กันแดดนั้นสำคัญไฉน? ก็สำคัญขนาดที่ว่าแพทย์ผิวหนังของประเทศญี่ปุ่นบอกว่า ถ้าจะให้ทาสกินแคร์เพียงตัวเดียวเท่านั้น สกินแคร์ที่สำคัญที่สุดก็คือ ครีมกันแดด
-----------------------------------------------------------------------
" ระหว่างครีมกันแดด SPF30 ราคาไม่กี่ร้อยบาท กับ ครีมบำรุงผิวราคาหลักหลายพัน
ขอเลือกทาเพียงครีมกันแดดตัวเดียวก็พอ เท่านี้ผิวหน้าก็เด็กกว่าคนที่ไม่ทาครีมกันแดดแน่นอน "
-----------------------------------------------------------------------
เพราะแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิวเรามากที่สุดเลยล่ะ ทั้ง ริ้วรอย ทั้ง ฝ้า กระ เอย ตัวการผิวแก่ทั้งนั้น
อ่ะเริ่มรู้สึกว่าครีมกันแดดสำคัญกับชีวิตมากขึ้นแล้วเนอะ แต่พอไปเลือกซื้อก็จะมีความยืนงงในดงกันแดดหน่อย ๆ มีให้เลือกเยอะเหลือเกิน วันนี้ Cosme*net จะมาสอน วิธีเลือกครีมกันแดดภายใน 1 นาที!! อ่านแป๊บเดียวเลือกกันแดดเป็น ได้กันแดดที่ถูกใจ ที่ซื้อไปได้ใช้คุ้มทุกสตางค์แน่นอน เตรียมแคปหน้าจอรัว ๆ ได้เลยจ้าาา
SPF และ PA หน้าฉลากครีมกันแดดนั้นบอกอะไร?
SPF (Sun Protection Factor) ป้องกันรังสี UVB ผิวไม่แดงเบิร์น ป้องกันความหมองคล้ำ
ค่า SPF จะปกป้องรังสี UVB และบอกว่า เราจะสามารถสู้แดดได้ยาวนานแค่ไหนผิวจึงจะไหม้ โดยเราสามารถคำนวณเวลาสู้แดดได้คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
ตัวอย่างเช่น โดยปกติแล้วพี่หมวยต้องใช้เวลายืนตากแดด 15 นาที ผิวจึงจะไหม้ แต่เมื่อพี่หมวยทาครีมกันแดดที่มี SPF30 เท่ากับว่าครีมกันแดดจะช่วยให้เราสามารถสู้แดดได้นานขึ้นจากเดิม 30 เท่าผิวจึงจะไหม้
ดังนั้น 15 นาที x 30 = 450 นาที หรือ 7 ชั่วโมง 30 นาที ผิวพี่หมวยถึงจะเริ่มไหม้นั่นเอง
* ระยะเวลาที่จะโดนแดดเพียว ๆ แล้วผิวไหม้เบิร์นนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน สำหรับตัวอย่างที่ยกมา 15 นาทีนั้นเป็นการคาดประมาณเท่านั้นค่ะ
** หลาย ๆ คนเห็นแล้วอาจจะคิดว่า ว้าว แบบนี้เราทากันแดดแค่ SPF30 แล้วก็อยู่ได้นานยาว ๆ เลย 7 ชั่วโมงครึ่ง แต่วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ได้ประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดดสูงสุด ต้องทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพราะมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ครีมกันแดดเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ทั้งเหงื่อ น้ำ และมลภาวะต่าง ๆ อีกด้วยนะ
ค่า SPF ไม่จำเป็นต้อง “ยิ่งเยอะยิ่งดี”
สามารถเลือกได้ตามลักษณะของสีผิว เพราะอย่างที่บอกไปว่าจะได้ประสิทธิภาพกันแดดสูงสุดต้องทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงนะ
- ผิวไหม้แดดง่าย แต่ผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนยาก ใช้ค่า SPF 20-30 (Ultra high)
- ผิวไหม้แดดง่าย ผิวอาจมีสีแทนได้บ้างนิดหน่อย ใช้ค่า SPF 12-20 (Very high)
- ผิวไหม้แดดปานกลาง ผิวจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแทน ใช้ค่า SPF 8-12 (High)
- ผิวไหม้แดดได้น้อย ซึ่งผิวจะสามารถเปลี่ยนเป็นสีแทนได้เสมอ ใช้ค่า SPF 4-8 (Moderate)
- ผิวไหม้แดดยากมาก และเป็นผิวสีแทนง่าย ใช้ค่า SPF 2-4 (Minimal)
รู้กันแล้วเนอะว่าของตัวเองต้องเลือกใช้ค่า SPF เท่าไหร่ หรือจะใช้ให้เยอะไปเลยได้ไหม ก็กลัวผิวหมองนี่นา ตอบว่าไม่ดีนะคะ เพราะยิ่งประสิทธิภาพของครีมกันแดดสูง นั่นหมายถึงอาจมีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์สำคัญที่ทำให้แพ้ได้ง่าย ดังนั้นเลือกที่พอดี ๆ ก็พอ แล้วหมั่นทาบ่อย ๆ เพราะจะเห็นได้ว่า ไม่มีกันแดดตัวไหนหรอกที่ปกป้องได้ 100% แล้วพอเหงื่อออกก็ค่อย ๆ ลดประสิทธิภาพลงแล้ว
PA (Protection Grade of UVA) ป้องกันรังสี UVA แอนตี้รอยย่น ผิวไม่แก่ก่อนวัย
ตามชื่อของเขาเลยว่าเป็นตัวที่ปกป้อง UVA ซึ่งจะปกป้องได้มากแค่ไหนให้ดู ปัจจุบันค่า PA มีสูงสุดคือ (4 บวก) ซึ่งถ้าเราใช้ชีวิตแบบมีกิจกรรมปกติธรรมดาก็ใช้แค่ อันเดียวก็พอ แต่ถ้าจะอยู่กลางแดดนาน ๆ เลือก ถึง ก็จัดไปค่ะ
Water resistant
ครีมกันแดดหรือโลชั่นกันแดดกลุ่มนี้จะมีส่วนผสมของพลาสติก โดยจะสร้างแผ่นฟิล์มเคลือบกันแดดให้ติดแน่นกับผิวไม่หลุดหายง่ายเมื่อโดนน้ำ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หลุดหายไปเลยนะ เป็นการชะลอการหลุดออกจากผิวเฉย ๆ ดังนั้น หากเราเล่นกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เราจึงต้องขึ้นจากน้ำมาทาใหม่ในทุก ๆ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ถึง 2 ชั่วโมง หรือประมาณ 80 นาที ขึ้นมาทาให้บ่อยกว่านี้ก็ดีนะ ในวันที่แดดแรงมาก ๆ
ครีมกันแดด มีด้วยกัน 2 ประเภท
:: Physical Sunscreen หรือ กันแดดแบบกายภาพ ::
ครีมกันแดดแบบกายภาพ จะสะท้อนรังสี UVA ออกจากผิวหนัง แบบนี้กันได้ทั้งรังสี UVA และ รังสี UVB รวมถึงรังสีอินฟาเรดด้วย แต่ไม่เป็นที่นิยมใช้เท่าไหร่เพราะทาแล้วอาจทำให้ผิวดูขาววอกขึ้น และมีเนื้อที่ค่อนข้างหนัก แต่สามารถแก้ได้ด้วยการทาแป้งฝุ่นซับความเหนอะหนะ
:: Chemical Sunscreen หรือ กันแดดแบบออกฤทธิ์ทางเคมี ::
กันแดดประเภทนี้จะมีวิธีการปกป้องผิวเราโดยจะไปรวมกับส่วนประกอบของผิวหนังชั้นนอกสุด คอยดูดซับรังสีไว้ในชั้นนี้ เพื่อไม่ให้รังสียูวีเข้าไปทำร้ายผิว ประเภทนี้จะมีให้เลือกหลากหลาย บางตัวปกป้องได้เฉพาะ UVB ดังนั้นเวลาเลือกซื้อต้องดูให้ดีว่าปกป้องได้ทั้งรังสี UVA และรังสี UVB หรือไม่ และต้องดูว่าเป็น PABA Free Sunscreen นะคะ เพราะเจ้าสาร PABA อาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้กับบางคนได้
มาทำความรู้จักวายร้ายจากแสงแดด รังสี UVA และ รังสี UVB
เพื่อน ๆ คงจะรู้รวม ๆ ว่าแดดเปรี้ยง ๆ ร้อนจัดที่ส่องมาที่เราเนี่ยคือตัวการของผิวดำ หมองคล้ำใช่ไหมล่ะ แต่เจ้าวายร้ายหลัก ๆ ที่เราต้องรู้จะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ
- รังสี UVA = เป็นรังสีที่ทะลุผ่านกระจกได้ รังสีจะไปกดภูมิต้านทานในผิวหนัง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง และยังทำให้ผิว มีริ้วรอย เหี่ยวย่น เกิดจุดด่างดำ และแก่ก่อนวัย จำสั้น ๆ ว่า UVA เกิด Aging ถ้าไม่ทาครีมกันแดดนอกจากหน้าดำแล้วยังทำให้หน้าเหี่ยวด้วยนะ เพราะเจ้า UVA นั่นเอง
- รังสี UVB = เป็นรังสีที่ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกได้ แต่ก็มีความร้ายกาจที่ทำให้ผิว ไหม้แดด หมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ จำสั้น ๆ ว่า UVB เกิด Burning ถ้าไม่ทากันแดดไม่มีเกราะป้องกันผิว ผิวก็จะแสบ ไหม้แดงนั่นเอง
เกร็ดควรรู้เพิ่มเติม จากวิชากันแดด 101
- SPF ต่ำ ๆ แบบตัวเลขเดียว มีรายงานว่าไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย (และคงไม่มีใครหยิบมาใช้แน่ ผู้หญิงเมืองร้อนอย่างไทยแลนด์ล้วนกลัวแดดกันทั้งนั้นแหละ)
- SPF มากกว่า 50 มีไหม ผิวจะได้ไม่ดำ ไม่ไหม้เลย ตอบว่า องค์การอาหารและยาสหรัฐ กำหนดค่า SPF สูงสุดไว้ที่ 50 เพราะยังไม่มีหลักฐานเพียงพอสนับสนุนว่าค่า SPF ที่สูงกว่า 50 จะช่วยปกป้องผิวได้ดีกว่า (ปัจจุบันก็แอบมีแปลงคำนิดหน่อย เป็น SPF50 แทน ประมาณนี้)
- การเลือกซื้อครีมกันแดด ให้ดูว่ามีสาร TerephthalylideneDicamphor Sulfonic Acid (Mexoryl ® SX) ในครีมกันแดดหรือไม่ เพราะเป็นสารที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ รังสี UVB แต่ไม่เสถียร มีรายงานว่าสารตัวนี้จะสลายตัว 40% เมื่อโดนแสงแดดแล้ว 2 ชั่วโมง
- สาร MenthylAnthranilate เป็นสารป้องกันรังสี UVA แต่พบว่าสามารถทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เป็นอันตรายต่อผิวได้เมื่อได้รับแสงแดด
- สาร Methylene Bis-BenzotriazilylTetramethylbutylphenol (Tinosorb ® M) เป็นสารกันแดดที่ดูดซับรังสีและสะท้อนรังสีได้ในตัวเดียว (คือเป็นทั้งกันแดดแบบกายภาพและกันแดดแบบออกฤทธิ์ทางเคมีนั่นเอง) ข้อมูลทางด้านความปลอดภัยกล่าวว่าสารตัวนี้ซึมลงผิวได้น้อยมาก ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้น้อย แต่ยังไม่มีข้อมูลจากหน่วยงานอื่น ๆ มายืนยัน ดังนั้น ในปัจจุบัน Tinosorb ® M ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการปกป้องผิวจากรังสียูวี
ยังมีสารกันแดดอีกหลายตัวที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพและอาการแพ้ของแต่ละคนต่างกันไป แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ การใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวเอง, มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะกับสภาพแสงแดดที่ต้องพบเจอ และการทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง นะจ๊ะ (เพิ่มทริคอีกนิด เดี๋ยวนี้กันแดดแบบสติ๊กกำลังมาแรง พกง่าย เติมสะดวก ทาทับเมคอัพก็ได้ เพราะฉะนั้นการทาซ้ำไม่ใช่เรื่องยุ่งยากนะ)
ถ้าอยากทำการบ้านสักหน่อยก่อนซื้อกันแดด สามารถอ่านรีวิวครีมกันแดดราคาเบา ๆ ได้ที่ Link นี้เลยจ้า รีวิวละเอียดยิบจากสาว ๆ ทุกสภาพผิวค่ะ
v
v
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th