ถ้าพูดถึงเบสเมคอัพแบบ all in one ที่สามารถทาได้ตัวเดียวจบ ทั้งปรับสีผิวให้กระจ่างใส ปกปิดเบา ๆ ช่วยบำรุงผิว พร้อมทั้งกันแดดที่มีค่า SPF สูงในตัว ทางเราขอแนะนำ CC Cream (ซีซีครีม) ตัวดังของฝั่งอเมริกา IT Cosmetics Your Skin But Better CC เลยค่ะ ตรงตามคุณสมบัติทุกประการ แถมให้ความเป็นผิวแบบ "Your Skin But Better" ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินถึงความโด่งดังของซีซีครีมตัวนี้มาบ้างแล้วเนอะ ซึ่งตอนนี้เค้าได้ออกสูตรใหม่ล่าสุด IT Cosmetics Your Skin But Better CC Oil-Free Matte เป็นสูตรแมทท์นั่นเอง ฟังดูน่าสนใจเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราจังเลย จะต่างจากสูตรเก่ายังไงบ้าง? ไปชมรีวิวกันค่า
สำหรับ IT Cosmetics Your Skin But Better CC Oil-Free Matte สูตรใหม่ตัวนี้ แพคเกจเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเป็นสีเขียว เท่านั้นไม่พอ ยังเพิ่มคุณสมบัติการคุมมัน และให้ฟินิชผิวแบบแมทท์ดูเป็นธรรมชาติตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าสูตรใหม่ Oil-Free Matte เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการความคุมมัน เมคอัพติดทน เหมาะกับสภาพอากาศร้อน ๆ ของบ้านเราสุด ๆ เลยล่ะ
▲ ภายนอกเป็นหลอด แต่ข้างในเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย กดผลิตภัณฑ์ออกมาไม่เยอะจนเกินไป
ซึ่ง
IT Cosmetics Your Skin But Better CC จะเกลี่ยด้วยนิ้วมือ หรือจะใช้คู่กับแปรง
IT Cosmetics Heavenly Luxe Complexion Perfection Brush #7 ที่มีลักษณะ 2 หัวในแปรงเดียว ด้านหนึ่งจะเป็นแปรงสำหรับเกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้า ส่วนอีกด้านที่เล็กกว่าจะเป็นแปรงสำหรับเกลี่ยบริเวณจุดเล็ก ๆ ต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ซอกจมูก, ใต้ตา หรือจะใช้เกลี่ยคอนซีลเลอร์เฉพาะจุดที่ต้องการปกปิดก็ได้เช่นกันค่ะ
▲ แปรงขนาดพอดี เกลี่ยได้ทั่วใบหน้า ไม่เป็นเส้นขน ส่วนหัวเล็ก ๆ ใช้เกลี่ยช่วยซอกจมูก และใต้ตาให้เนียนขึ้น
ส่วนตัวคิดว่าใช้แปรงเกลี่ยแล้วจะได้ฟินิชที่บางเบากว่าการใช้นิ้วมือล่ะ
รีวิวเปรียบเทียบ IT Cosmetics Your Skin But Better CC SPF50 กับ Oil-Free Matte with SPF40
สำหรับสูตรปกติเราจะใช้สี Fair ส่วน สูตร Oil-Free Matte เราจะใช้สี Light ซึ่งสูตรใหม่จะมีสีให้เลือกเยอะขึ้นถึง 12 เฉดสี เนื้อครีมทั้ง 2 สูตรมีความต่างกันค่ะ สูตรปกติจะเนื้อเหลวกว่า เกลี่ยง่าย ลื่นไปกับผิว (เวลารีบ ๆ เราจะใช้นิ้วปาด ๆ ให้ทั่วผิวได้เลย ฮ่าา ไม่เป็นคราบด้วยนะ) ส่วนสูตร Oil-Free Matte เนื้อจะข้นกว่าพอสมควรเลย หากใช้นิ้วมือในการเกลี่ยควรใช้วิธีแท๊บ ๆ กับผิวเพื่อไม่ให้เป็นคราบ และเซตตัวค่อนข้างเร็ว แนะนำให้ค่อย ๆ เกลี่ยทีละจุดบนใบหน้าค่ะ
จะเห็นได้ชัดเลยว่า สูตรปกติพอเกลี่ยแล้วจะมีความโกลว์ ๆ เล็กน้อย ส่วนสูตร Oil-Free Matte ผิวจะดูแมทท์กว่า แต่ถึงเนื้อจะหนัก แต่พอเกลี่ยกับผิวแล้วรู้สึกว่าให้ความบางเบา ไม่หนาเตอะ สบายผิวเหมือนกันค่ะ
เปรียบเทียบเมื่อเกลี่ย CC ทั้ง 2 สูตรลงบนใบหน้า โดยเกลี่ยด้วยแปรง สูตรปกติจะเนื้อเกลี่ยง่ายกว่า แต่ให้การปกปิดที่น้อยกว่าเล็กน้อย ส่วนสูตร Oil-Free Matte เนื้อจะข้นกว่า อาจจะเกลี่ยยากเล็กน้อย แต่ก็มีความบางเบา ไม่รู้สึกหนักผิวเหมือนกับสูตรปกตินะ ปกปิดรูขุมขน และรอยแดงต่าง ๆ เช่น ช่วงซอกจมูก ได้ดีกว่าสูตรปกติ และผิวดูแมทท์ นวล ๆ ผิวมากกว่า สูตรปกติที่ผิวจะดูโกลว์ เรื่องของการคุมมันก็ทำได้ดีกว่าตามคุณสมบัติเลย สำหรับเราที่มีผิวมันใช้สูตรปกติก็จะแอบมีเป็นคราบเล็กน้อย แต่ซับมันก็โอเค แต่ลองใช้สูตร Oil-Free Matte ผิวจะเป็นคราบน้อยกว่า คุมมันได้นานกว่าค่ะ ส่วนเรื่องปกปิดรอยดำอาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยเหมือนกันทั้ง 2 สูตรเลย
แต่เรื่องที่ขอยกให้จริง ๆ คือ ความสบายผิวค่ะ จากชื่อรุ่น "Your Skin But Better" คือไม่ได้โม้นะเออ แม้จะไม่ได้ปกปิดสูง แต่ทั้งสองรุ่นก็ให้ความรู้สึกที่ดูเป็นผิวของตัวเองที่ดีขึ้นจริง ๆ แบบฉันผิวประมาณนี้อยู่แล้วน้า ไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย > < ใครที่ชอบความบางเบาคือตอบโจทย์เลยค่า
คราวหน้า Cosme*Review จะขนไอเท็มน่าเล่นน่าตำอะไรมารีวิวกันอีก ฝากติดตามกันด้วยนะค้า
หากชอบบทความนี้ ฝากกด LIKE กด SHARE เป็นกำลังใจด้วยนะ ปิ๊ง ♥