะ ช่วงนี้ยุค COVID-19 เราใส่หน้ากากอนามัยก็จริงแต่กันแดดห้ามขาดนะคะ หน้า 2 สีมาช่วยไม่ได้จริงๆ นะจ้าบอกก่อน ^__^

แว๊บแรกคือ ถ้าอยากยกกระชับ หน้าเรียว ไร้ริ้วรอย วิธีลัดสุดๆ คือการ "ฉีด" แต่แบบในใจก็คือกลัวอ่ะ มันแบบเอาอะไรแปลกปลอมเข้าผิวแต่คนเราก็จะหน้ามืดไปบ้าง เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยก็มาแบบเราตั้งตัวไม่ทันเลย แต่พอได้ยินว่า ผลิตภัณ์จาก Clinique ออกมาใหม่!! เป็นตัวบำรุง เจาะจงความหย่อนคล้อย ริ้วรอยบนในหน้าโดยตรงเลย คือ เจ้า ตัว1. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt- ตัวนี้เน้นช่วยยกกระชับผิวบริเวณขากรรไกร และปรับรูปลักษณ์ใบหน้าเรียว!! (คุณสมบัติยังกะ Botox)2. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Revolumize- ตัวนี้เน้นเพื่อเติมเต็มผิว และลดเลือนริ้วรอย (คุณสมบัติยังกะ Filler)3. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer DUO (Resculpt + Revolumize)- อันนี้ก็คือ ข้อ 1 และ 2 นั่นล่ะ เก๋ตรงที่นางรวมตัวกันในกระปุกเดียว ทั้งปรับรูปหน้า และเติมเต็มริ้วรอยเมื่ออ่านรีวิวมาแล้วนี่เลยรีบปรี่ไปห้างทันทีเพื่อไปลองนาง และได้มีโอกาสทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Clinique สูตร Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt และ Revolumize เป็นตัวเทสเตอร์แบบซอง (สามารถไปขอรับตัวทดลองได้ที่เคาน์เตอร์ Clinique ทุกสาขาค่ะ*) รีวิวเจ้าตัวนี้คือ 1. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt*   เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมหนักแน่น ตั้งแต่บีบออกมา ตัวนี้จะสีม่วงอ่อนๆ แนวพาสเทลกลิ่น : กลิ่นนัวๆ แต่ไม่แรงมากพอรับได้ ไม่ฉุนเท่าไหร่ค่ะความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ทาบริเวณใต้ตาปาดยาวผ่านโหนกแก้มขึ้นไปถึงหางตากันเลยทีเดียว เนื้อครีมซึมไวมากๆ ไม่ต้องคราบไว้บริเวณที่ทาด้วยค่ะ สามารถทาคอนซีลเลอร์ทับต่อได้เลยผลลัพธ์ : ใช้ต่อเนื่อง 7 วัน (หมดซองพอดี) เรื่องความดำใต้ตาไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ แต่บริเวณโหนกแก้ม ถ้าดูจากภาพจะเห็นเลยว่า ใช้ต่อเนื่องผิวดูกระชับขึ้น ร่องใต้ตาก็ดูเต็มขึ้น #ภาพขวามือ ถือว่าระยะเวลาแค่นี้ได้ขนาดนี้ส่วนตัวโอเคมากค่ะ

แว๊บแรกคือ ถ้าอยากยกกระชับ หน้าเรียว ไร้ริ้วรอย วิธีลัดสุดๆ คือการ "ฉีด" แต่แบบในใจก็คือกลัวอ่ะ มันแบบเอาอะไรแปลกปลอมเข้าผิวแต่คนเราก็จะหน้ามืดไปบ้าง เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยก็มาแบบเราตั้งตัวไม่ทันเลย แต่พอได้ยินว่า ผลิตภัณ์จาก Clinique ออกมาใหม่!! เป็นตัวบำรุง เจาะจงความหย่อนคล้อย ริ้วรอยบนในหน้าโดยตรงเลย คือ เจ้า ตัว1. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt- ตัวนี้เน้นช่วยยกกระชับผิวบริเวณขากรรไกร และปรับรูปลักษณ์ใบหน้าเรียว!! (คุณสมบัติยังกะ Botox)2. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Revolumize- ตัวนี้เน้นเพื่อเติมเต็มผิว และลดเลือนริ้วรอย (คุณสมบัติยังกะ Filler)3. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer DUO (Resculpt + Revolumize)- อันนี้ก็คือ ข้อ 1 และ 2 นั่นล่ะ เก๋ตรงที่นางรวมตัวกันในกระปุกเดียว ทั้งปรับรูปหน้า และเติมเต็มริ้วรอยเมื่ออ่านรีวิวมาแล้วนี่เลยรีบปรี่ไปห้างทันทีเพื่อไปลองนาง และได้มีโอกาสทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Clinique สูตร Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt และ Revolumize เป็นตัวเทสเตอร์แบบซอง (สามารถไปขอรับตัวทดลองได้ที่เคาน์เตอร์ Clinique ทุกสาขาค่ะ*)รีวิวเจ้าตัวนี้คือ 2. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Revolumize*เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมแน่นมาก เข้มข้นสุดๆ มีลักษณะสีขาวขุ่นๆกลิ่น : ตัวนี้กลิ่นนัวๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ฉุนๆ ไปหน่อยค่ะแต่ไม่ได้ซ๊เรียสอะไร (ตัวRevolumizeกลิ่นเบากว่า)ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ทาบริเวณกรามและปาดยกขึ้นไปด้านบน เลยติ่งหูไปอีก เนื้อครีมแน่นมากๆ แต่กลับซึมลงสู่ผิวไวมากๆ สามารถทากันแดด หรือบำรุงตัวอื่นต่อได้เลย และด้วยความมหัษจรรย์ของ Clinique เนื้อครีมแน่นขนาดนี้ กลับทาแล้วไม่ทิ้งความมันไว้เลย (ข้อนี้ชอบมาก)ผลลัพธ์ : ใช้ต่อเนื่อง 7 วัน (หมดซองพอดี) ชัดเป๊ะดูจากภาพคือ "บริเวณกรามกับแก้ม ยกขึ้น กระชับขึ้น ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น" กว่าเดิมมากๆ #ภาพขวา คือยกยกขึ้นกันไปเลย คือผลลัพธ์อันนี้คือกรี๊ดดดดดมาก ชอบ ได้ทั้งบำรุง แถมไม่ต้องเสี่ยงตัวเองไปฉีดอะไรแปลกๆด้วย

วันนี้จะมีรีวิว ผลิตภัณ์จาก Clinique แบบพลีชีพชัดๆ กันไปเลยค่ะ =^____^=แว๊บแรกคือ ถ้าอยากยกกระชับ หน้าเรียว ไร้ริ้วรอย วิธีลัดสุดๆ คือการ "ฉีด" แต่แบบในใจก็คือกลัวอ่ะ มันแบบเอาอะไรแปลกปลอมเข้าผิวแต่คนเราก็จะหน้ามืดไปบ้าง เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อยก็มาแบบเราตั้งตัวไม่ทันเลย แต่พอได้ยินว่า ผลิตภัณ์จาก Clinique ออกมาใหม่!! เป็นตัวบำรุง เจาะจงความหย่อนคล้อย ริ้วรอยบนในหน้าโดยตรงเลย คือ เจ้า ตัว1. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt - ตัวนี้เน้นช่วยยกกระชับผิวบริเวณขากรรไกร และปรับรูปลักษณ์ใบหน้าเรียว!! (คุณสมบัติยังกะ Botox)2. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Revolumize- ตัวนี้เน้นเพื่อเติมเต็มผิว และลดเลือนริ้วรอย (คุณสมบัติยังกะ Filler) 3. Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer DUO (Resculpt + Revolumize)- อันนี้ก็คือ ข้อ 1 และ 2 นั่นล่ะ เก๋ตรงที่นางรวมตัวกันในกระปุกเดียว ทั้งปรับรูปหน้า และเติมเต็มริ้วรอยเมื่ออ่านรีวิวมาแล้วนี่เลยรีบปรี่ไปห้างทันทีเพื่อไปลองนาง และได้มีโอกาสทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ Clinique สูตร Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt และ Revolumize เป็นตัวเทสเตอร์แบบซอง (สามารถไปขอรับตัวทดลองได้ที่เคาน์เตอร์ Clinique ทุกสาขาค่ะ*)**ในภาพคือใช้ 1 ซอง ระยะเวลา 1 สัปดาห์ และลองทาเปรียบเทียบการใช้แบบด้านเดียว เพื่อความเปรียบเทียบอย่างชัดเจน**เริ่มต้นด้วยตัวแรก คือ Revolumize (ขอเรียกย่อๆ)เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมหนักแน่น ตั้งแต่บีบออกมา ตัวนี้จะสีม่วงอ่อนๆ แนวพาสเทล กลิ่น : กลิ่นนัวๆ แต่ไม่แรงมากพอรับได้ ไม่ฉุนเท่าไหร่ค่ะความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ทาบริเวณใต้ตาปาดยาวผ่านโหนกแก้มขึ้นไปถึงหางตากันเลยทีเดียว เนื้อครีมซึมไวมากๆ ไม่ต้องคราบไว้บริเวณที่ทาด้วยค่ะ สามารถทาคอนซีลเลอร์ทับต่อได้เลยผลลัพธ์ : ใช้ต่อเนื่อง 7 วัน (หมดซองพอดี) เรื่องความดำใต้ตาไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ แต่บริเวณโหนกแก้ม ถ้าดูจากภาพจะเห็นเลยว่า ใช้ต่อเนื่องผิวดูกระชับขึ้น ร่องใต้ตาก็ดูเต็มขึ้น #ภาพขวามือ ถือว่าระยะเวลาแค่นี้ได้ขนาดนี้ส่วนตัวโอเคมากค่ะตามด้วยตัวที่สอง คือ Resculpt (ขอเรียกย่อๆ)เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อครีมแน่นมาก เข้มข้นสุดๆ มีลักษณะสีขาวขุ่นๆ กลิ่น : ตัวนี้กลิ่นนัวๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ฉุนๆ ไปหน่อยค่ะแต่ไม่ได้ซ๊เรียสอะไร (ตัวRevolumizeกลิ่นเบากว่า)ความรู้สึกหลังทดลองใช้ : ทาบริเวณกรามและปาดยกขึ้นไปด้านบน เลยติ่งหูไปอีก เนื้อครีมแน่นมากๆ แต่กลับซึมลงสู่ผิวไวมากๆ สามารถทากันแดด หรือบำรุงตัวอื่นต่อได้เลย และด้วยความมหัษจรรย์ของ Clinique เนื้อครีมแน่นขนาดนี้ กลับทาแล้วไม่ทิ้งความมันไว้เลย (ข้อนี้ชอบมาก)ผลลัพธ์ : ใช้ต่อเนื่อง 7 วัน (หมดซองพอดี) ชัดเป๊ะดูจากภาพคือ "บริเวณกรามกับแก้ม ยกขึ้น กระชับขึ้น ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น" กว่าเดิมมากๆ #ภาพขวา คือยกยกขึ้นกันไปเลย คือผลลัพธ์อันนี้คือกรี๊ดดดดดมาก ชอบ ได้ทั้งบำรุง แถมไม่ต้องเสี่ยงตัวเองไปฉีดอะไรแปลกๆด้วย**แนะนำมาก สำหรับสาวๆ หรือ หนุ่มๆ ที่อยากย้อนวัยผิว ทั้งริ้วรอย เติมเต็ม หน้าเรียว Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer Resculpt และ Revolumize เป็นคำตอบที่ดีมากๆ ค่ะ ได้ทั้งผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด แถมได้บำรุงผิวอย่างปลอดภัยด้วย**เอาคะแนนไปเลย 10/10/10 เห็นผลชัดเจนมาก ราคา 3,600.-/กระปุก ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้และไม่ต้องเสี่ยง หรือเอาไปเทียบกับพวกของแปลกๆ ที่ฉีดเข้าหน้านี่ถือว่าถูกกว่ามากๆ คุ้มค่ามากจริงๆ ค่ะ เรียกได้ว่านวตกรรมใหม่ได้เลย**ส่วนตัวแนะนำ จะสวยทั้งทีต้องสวยแบบคุ้มๆ แนะนำซื้อตัว Clinique Fresh Pressed™ Repair Clinical MD Multi-Dimensional Age Transformer (Resculpt + Revolumize) หรือ "DUO" เป็นการนำครีมทั้ง 2 แบบมารวมไว้ในกระปุกเดียวเรียกได้ว่า จัดเต็มแบบสุดๆ กันไปใน 2 IN 1 ใบกระปุกเดียว คุ้มค่ามากค่ะใครยังชั่งใจลองไปหามาทดลองก่อนได้นะคะ ไปขอรับได้ที่เคาน์เตอร์ Clinique ทุกสาขาเลยค่ะแต่ตอนนี้อาจจะต้องไปหามาทาใหม่อีกข้างให้หน้าเรียวสวย ยกกระชับให้เท่ากันก่อนนะคะ 5555+

วันนี้จะมารีวิวผลิตภัณฑ์จาก St.Ives Face Moisturizer ในส่วนตัวของ มอยเจอร์ไรเซอร์ น้องใหม่มาแรงนั่นเองงงง #รีวิวแบบจริงจังและตรงๆด้วยเนื้อครีมที่ว่ากันว่าเหมือน "พุดดิ้ง" เด้งงงงงดึ๋งๆ ที่จะทำให้ว้าว ทุกครั้งที่แตะ ผสานด้วยสารสกัดจากแอปริคอตธรรมชาติ 100% แถมส่วนผสมจาก Apricot ช่วยให้ผิวนุ่ม โกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ อีกด้วย ที่สำคัญเจ้าครีมตัวนี้** ไม่มีพาราเบน ** ไม่มีแอลกอฮอล์ ** ผ่านการทดลองจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเนื้อครีมพุดดิ้งแบบนี้เป็นที่ฮิตมากในกลุ่มสกินแคร์เกาหลี *0*แต่...แต่.....แต่....... เจ้าเนื้อครีมตัวนี้มีในประเทศไทยแล้วเป็นที่แรก!ตัวที่นุ่นเลือกมารีวิวในวันนี้ คือ St.Ives สูตร "Smooth & Glowing Pudding Cream Apricot"ทำไมต้องสูตนี้ ?:: ส่วนตัวเป็นคนผิวค่อนข้างแห้ง เพราะทำงานในห้องแอร์ 10-12 ชั่วโมงทุกวัน เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ทั้งแสงจอคอมที่ทำให้ผิวหน้าไม่สดใส อีกทั้งห้องแอร์เย็นแห้งๆ ทำให้หน้าลอก ขอบปากเป็นขุ่ยบ้าง แต่งหน้าเครื่องสำอางค์ก็ไม่ทนกับบนหน้าเอาซะเลย ไม่กี่ชั่วโมงก็ร่อนร่วงแล้ว เป็นเรื่องน่าเศร้ามากก TT____TT----------------------------------------------------------พอได้มาทดลองใช้เจ้า St.Ives Face Moisturizer สูตร Smooth & Glowing Pudding Cream Apricot อย่างต่อเนื่อง 3 อาทิตย์เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อครีมที่ไม่เหมือนครีม เหมือนขนมมากกกกก พุดดิ้งเด้งดึ๋งสุดๆ ข้นแน่น แต่ที่สำคัญคือ ซึมไวมาก ไม่หนักผิว ไม่เหนียวหน้าเลย ปาดปั๊บ ซึมปุ๊บ เวลาครีมอยู่บนผิวหน้าให้ความรู้สึกเย็นสบาย เบาๆ อีกด้วยกลิ่น : Signature ของแบรนด์ St.Ives นี้อยู่แล้วในส่วนของเรื่องกลิ่น คือ หอมมากกก สดชื่นสุด คือ แฮปปี้ทุกครั้งเวลาทาครีม5555+ หอมแบบไร้กังวลไม่ต้องกลัว เพราะสารสกัดจากธรรมชาติของแอปริคอต 100% ฟินฟิน อุ่นใจกันไปได้เลยค่ะความรู้สึกหลังใช้ : หลังจากทาครีมคือ เบา เย็น สบายผิวหน้ามากๆ ซึมไว ยืนฟินยืนดมกันไปค่ะ (แนะนำทาตัวนี้แล้ว ทากันแดดทับอีกทีนะคะถ้ากลางวัน เพราะไม่มีส่วนผสมของสารกันแดด) หรือ จะแต่งหน้าต่อก็ได้ทันทีเลยค่ะ เครื่องสำอางค์ติดทนยิ่งขึ้นด้วยผลลัพธ์หลังใช้ : ใช้มาต่อเนื่อง 3 อาทิตย์กว่าๆ ใช้ต่อเนื่องสังเกตได้ชัดเจนเลยค่ะว่า ผิวหน้านุ่มมมม ผิวเด้งงงงง กระจ่างใสเล็กน้อย ชุ่มชื่นกว่าเดิมมากกกก แต่งหน้าติดทนมาก ผิวหน้าชุ่มชื่นขึ้น ไม่ลอกไม่เป็นขุ่ย อันนี้ถือว่าตอบโจทย์มากค่ะ**แต่พวกรอยสิว จุดด่างดำต่างๆ ไม่ค่อยจางลงเท่าไหร่ หรือ เพราะสูตรนี้อาจจะไม่ได้บำรุงตรงนี้โดยตรงก็ได้ค่ะ --------------------------------------------------------จริงเจ้าตัวนี้ St.Ives Face Moisturizer นี้มีด้วยกัน 3 สูตร1. Smooth & Glowing Pudding Cream Apricot- ช่วยให้ผิวนุ่ม โกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวหน้าใสไม่ต้องรอ2. Renewing Soft Cream Avocado & Coconut Oil- ช่วยเรื่องการผลิตคอลลาเจน และโคโคนัท  เพื่อผิวนุ่มฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น เด้งโกลว์3. Bright & Radiant Hydrating Gel Pink Lemon & Peach- ช่วยให้ผิวฉ่ำเด้ง บอกลาความหมองคล้ำ ไบร์ทได้สุด ๆ มี antioxidants และ วิตามิน Cเพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อใช้ได้ตามสภาพผิวได้เลยนะคะ**กระปุกนึงปริมาณ 45 กรัม ปาดนิดเดียว ทาได้ทั่วทั้งหน้าแน่นอนค่ะ #คุ้มค่าใช้ได้นานลองหาซื้อมาดูนะคะ ผิวบอบบาง แพ้ง่ายใช้ได้หมด เพราะสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ปลอดภัยแน่นอนค่ะ รับรองผิวสวยใส...โกลว์กริ๊ง...วิ๊งสุด แล้วจะหลงรักผิวตัวเองขึ้นทุกวันค่ะ :)

วันนี้จะมารีวิวผลิตภัณฑ์จาก St.Ives ในส่วนตัวของ Facial Cleanser หรือโฟมล้างหน้านั่นเอง #รีวิวแบบจริงจังและตรงๆพอดีนุ่นได้มีโอกาสทดลองใช้ St.Ives Facial Cleanser เจ้าตัวโฟมล้างหน้า สูตร "Smooth & Glowing Apricot"  ที่ว่ากันว่า คุณสมบัติของเจ้าตัวนี้ ด้วยสารสกัดจากแอปริคอตธรรมชาติ 100% ส่วนผสมจาก Apricot ช่วยให้ผิวนุ่ม โกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวหน้าใสทันที!!! ให้ผิว โกลว์...กลิ๊งงง.. วิ้งงง สุดดด.... อีกด้วยน่าลองมากๆพูดถึงปัญญาผิวกันก่อน ? :: ปัญหาผิวส่วนตัวที่มี ผิวค่อนข้างแห้งค่ะ ใช้อะไรก็แพ้ไปหมด ใช้โฟมทั่วไปผิวก็แห้งตึง พอล้างเสร็จก็ลอกเป็นขุ่ยๆ อีก ผิวไม่นุ่มเลย เวลาแต่งหน้าเครื่องสำอางค์ก็ไม่ค่อยติดบนหน้าเลยค่ะ เพราะผิวหน้าแห้ง#ปกติเคยใช้แต่สครับของ St.Ives กับ แผ่นMaskเนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นเนื้อโฟมที่หอมมากกกกกกก นุ่มมากกกกกกกกก บีบไม่ต้องเยอะเลยค่ะ ผสมน้ำนิดนึงให้เกิดฟอง สามารถใช้ได้ทันทีเลย นวดวนเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอกลิ่น : The Best ของแบรนด์ St.Ives อยู่แล้วในส่วนของเรื่องกลิ่น คือ ฟินนนนนนนนนนมาก!! หอมมาก ฟรุ๊ตตี้สุดๆ ไปเลย เพราะแบรนด์นี้เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ นี่เลยเวลาล้างทำความสะอาดได้กลิ่นสดชื่น ของแอปริคอตไปเต็มๆ สุขทุกครั้งที่ได้ล้างหน้าเลยค่ะ   ความรู้สึก : รู้สึกได้ว่าโฟมสัมผัสผิวแล้วสบายหน้ามากๆ ไม่บาด ไม่ระคายเคือง ล้างออกก็ง่าย ผิวไม่แห้งตึงเหมือนโฟมทั่วไปเลยค่ะ พวกเครื่องสำอางค์ก็ออกได้ดี เรียกได้ว่าสะอาดล้ำลึกเลยก็ว่าได้ผลลัพธ์หลังใช้ : นี่ตั้งแต่ได้มาก็ใช้มาต่อเนื่อง 3 อาทิตย์กว่าๆ แล้วค่ะผิวหน้าคือนุ่มมาก และดีมากๆ ไม่แห้งไม่ลอกไม่แพ้ แต่เจ้าตัวนี้ก็ไม่ได้รักษาสิวนะ จะเน้นไปทางบำรุงให้ผิวนุ่ม เด้งใส สดชื่นมากกว่า ชอบค่ะ สุขภาพผิวหน้าดีขึ้นกว่าเดิมมาก//ใข้ควบคู่กับ PUDDING CREAM ที่สูตรเดียวกันฟื้นฟูผิวได้ดีสุดๆเลยหละปริมาณ 105 กรัม ใช้ได้นานมากค่ะคุ้มมมค่ามากเว่อร์เพื่อนๆ อยากมีผิวสวย...ใส....โกลว์กริ๊ง......วิ๊งสุดๆๆๆๆ อย่าลืมไปลองซื้อมาใช้ดูนะคะ แล้วจะสนุกกับการล้าง ทำความสะอาดผิวหน้าที่รักของเรามากกว่าเดิม ^____^