อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!
สาระน่ารู้

อาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง? สัญญาณจากปลายนิ้วที่ต้องรู้!

1,319
25 ต.ค. 2567
อาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง?

หลายคนคงเคยมีอาการ “ชาปลายนิ้ว” ทั้งจากการทำงานหรือกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ แต่เคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะ ว่าทำไมถึงเกิดอาการนี้ขึ้น?

วันนี้ *Cosmenet จะพาไปทำความรู้จักกับสาเหตุของอาการนี้พร้อมวิธีการดูแลรักษาและป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นกันค่าา


อาการชาปลายนิ้วคืออะไร?


อาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง?

อาการชาปลายนิ้ว คือ อาการที่เกิดขึ้นเมื่อตัวรับสัญญาณประสาทบริเวณนิ้วมือทำงานผิดปกติ ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มหรือชา ๆ ตึง ๆ ไปทั้งบริเวณปลายนิ้ว อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวหรือเป็นต่อเนื่องก็ได้

ต้องบอกเลยว่า “อาการชาปลายนิ้ว” เป็นหนึ่งในสัญญาณของร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างที่ซ่อนอยู่ เช่น เส้นประสาทถูกกดทับ โรคระบบหลอดเลือด หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพเรื้อรังก็เป็นได้ค่ะ


สาเหตุหลักของอาการชาปลายนิ้ว


อาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง?

1. เส้นประสาทถูกกดทับ

หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดอาการชาปลายนิ้ว ก็คือการที่ “เส้นประสาทถูกกดทับ” โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ การที่ข้อมือและนิ้วต้องอยู่ในท่าเดิมซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิด โรคพังผืดในมือ (Carpal Tunnel Syndrome) ซึ่งส่งผลต่อเส้นประสาทบริเวณข้อมือและทำให้ปลายนิ้วเกิดอาการชาได้อีกด้วย

2. ปัญหาเส้นเลือด

อาการชาปลายนิ้วอาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของ “โรคระบบหลอดเลือด” เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งเป็นภาวะที่หลอดเลือดมีไขมันสะสมทำให้เลือดไหลเวียนได้ยากขึ้น หรือ โรคเรย์นอส์ (Raynaud's Disease) ซึ่งเป็นการตอบสนองของเส้นเลือดเล็ก ๆ บริเวณนิ้วที่หดตัวอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับความเย็น ทำให้ปลายนิ้วชาหรือซีดขาว ส่วนนี้ก็ต้องปรึกษาแพทย์และวินิจฉัยเพิ่มเติมว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคเหล่านี้หรือเปล่าถึงมีอาการชาปลายนิ้วบ่อย ๆ ค่ะ

3. โรคระบบประสาท

ในบางกรณี อาการชาปลายนิ้วอาจเกี่ยวข้องกับ โรคระบบประสาท เช่น โรคเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ (Peripheral Neuropathy) และสาเหตุนี้มักพบบ่อยในผู้ที่ขาดวิตามินบางชนิด และผู้ที่อาจจะป่วยเป็นโรคเบาหวาน เพราะโรคนี้ทำให้เส้นประสาทที่ควบคุมปลายนิ้วเสียหายและทำให้เกิดอาการชาขึ้นได้ แนะนำให้ลองตรวจสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวนะคะ

4. การขาดวิตามินและแร่ธาตุ

อาการชาปลายนิ้วมือ อาจเกิดจากการที่ร่างกายขาดวิตามิน B12, B6 หรือแร่ธาตุอื่นๆ เช่น แมกนีเซียม จนทำให้เกิดอาการชาปลายนิ้วได้ เพราะวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในระบบประสาท การขาดสารอาหารเหล่านี้จะทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ ส่งผลให้เรารู้สึกชาที่ปลายนิ้วได้ด้วยเช่นกันค่าา


วิธีการดูแลและป้องกันอาการชาปลายนิ้ว


อาการชาปลายนิ้ว บอกอะไรได้บ้าง?


1. ปรับเปลี่ยนท่าทางการทำงาน

การนั่งผิดท่านาน ๆ นอกจากจะทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม และก้อนที่บ่าแล้ว ยังทำให้เกิดอาการชาปลายนิ้วมือได้ด้วย เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ควรปรับระดับโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสม ควรใช้แผ่นรองข้อมือ และพักมือทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือและลดอาการชา พร้อมบรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วยค่ะ

2. หมั่นออกกำลังกายและยืดเส้น

การออกกำลังกายที่เน้นบริเวณข้อมือและนิ้วมือ เช่น การยืดนิ้ว การหมุนข้อมือ หรือการกำหมัด-แบมือ จะช่วยให้เส้นเลือดและเส้นประสาทไม่เกิดการกดทับและลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการชาได้ในระยะยาวนะคะ

3. รักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม

หากมือคุณมักชาในเวลาที่อากาศเย็นผิดปกติ อาจหมายถึงคุณมีปัญหาเรื่องหลอดเลือดที่ไวต่อความเย็น ควรรักษาความอบอุ่นให้กับมือและนิ้ว โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความเย็นนานๆ เพราะจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอาการชาลงได้

4. รับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุ

บรรเทาและรักษาอาการชาปลายนิ้วด้วยการเลือกทานอาหารที่มีวิตามิน B6, B12 และ แมกนีเซียม เช่น เนื้อสัตว์ ปลา นม ไข่ และถั่วต่าง ๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นในการบำรุงเส้นประสาทและลดโอกาสการเกิดอาการชาปลายนิ้วอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทานอย่างสม่ำเสมอค่ะ

5. หลีกเลี่ยงสารที่กระตุ้นร่างกาย

สายชา กาแฟ อาจจะต้องพักก่อนนะคะ เพราะสารกระตุ้น อย่างเช่น คาเฟอีนจากกาแฟ และนิโคตินที่ได้จากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า มีผลต่อการหดตัวของหลอดเลือดและการทำงานของระบบประสาท ซึ่งทำให้เกิดอาการชาได้ การลดปริมาณของสารกระตุ้นเหล่านี้ต่อวันจะช่วยให้อาการชาปลายนิ้วดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกันค่าา


ชาปลายนิ้วขนาดไหนถึงควรพบแพทย์?


หากคุณมี “อาการชาปลายนิ้ว” อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือมีอาการร่วมอื่น ๆ เช่น อาการเจ็บแปลบ อ่อนแรง หรือมีอาการชาที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างละเอียด แพทย์อาจสั่งการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจประสาท และการถ่ายภาพ MRI เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการชาปลายนิ้วและรักษาให้อย่างเหมาะสมค่ะ

เห็นมั้ยคะว่า “อาการชาปลายนิ้ว” ที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างของร่างกายที่เราไม่ควรมองข้ามเลยแม้แต่นิดเดียว การดูแลตนเองด้วยวิธีการที่ถูกต้องจะช่วยลดอาการและทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อย่าลืมรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็น ดูแลสุขภาพระบบประสาท และปรับพฤติกรรมการทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการชาปลายนิ้วในระยะยาวกันด้วยน้าา ~

เรื่องสุขภาพที่น่าสนใจของวัยทำงาน อ่านเพิ่มเติมกันได้ที่นี่
What's new
ป้ายยา 5 อันดับครีมกันแดดหน้า ยี่ห้อไหนดี บางเบา ซึมง่าย สบายผิว จากรีวิวผู้ใช้จริงแนะนำ 5 อันดับไอเท็มจัดการฝ้าซ้ำซาก จะฝ้าแบบไหนก็เอาอยู่ รวมตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพัน รีวิว 5 รองพื้นผิวโกลว์ บางเบาแต่ปกปิดเนียนกริบ ติดทนตลอดวันETUDE ส่งท้ายปีกับคอลเลคชั่นใหม่ Dear My Bestie ด้วยความน่ารักแบบเกินต้าน!Sea Moss Gel คืออะไร? ส่อง 5 คุณประโยชน์ของ Sea Moss ที่สายเฮลตี้ต้องรู้อัปเดต 14 เรตินอลตัวปัง 2025 ยี่ห้อไหนใช้ดีหน้าใส ขนมาหมด!บอกต่อ! 11 ยาสีฟันสมุนไพร ยี่ห้อไหนดี แก้ปวดฟัน ลดอาการเหงือกบวมอักเสบดูดวงความรัก การงาน การเรียน การเงิน ระหว่าง 22 - 28 ธ.ค. 67 (ทุกราศี) 5 ธัญพืช ช่วยลดน้ำหนัก เร่งการเผาผลาญ พิชิตหุ่นปังแบบไม่ทรมานCosmenet* ส่งท้ายปีกับไอเทม Redeem แบบจุใจตลอดเดือนธันวาคม 2024!
COMMENTS
27 ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 27
ดี
7 ธ.ค. 2567 เวลา 16:07 น.
ความคิดเห็นที่ 26
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
19 พ.ย. 2567 เวลา 12:33 น.
ความคิดเห็นที่ 25
ขอบคุณค่ะ
15 พ.ย. 2567 เวลา 10:34 น.
ความคิดเห็นที่ 24
ขอบคุณมากนะคะ
11 พ.ย. 2567 เวลา 18:10 น.
ความคิดเห็นที่ 23
ขอบคุณความรู้ดีๆนะคะ
11 พ.ย. 2567 เวลา 18:05 น.
ความคิดเห็นที่ 22
ขอบคุณค่ะ
6 พ.ย. 2567 เวลา 10:21 น.
ความคิดเห็นที่ 21
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ
2 พ.ย. 2567 เวลา 11:27 น.
ความคิดเห็นที่ 20
Thanks
31 ต.ค. 2567 เวลา 21:09 น.
ความคิดเห็นที่ 19
ขอบคุณค่ะ
31 ต.ค. 2567 เวลา 17:42 น.
ความคิดเห็นที่ 18
ขอบคุณค่ะ
31 ต.ค. 2567 เวลา 16:01 น.
ความคิดเห็นที่ 17
ขอบคุณสาระดีๆค่ะ
31 ต.ค. 2567 เวลา 10:38 น.
ความคิดเห็นที่ 16
ต้องคอยสังเกตแล้วค่า
30 ต.ค. 2567 เวลา 21:45 น.
ความคิดเห็นที่ 15
ขอบคุณค่ะ
30 ต.ค. 2567 เวลา 11:51 น.
ความคิดเห็นที่ 14
ขอบคุณค่ะ
29 ต.ค. 2567 เวลา 13:36 น.
ความคิดเห็นที่ 13
เป็นอาการที่เป็นทุกวันเลยยย
29 ต.ค. 2567 เวลา 9:07 น.
ความคิดเห็นที่ 12
ขอบคุณค่ะ
28 ต.ค. 2567 เวลา 13:33 น.
ความคิดเห็นที่ 11
ขอบคุณมากค่ะ
28 ต.ค. 2567 เวลา 12:24 น.
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณค่ะ
28 ต.ค. 2567 เวลา 11:27 น.
ความคิดเห็นที่ 9
ขอบคุณค่ะ
27 ต.ค. 2567 เวลา 20:02 น.
ความคิดเห็นที่ 8
เป็นเหมือนกันค่ะ...ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
27 ต.ค. 2567 เวลา 19:38 น.
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณค่ะ
26 ต.ค. 2567 เวลา 23:01 น.
ความคิดเห็นที่ 6
ขอบคุณค่ะ
26 ต.ค. 2567 เวลา 20:01 น.
ความคิดเห็นที่ 5
ขอบคุณนะคะ
26 ต.ค. 2567 เวลา 19:00 น.
ความคิดเห็นที่ 4
ขอบคุณค่ะ
26 ต.ค. 2567 เวลา 17:58 น.
ความคิดเห็นที่ 3
ขอบคุณที่มาแชร์ค่ะ มีประโยชน์มาก
26 ต.ค. 2567 เวลา 14:12 น.
ความคิดเห็นที่ 2
บางครั้งเราก็เป็นค่ะ
26 ต.ค. 2567 เวลา 8:28 น.
ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณมากค่ะ
25 ต.ค. 2567 เวลา 21:42 น.