อะไรผิด อะไรถูก หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร เพราะบางสังคมมองว่าสิ่งนี้ถูก ขณะที่สังคมส่วนใหญ่มองว่าคือความผิดร้ายแรง หรือบางทีมันก็เคยเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติที่ถูกกฎหมายและศีลธรรมในอดีต ก็เหมือนกับเรื่องเมียหลวง เมียน้อยนี่แหละ จริง ๆ แล้วเราจะใช้คำว่า
“เมียน้อย” กับเรื่องนี้คงจะไม่ได้ เพราะ
Polygamy คือ การที่ผู้ชายสามารถแต่งงานกับผู้หญิงได้มากกว่าหนึ่งคน แน่ล่ะ หลายคนกำลังคิดถึงศาสนาที่อนุญาตให้มีภรรยาได้หลายคน บางคนก็เข้าใจ แต่บางคนก็ไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่อยากจะเข้าใจด้วยใช่ไหมล่ะ ก็อ่านกันต่อไปเพื่อทำความเข้าใจเลยค่ะ ว่าเรื่องผู้ชายมีภรรยาหลายคนเนี่ย มันมีมานานแต่โบราณแล้ว
ประวัติศาสตร์ของ Polygamy การมีภรรยามากกว่าหนึ่ง
ภาพ King Solomon in his old age led astray into idolatry by his wives.
Artist : Giovanni Venanzi di Pesaro (1627-1705) via : wikimedia.org
ในอดีตกาลเมื่อนานมาแล้ว เรื่องราวของ Polygamy ก็มีทั้งที่ภรรยาหลวงแนะนำภรรยาอีกคนมาให้สามี และการที่พ่อแม่จัดหาให้ หรือแม้กระทั่งการเข้าไปสู่ขอแต่งงานรับผู้หญิงมาเป็นภรรยาเพื่อปกป้องคุ้มครองพวกเธอจากความอดอยาก การโดนดูถูกจากสังคม นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติ การขยายอำนาจของฝ่ายชายหรือครอบครัวของฝ่ายหญิง
เอาล่ะ เธอต้องมองข้ามเรื่องราวความรักโรแมนติกของหญิง-ชาย ประเภท
เราจะมีเพียงกันและกันตลอดไปไปก่อนนะ เพราะนี่มันคือเรื่องของ อำนาจ การเมือง ทรัพย์สมบัติ ความอยู่รอด ซึ่งทั้งการมีภรรยาหลายคนหรือการมีสามีหลายคนนั้นย่อมมาจากเงื่อนไขทางสังคมวัฒนธรรม รวมไปถึงสภาพแวดล้อมทางนิเวศน์อีกด้วย
มีการศึกษาที่พบว่า สังคมในทะเลทรายและในเขตทุ่งหญ้าสวันนาจะมีภรรยาหลายคน ว่ากันว่ามีเรื่องของสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ แม้จะมีการศึกษาที่ขัดแย้งกันแต่ก็เป็นสิ่งที่น่าคิด ทั้งนี้ก็มีเรื่องของการต้องการขยายอำนาจของคุณสามีแบบได้ทรัพย์สินของฝ่ายหญิงมาไว้ในบ้านด้วยอันนี้เหมือนจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการที่สามีมีภรรยาหลายคนของหลาย ๆ สังคมแถบยุโรป ซึ่งสังคมโบราณนั้น ผู้หญิงจำเป็นต้องมีทรัพย์สมบัติติดตัวเข้าไปอยู่ในบ้านผู้ชาย แล้วยังต้องเข้าไปดูแลปรนนิบัติสามีอีก แต่ผู้ชายเองก็มีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองดูแลภรรยาทุกคนให้อยู่อย่างสุขสบายและปลอดภัยด้วยเช่นกัน ก็นี่เมียนะ ไม่ใช่คนใช้
นอกจากนี้ผู้หญิงยังกลายเป็นสมบัติส่งต่อกันภายในตระกูลสามี คือ เมื่อสามีตาย ก็จำเป็นต้องส่งต่อภรรยาให้น้องชายหรือพี่ชายของสามีต่อไป แต่เราต้องไม่เอาคติของยุคปัจจุบันไปตัดสินอย่างรังเกียจในวิธีการแบบนี้ รู้ใช่ไหมว่าสมัยโบราณนั้นอยู่ยากกว่าปัจจุบัน เกิดเป็นหญิงไม่ใช่จะออกไปทำงานหาเงินแล้วเดินเตร็ดเตร่ ทำตัวเป็นสาวโสดช้อปปิ้งอยู่บนถนนหนทางได้นะจ๊ะ เพราะส่วนมากผู้หญิงมักไม่ได้เรียนหนังสือ นอกจากจะถูกเอาเปรียบ อาจมีโจรห้าร้อยดึงเอาไปเป็นเมียก็ได้เหมือนกัน ผู้หญิงสมัยก่อนจำเป็นต้องมีผู้ปกป้องคุ้มครองดูแล หรือโดนดูถูกนินทาว่าทำไมถึงไม่มีผู้ชายแต่งงานด้วย ภาษาไทยก็จะแบบว่า
“จะเป็นขี้ปากชาวบ้านเขา”
Polagamy ในคำสอนของศาสนา
อีกเหตุผลสำคัญที่ยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบันก็คือเรื่องของอำนาจ ความร่ำรวยและการที่ต้องมีทายาทมากมาย อย่างที่เราเห็นแม้แต่ในสังคมของศาสนาอิสลามก็ใช่ว่าเกิดเป็นชายแล้วจะมีเมียกี่คนก็ได้ มีแล้วต้องดูแลได้ดีไม่บกพร่องในหน้าที่ของสามี ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ เสื้อผ้าเครื่องประดับ และเรื่องอื่น ๆ ตามบัญญัติในพระคัมภีร์อัลกุรอาน กฎเกณฑ์ในการให้มีภรรยาหลายคนของอิสลาม ได้มีหลักฐานที่ระบุไว้ เป็นบทบัญญัติอนุญาตในเรื่องนี้
อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่งได้ตรัสไว้ความว่า
“หากพวกเจ้ากลัวว่า พวกเจ้าจะไม่มีความยุติธรรม แก่เด็กกำพร้า ดังนั้นพวกเจ้าจงแต่งงาน กับผู้หญิงที่ดี สำหรับพวกเจ้า สองคน สามคน หรือ สี่คน
หากพวกเจ้ากลัวว่าพวกเจ้าจะไม่ให้ความยุติธรรม ก็จงมีแค่หญิงเดียว หรือผู้ทีอยู่ภายใต้การครอบครองของมือขวาของพวกเจ้า นั้นเป็นสิ่งที่ใกล้กว่า เพื่อว่าพวกเจ้าจะไม่ลำเอียง”
(อันนิซาฮ์ / 3)
ซึ่งเราต้องมองว่า ในยุคนั้นต่างจากยุคนี้ ผู้คนยังน้อยจึงต้องสร้างลูกหลานมาช่วยงานซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นงานในไร่ นา ยิ่งร่ำรวยมากก็ยิ่งมีทรัพย์สมบัติต้องช่วยกันดูแลมาก ถ้าให้เห็นภาพว่าคนน้อยขนาดไหน ลองนึกถึงตอนที่เรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยในยุคที่ใครรบชนะก็จะมีการกวาดต้อนผู้คนกลับเมืองไปด้วย ก็คนมันน้อย พอคนน้อยมันก็สร้างสังคมได้ยาก
หากเราเคยอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ลก็เช่นกัน จะมีเรื่องราวของการแต่งงานมากกว่าหนึ่งคน และแม้จะเป็นสิ่งที่สังคมยอมรับได้ ก็ยังมีความอิจฉากัน โดยเฉพาะเมื่อมีลูก แม่แต่ละคนย่อมอยากให้ลูกของตนเองเป็นคนโปรดของพ่อ นอกจากนี้ในพระคัมภีร์ก็ยังมีเรื่องของการที่แม่สามีซึ่งระเหเร่ร่อนไปกับลูกสะใภ้ซึ่งไม่ยอมทอดทิ้งตนกลับบ้านทั้งที่ลูกชายของตนก็ตายไปแล้ว จนแม่สามีต้องแนะนำส่งต่อลูกสะใภ้ให้ญาติพี่น้องต่อไปตามธรรมเนียม โดยให้ลูกสะใภ้ที่ยังสาวแอบเข้าไปนอนอยู่ปลายเท้าฝ่ายชายซึ่งอายุมากแล้ว แต่ในที่สุดฝ่ายชายก็รับไว้ไม่ได้เพราะยังไม่ถึงลำดับของตนเองที่จะรับนางมาเป็นภรรยา จึงประกาศขอส่งต่อ และในที่สุดก็ต้องยอมรับเมื่อญาติฝ่ายชายลำดับก่อนตนขอไม่รับ ก็เป็นที่น่ายินดีกันไปในยุคที่ผู้หญิงห้ามเป็นโสด
แต่... บางทีผู้หญิงหลายคนในยุคนี้ก็คงอยากจะมีคนช่วยจัดการส่งต่อ หรือหาสามีให้หรือเปล่า? แหม ก็ยุคนี้ถึงกับต้องมี app หาคู่ (นอน) ในระยะใกล้เคียงกันแล้วนี่ รวมถึงเว็บจับคู่อะไรด้วย
แล้วการมีภรรยาหลายคน...เพื่อ?
วัฒนธรรมการแต่งงานกับผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคน หรือผู้หญิงที่แต่งงานกับผู้ชายได้มากกว่าหนึ่งคนที่เรียกว่า Polygamy นั้น มีแทบทุกหนทุกแห่งในสังคมยุคโบราณ บ้านเราก็เหมือนกัน ย้อนกลับไปสักร้อยปีก่อน ในบ้านเราอาจเป็นวัฒนธรรมมากเมียได้อย่างไร้วินัยที่สุดอีกแห่งหนึ่งด้วยมั้ง คือไม่รวยแต่อยากมี ก็จะมีกัน ประมาณนี้ หรือประเทศจีนที่พวกเราเห็นกันมามากมายในหนังจีนกำลังภายในที่ฮ่องเต้มีฮูหยิน มีนางสนมวังหลังกับเรื่องราวหลังบัลลังก์อันเข้มข้น และบางสังคมที่เราอาจเคยดูในหนังบางเรื่องซึ่งใช้ผู้หญิงในบ้านเป็นเหมือนทรัพย์สินสำหรับแลกเปลี่ยน ...ผู้หญิงเป็นสิ่งมีค่า มีราคาสินะ
ลองมองให้ไกลไปถึงประวัติศาสตร์ก่อนหน้าอันยาวนาน
ลองมองให้ไกลไปถึงประวัติศาสตร์ก่อนหน้าอันยาวนาน หากมนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นที่สืบพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ และยุคโบราณนั้นวิทยาการด้านการแพทย์ยังไม่พัฒนา ผู้คนล้มตายได้ง่าย แค่คลอดลูกยังอาจไม่รอดเลย (ถึงได้มีคำว่าตายทั้งกลม) ไหนจะเกิดโรคระบาดกันทีก็ตายกันครึ่งค่อนเมือง การดำรงเผ่าพันธุ์อย่างไม่ประมาทก็อาจหมายถึงความจำเป็นต้องมีลูกจากภรรยาหลาย ๆ คน และโดยธรรมชาติของเพศชายนั้น สามารถสร้างสเปิร์มได้จนแก่ แทบจะไม่มีเกษียณหากร่างกายแข็งแรงดี ขณะที่ผู้หญิงเราเก่งจริงก็ไข่ตกจนถึงอายุประมาณ 50 เท่านั้นเอง จะทำยังไงหากจนไข่ตกแล้วยังไม่มีลูก แต่ฝ่ายชายต้องการทายาท
การมีภรรยาได้หลายคนแบบ Polygamy ไม่ใช่การแอบมีเมียน้อย หรือแม้แต่การจดทะเบียนซ้อนที่ผิดกฎหมายนะคะคุณ แต่ต้องเป็นสิ่งซึ่งสังคมและกฎหมายยอมรับได้ ที่สำคัญไปกว่านี้ ต้องไม่ลืมว่า ภรรยาที่ 1 ยินยอมหรือไม่ อันนี้แนะนำให้ลองไปถามดูเอาเองว่ายอมไหม กล้าหรือเปล่าล่ะคุณผู้ชาย?
เนื้อหาโดย : เว็บรีวิวเครื่องสำอาง cosmenet.in.th