ถ้าเลือกได้สาว ๆ หลายคนก็คงอยากจะมีหุ่นสวยเป๊ะจริงมั้ยล่ะคะ แต่อย่างที่รู้กันดีค่ะว่าการกินมันง่ายกว่าการออกกำลังกายTT ทำให้การลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหารดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่อย่าเพิ่งท้อ!! เพราะวันนี้ *Cosmenet มีวิธีลดน้ำหนักด้วยการทำ IF ที่ทำตามง่าย ไม่ทรมานร่างกาย แถมเห็นผลจริงมาบอกต่อกันแล้วว~
การทำ IF คืออะไร?
คำว่า IF ย่อมาจาก Intermittent Fasting เป็นการจำกัดเวลาในการทานอาหาร หรือการอดอาหารเป็นช่วง ๆ โดยกำหนดช่วงเวลาในการอดอาหาร (Fasting) และรับประทานอาหาร (Feeding) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดน้ำหนัก และให้ร่างกายใช้ไขมันที่สะสมในร่างกายได้มากขึ้น
การทํา IF ลดน้ำหนักได้จริงมั้ย?
หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าการทํา IF สามารถลดน้ำหนักได้จริงมั้ย? ต้องขออธิบายว่าช่วงเวลาที่อดอาหาร (Fasting) ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ลดลง ส่งผลให้การเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดไปเป็นไขมันลดลง ทำให้การเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดไปเป็นไขมันลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้การกักเก็บไขมันใต้ผิวหนังลดลง อีกทั้งช่วงที่ระดับอินซูลินลดลง ยังมีการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) และนอร์อีพิเนฟริน (Norepinephrine) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยการะตุ้นการเผาผลาญไขมันและพลังงานให้สูงขึ้น เพราะฉะนั้นการจำกัดเวลาในการทานอาหารจึงช่วยลดปริมาณการกินอาหารและลดพลังงานจากอาหารที่ได้รับในแต่ละวันได้นั่นเอง
6 วิธีลดน้ำหนักด้วยการทำ IF
1. การทำ IF แบบ Lean Gains (สูตร 16/8)
การทำ IF แบบ Lean Gains หรือสูตร 16/8 เป็นสูตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเป็นการรับประทานอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสูตรที่ทำได้ง่าย และสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ทรมานและไม่กระทบชีวิตประจำวันเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการ IF
2. การทำ IF แบบ Fast 5 (สูตร 19/5)
การทำ IF แบบ Fast 5 หรือ สูตร 19/5 เป็นการรับประทานอาหารเพียง 5 ชั่วโมง และอดอาหารอย่างต่อเนื่อง 19 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่เคยผ่านการการทำ IF สูตร 16/8 มาแล้ว เป็นสูตรที่ค่อนข้างยาก เพราะมีช่วงเวลางดอาหารที่ยาวนาน
3. การทำ IF แบบ Eat Stop Eat
สำหรับการทำ IF แบบ Eat Stop Eat เป็นการอดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนวันที่ไม่อดก็สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ต้องรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งเป็นสูตรที่ค่อนข้างหักโหม จึงไม่แนะนำสำหรับผู้ที่เพิ่มเริ่มลดน้ำหนักด้วยการทำ IF
4. การทำ IF แบบ 5:2
วิธีทำ IF แบบ 5:2 เป็นการรับประทานอาหารตามปกติ 5 วัน และรับประทานอาหารแบบ Fasting 2 วัน โดยสามารถเลือกทำติดต่อกัน 2 วัน หรือห่างกันก็ได้ สำหรับสูตรนี้จะไม่ใช่การอดอาหารทั้งวัน แต่เป็นการลดปริมาณอาหารให้น้อยลงแทน
5. การทำ IF แบบ ADF (Alternate Day Fasting)
ถัดมาเป็นการทำ IF แบบ ADF ย่อมาจาก Alternate Day Fasting คือการอดอาหารแบบวันเว้นวัน โดยอดอาหาร 1 วัน และรับประทานอาหาร 1 วันสลับกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสูตรที่ค่อนข้างยาก และหักโหม เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน หรือผ่านการทำ IF สูตรอื่น ๆ มาแล้ว แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นค่ะ
6. การทำ IF แบบ Warrior Diet
สุดท้ายเป็นการทำ IF แบบ Warrior Diet เป็นการอดอาหาร 20 ชั่วโมง และรับประทาน 4 ชั่วโมง ซึ่งสามารถดื่มได้แค่น้ำเปล่า และรับประทานอาหารมื้อค่ำเพียงมื้อเดียวเท่านั้น โดยอาหารที่เลือกรับประทานจะต้องมีประโยชน์และมีแคลอรี่มากเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ
การทำ IF เหมาะ และไม่เหมาะกับใคร?
การทำ IF เหมาะกับ
- คนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน
- คนที่สามารถควบคุมการรับประทานอาหารได้
- คนที่ไม่ได้ใช้แรงงานในแต่ละวันมากนัก
การทำ IF ไม่เหมาะกับ
- เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคุณแม่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
- คนที่ใช้แรงงานในแต่ละวันค่อนข้างมาก
- คนที่มีโรคประจำตัว
มาถึงตรงนี้ต้องยอมรับเลยค่ะว่าการทำ IF เป็นอีกหนึ่งวิธีลดน้ำหนักที่ทำตามง่าย เห็นผลไว และไม่ทรมานร่างกาย ตอบโจทย์สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายสุด ๆ