10 เซรั่มลดจุดด่างดำ ปี 2024 ลดเลือนฝ้า กระ พร้อมลดรอยดำจากสิวแบบเร่งด่วน!
สาระน่ารู้

ตะลึง! ผลวิจัยจากโดฟพบผู้หญิงไทยเพียง 1% มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง

6,697
22 พ.ค. 2556



     ตะลึง! ผลวิจัยจากโดฟพบผู้หญิงไทยเพียง 1% มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
ผลสำรวจทั่วโลกชี้ชัดค่าเฉลี่ยความมั่นใจของผู้หญิงไทยต่ำกว่าผู้หญิงทั่วโลกส่งผลกระทบต่ออัตราความสุข


     โดฟเผยผลวิจัยจากการสำรวจผู้หญิงทั่วโลกพบผู้หญิงไทยถึงร้อยละ 99 มีความไม่มั่นใจในความสวยของตัวเอง พร้อมชี้ชัดถึงปัจจัยสำคัญที่สุดในการทำลายความเชื่อมั่นของผู้หญิงกว่าครึ่งโลก (เทียบเท่ากับผู้หญิงจำนวน 672 ล้านคน) คือ *คำวิจารณ์ของตนเอง โดยปัจจุบันผู้หญิงไทยยังไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง เพราะมักคิดว่าตนเองดูดีน้อยกว่าความจริงที่คนอื่นมองเห็น แม้ผู้หญิงไทยส่วนมากมีความเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความงามในแบบของตนเอง และเชื่อมั่นว่าความมั่นใจในรูปลักษณ์จะทำให้มีความสุขและประสบความสำเร็จมากขึ้น

     เชื่อหรือไม่ว่าถึงแม้ผู้หญิงสมัยนี้ภายนอกจะดูมั่นใจชอบแต่งหน้าแต่งตัวอัพโหลดรูปขึ้นโซเชี่ยลเน็ทเวิร์ค แต่จากการสำรวจผู้หญิงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อายุระหว่าง 18-64 ปี จำนวน 1,806 คนในเดือนมีนาคม 2556 โดยผลิตภัณฑ์โดฟ จากบริษัทยูนิลีเวอร์ ในหัวข้อทัศนคติและมุมมองเกี่ยวกับความงามและความสุข พบว่าแม้ผู้หญิงไทยจะใช้เวลาในการดูแลเรื่องความงามในแต่ละวันนานถึง 24 นาที ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้เวลาราว 19 นาที

แต่ปัจจุบันมีเพียงร้อยละ 1 ของผู้หญิงไทยที่มีความมั่นใจในความงามของตนเองและกล้านิยามว่าตนเองดูดี ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น้อยที่สุดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ค่าเฉลี่ยร้อยละ 3) และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของผู้หญิงทั่วโลกที่ร้อยละ 4** ทั้งนี้ ผู้หญิงไทยส่วนมากจะมองว่าตนเองหน้าตาธรรมดา ไม่ได้มีความโดดเด่นและดูดี โดยมีผู้หญิงไทยถึง 9 ใน 10 ที่ระบุว่าตนเองยังไม่พอใจรูปร่างหน้าตาของตนเอง ซึ่งขัดแย้งกับคำตอบของกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 79 ที่เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความงามในแบบของตนเอง



     ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ ผลการสำรวจยังชี้ว่าผู้หญิงไทยถึงร้อยละ 66 มีความกดดันและกังวลในรูปลักษณ์ของตนเอง ซึ่ง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้หญิงไทยขาดความมั่นใจคือคำวิจารณ์จากตนเอง โดยหากจะพิจารณาเป็นรูปธรรม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ คลิปวีดีโอ Dove Real Beauty Sketch*** ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คขณะนี้

ซึ่งถ่ายทอดเรื่องเรื่องของจิล ซาโมร่า (Gil Zamora) นักวาดภาพผู้ต้องสงสัยมืออาชีพของ สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ เอฟบีไอ ที่นั่งอยู่หลังม่านเพื่อสเกตช์ภาพจากคำบอกเล่าการบรรยายถึงหน้าตาของตนเองของผู้หญิงหลาย ๆ คน เปรียบเทียบกันกับภาพสเกตช์ของผู้หญิงเหล่านั้นจากการบรรยายรูปลักษณ์โดยคนอื่น ซึ่งผลลัพธ์ที่น่าตกใจคือภาพสเกตช์จากคำบรรยายโดยบุคคลอื่นออกมาดูดีกว่าภาพสเกตช์ที่ผู้หญิงอธิบายตนเองแทบทุกภาพ ตอกย้ำผลลัพธ์ในเรื่องทัศนคติที่ว่าผู้หญิงมักเห็นคุณค่าความงามของตนเองน้อยกว่าที่เป็นจริง



     ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องการขาดความมั่นใจในเรื่องรูปลักษณ์ของตนเองสามารถส่งผลกระทบต่อความสุขและความพอใจในชีวิตของผู้หญิงทั่วโลก โดยเฉพาะผู้หญิงไทย เนื่องจากผู้หญิงไทยกว่าร้อยละ 60 เชื่อว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามจะนำไปสู่โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่า นอกจากนี้ผู้หญิงไทยถึงร้อยละ 79 เผยว่าความพอใจในความงามของตนเองทำให้มีความสุขมากขึ้น โดยเป็นอัตราส่วนที่สูงยิ่งกว่าความสุขจากการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการมีความมั่นคงทางการเงิน

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า

“ผู้หญิงมีแนวโน้มขาดความมั่นใจมากกว่าผู้ชายเพราะค่านิยมของสังคมกำหนดคุณค่าของผู้หญิงที่ความสวย ตรงข้ามกับผู้ชายที่ถูกกำหนดคุณค่าที่ความสามารถ โดยผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องความงามมากกว่าเรื่องความสำเร็จจากหน้าที่การงานและฐานะทางการเงิน เนื่องจากการเรียนรู้ที่ว่าความสำเร็จในชีวิตผู้หญิงมักมีเรื่องความงามมาเกี่ยวข้อง อาทิ นางเอกในเทพนิยายหรือละครล้วนแล้วแต่หน้าตาสะสวยจึงมีคนรักและมีความสุขในชีวิต นอกจากนี้หากมีความสามารถใกล้เคียงกัน ผู้หญิงที่สวยกว่ามักจะได้รับโอกาสที่ดีกว่าผู้หญิงที่ไม่สวย ดังนั้น เมื่อบวกกับการที่ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความคาดหวังสูงทำให้ผู้หญิงมักจะประเมินคุณค่าความงามของตนเองต่ำกว่าเมื่อผู้อื่นประเมินให้เรา สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเมื่อผู้หญิงส่องกระจกแล้วจะรู้สึกว่าสวยไม่พอ สวยแล้วต้องสวยกว่านี้อีก เช่น จริง ๆ มีสิวเม็ดเล็กนิดเดียวแต่ผู้หญิงกลับเห็นว่าใหญ่เท่าใบหน้า ผลกระทบจากความคาดหวังว่าฉันต้องสวย ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าฉันควรจะสวย แล้วชักนำผู้หญิงไปสู่ภาวะวิตกกังวลและขาดความเชื่อมั่นในตนเองในที่สุด โดยมองตนว่ารูปลักษณ์เลวร้ายกว่าความเป็นจริง นำไปสู่ปัญหาในการดำเนินชีวิต เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ ไปกับการทำศัลยกรรมและการลดความอ้วนที่เกินความจำเป็น โดยอาจมีอาการเสพติดศัลยกรรม หรือ เกิดปัญหาทางจิตใจต่าง ๆ เช่น Body Dysmorphic Disorder และโรคกลัวอ้วน หรือ Bulimia และ Anorexia”


“ในส่วนของประเด็นทีผู้หญิงไทยมีความมั่นใจน้อยกว่าผู้หญิงในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกนั้น สาเหตุสำคัญมาจากบริบททางสังคมและการเลี้ยงดู เนื่องจากแม้ผู้หญิงไทยจะมีต้นทุนทางรูปลักษณ์ไม่ด้อยไปกว่าผู้หญิงประเทศอื่น ๆ แต่สังเกตได้ว่าครอบครัวคนไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์ลูก ๆ มากกว่าที่จะคอยให้กำลังใจและชื่นชมลูกในด้านความงามเหมือนครอบครัวตะวันตกที่มักจะชื่นชมว่าลูกสวย น่ารัก ดูดี เพราะครอบครัวไทยจะให้ความสำคัญเรื่องการกวดขันให้ลูกเรียนเก่ง ทำงานเก่ง และเป็นคนดีเป็นสำคัญ ดังนั้นเด็กไทยจึงไม่ได้เติบโตมาพร้อมกับชุดความคิดอัตโนมัติที่จะช่วยสร้างความมั่นใจด้านรูปลักษณ์ของตนเอง”  พญ.อัมพร กล่าวเพิ่มเติม

      ลองถามตัวคุณเองดูว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้หญิง 99% หรือเปล่าที่ประเมินค่าความงามและความมั่นใจของตนเองต่ำกว่าที่คนอื่นเล็งเห็นคุณค่าและความงามของคุณ?




*ที่มา: Dove Research 2013: The Real Truth About Beauty: Revisited
**Dove Global Research 2010
***www.youtube.com/watch?v=fDzj8VIFNMU


What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันKMA มอบโมเมนต์กลิ่นหอมแห่งความสุข ผ่านของขวัญสุดพิเศษมัดรวม 4 ปีชงปีมะเส็ง มีนักษัตร์ไหนบ้าง พร้อมสถานที่ วิธีแก้ชง 256813 ครีมลดริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี เพื่อใบหน้าอ่อนเยาว์ผิวเฟิร์มกระชับ10 เซรั่มลดจุดด่างดำ ปี 2024 ลดเลือนฝ้า กระ พร้อมลดรอยดำจากสิวแบบเร่งด่วน!ดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 17 - 23 พ.ย. 67 (ทุกราศี) แต่งหน้ายังไงให้ติดทน? แจก 8 วิธีแต่งหน้าติดทน ไม่เป็นคราบ ฉบับโมเมพาเพลินกิจกรรม :: ชวนทดลองใช้ MELAMII ANTI-MELASMA Perfect White Serum And Spot Corrector จบลูปฝ้าซ้ำซาก จำนวน 100 รางวัล
COMMENTS