ไอเท็มประจำกระเป๋าที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ดูปะการังแสนสวย ก็ต้องเป็น “ครีมกันแดด” อยู่แล้ว ไหนจะใส่ชุดว่ายน้ำ บิกินี่สุดชิค หรือแม้แต่ชุดบ้าน ๆ อย่างเสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ขาสั้น ถ้าไม่มีตัวช่วยสำคัญก่อนตากแดดวิ่งลงทะเล เอาแค่วิ่งไปวิ่งมาบนชายหาดเพื่อเก็บภาพก็ไม่รอดแล้วถ้าเราไม่มีกันแดด โดยเฉพาะแสงแดดแรง ๆ ของฤดูร้อนที่นอกจากจะเปลี่ยนสีผิวให้เป็นสีแทนสวยได้ง่ายแล้ว มะเร็งผิวหนัง หรือไม่ก็อาการผิวไหม้ลอกคราบ แสบแดง ก็น่ากลัวและเป็นได้ง่ายไม่แพ้กัน
แต่ทุกคนต้องอย่าลืมว่าครีมกันแดดที่เราทานั้น ก็คือสารเคมีอย่างหนึ่ง หากกันแดดเหล่านี้ละลายลงน้ำล่ะ? คนเราเลือกไม่บีบครีมกันแดดเข้าปากกินได้ แต่ปะการัง สัตว์น้ำอื่น ๆ ใต้ท้องทะเล เลือกไม่ได้หรอกนะ… และเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 กรมอุทยานฯ ออกประกาศห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมี 4 ประเภท เพราะเป็นอันตรายต่อปะการัง หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท (อ่านพระราชกิจาฯ เพิ่มเติมได้ที่นี่) ได้แก่
- Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3),
- Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate),
- 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC)
- Butylparaben
-------------------------------------------------------------------------------
" ครีมกันแดดของคุณ อาจทำร้ายปะการัง อัญมณีแห่งท้องทะเลกันอยู่ "
-------------------------------------------------------------------------------
สารเคมีในครีมกันแดดนั้นดีต่อผิว ช่วยปกป้องผิวจากโรคมะเร็งผิวหนัง แต่ไม่ดีต่อปะการังหรอกนะ เพราะเมื่อกันแดดละลายลงไปในทะเล สารเคมีจะไปทำลายสาหร่าย Zooxanthalle (สาหร่ายขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการัง) ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัส ซึ่งสาหร่ายตัวจิ๋วนี้เขามีหน้าที่ผลิตอาหารให้ปะการัง เมื่อปะการังขาดอาหารก็จะตายกันหมด แล้วปะการัง คือ สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ตรงไหนปะการังสมบูรณ์ ระบบนิเวศก็จะสมบูรณ์แข็งแรง มีปลาเล็กปลาใหญ่ สัตว์น้ำต่าง ๆ ใต้ทะเลก็จะอยู่กันครบ
งานวิจัยตั้งแต่ปี 2014-2016 ที่แสดงให้เห็นถึงปะการังถูกทำลายไปมากมาย โดยเฉพาะที่ออสเตรเลีย เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเพิ่มเป็นวงกว้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งมีสาเหตุทั้งทางธรรมชาติจากเอลนีโญ่ และจากน้ำมือมนุษย์ สารเคมีในครีมกันแดดด้วยค่ะ
สารเคมีในครีมกันแดดที่ทำร้ายปะการังมีอยู่ 4 ชนิด
- Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3) สารเคมีตัวนี้จะช่วยดูดซับรังสียูวีให้มีความเข้มข้นน้อยลง ไม่ไปทำร้ายชั้นผิว และช่วยเพิ่มความเสถียรในการปกป้องผิวจากแสงแดดอีกด้วย แต่สารเคมีตัวนี้เป็นตัวร้ายที่สุดที่ทำให้ปะการังตาย สร้างความเสียหายกับ DNA ของปะการังที่โตเต็มที่ ส่วนปะการังตัวอ่อนนั้น โครงสร้างภายในก็จะถูกทำลาย ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะ
- Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate) แม้ว่าตัวนี้จะเป็นสารเคมีที่จัดอยู่ในประเภทออร์แกนิก เป็นสารสกัดจากกรดซินนามอน (Cinnamon Acid) เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVB แต่นอกจากจะไปทำร้ายปะการังแล้ว นักวิจัยหลาย ๆ คนยังบอกว่า Octinoxate ยังเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยได้ เพราะขณะที่มันช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดดมันก็ผลิตอนุมูลอิสระออกมาทำลายผิวเช่นกัน รู้แล้วก็ระวังกันไว้เลยนะ
- 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC) สารเคมีอีกตัวที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการดูดซับรังสียูวี และเป็นตัวช่วยร่วมกับสารเคมีตัวอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความเสถียรในการปกป้องผิวจากแสงแดด และก็เป็นอีกตัวเช่นกันที่มักจะถูกชะล้างลงไปปนเปื้อนในมหาสมุทรและทำร้ายปะการัง
- Butylparaben หรืออีกชื่อคือ พาราเบน ที่เรารู้จักกันดีเพราะหลาย ๆ แบรนด์ต่างเคลมว่าไม่มีสารตัวนี้ เป็นสารกันเสียที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของกันแดดให้ใช้ได้นานขึ้น มีหน้าที่ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เจริญเติบโต สรรพคุณฟังดูดี แต่พาราเบนเป็นสารเคมีอีกตัวที่ทำให้ปะการังตาย นอกจากนั้นยังทำร้ายผิวอีกต่างหาก เพราะเป็นสารที่ทำให้ผิวระคายเคือง
ทางเลือกปกป้องแสงแดดแบบไม่ทำร้ายปะการัง
รู้แบบนี้แล้วเราก็ควรมองหาวิธีอื่นกันแล้วล่ะ เข้าใจสาว ๆ ที่กลัวผิวไหม้ กลัวดำ กลัวแดด กลัวมะเร็ง เรายังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีแบบไม่ทำร้ายปะการังด้วยนะจ๊ะ
1. เลือกใช้ครีมกันแดดที่เคลมว่าไม่ทำร้ายปะการังโดยเฉพาะ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดถ้าคุณไม่ชอบกลิ่นของน้ำมันมะพร้าว นอกจากนี้ยังมีครีมกันแดดแบรนด์อื่น ๆ ที่ปราศจากสารทั้ง 4 ตัวที่ทำร้ายปะการัง อย่างเช่น
- ครีมกันแดด Bioderma Photoderm Aquafluid Neutral : ครีมเนื้อฟลูอิดบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว ปราศจากน้ำมันไม่ทำให้ผิวหน้ามันวาวหรือทิ้งคราบขาว เป็นอีกหนึ่งกันแดดที่ไม่ทำร้ายประการังที่อยากแนะนำเลยค่ะ
ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่ : Central Online
- ครีมกันแดด La Roche Posay ANTHELIOS XL Dry Touch Gel-Cream SPF 50+ : กันแดดคุมมันเนื้อเจลครีม สำหรับผิวมัน - ผิวที่เป็นสิวง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนอะผิว ปราศจากน้ำหอม และพาราเบน ไม่มีไม่ได้แล้วแหละ~
ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่ : Shopee
- ครีมกันแดด ReReef Reef-Safe Sunscreen SPF50 PA+++ : แม้หลายคนจะไม่คุ้นหน้า แต่เค้าเป็นครีมกันแดดแบรนด์ไทยที่ทำผลิตภัณฑ์เพื่อประการังที่แท้ทรู นอกจากนี้ยังได้เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติบำรุงผิว เช่น น้ำมันโจโจ้บา, Vitamin B3, Vitamin E และว่านหางจระเข้ แทนสารเคมีสังเคราะห์ให้มากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดจะย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ในธรรมชาติ นอกจากจะกันแดดแล้วยังรักท้องทะเลด้วยนะค้า
ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่ : ReReef
- ครีมกันแดด Claire Airy Essence UV Protector SPF50+ PA++++ : ครีมกันแดดเนื้อบางเบา สูตรลดอุณหภมิผิว ช่วยปกป้องได้ถึงระดับชั้นผิว มีคุณสมบัติช่วยลดการทำงานของ NF-kB ส่งผผลลดการเกิดอักเสบ ลดอุณหภูมิ และลดรอยแดงบนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแน่นอนค่ะทางแบรนด์เค้าก็บอกเลยว่าเค้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง เน้นความเป็นมิตรกับธรรมชาติอย่างมากที่สุดเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ภายใต้ท้องทะเล
ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่ : Shopee
- ครีมกันแดด NIVEA Protect & Refresh Cooling Sun : เป็นอีกหนึ่งกันแดดไม่ทำร้ายปะการังที่ควรโดนมักมาก นอกจากปกป้องผิวด้วย SPF50 แล้ว ยังให้ความเย็นทุกครั้งที่ฉีดอีกด้วยค่ะ ตัวนี้เป็นสูตรกันน้ำไร้สี เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่สำคัญสุดไม่มีสารกันแสงแดดที่ทำร้ายปะการัง!
ช้อปออนไลน์ได้ที่นี่ : Shopee
2. น้ำมันมะพร้าวช่วยกันแดดได้ น้ำมันมะพร้าวมีสารที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแบบอ่อน ๆ อยู่ ให้การปกป้องเทียบเท่ากับ SPF25 นอกจากนั้นยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยปลอบประโลมผิวจากการถูกแสงแดดทำร้ายอีกด้วย ใช้ชโลมผิวหนังและเส้นผม รอจนซึมเข้าสู่ผิว แล้วก็วิ่งลงทะเลได้เลย
3. ใช้ครีมกันแดดแบบกันน้ำ (Water resistant) เพราะอย่างน้อยคราบครีมกันแดดก็ถูกชะล้างลงสู่ทะเลน้อยกว่าแบบไม่กันน้ำ อีกทั้งเราเองไปเที่ยวทะเลกก็เน้นกิจกรรมที่ตัวต้องแช่อยู่ในน้ำนาน ๆ อยู่แล้ว ถ้าทากันแดดแบบไม่กันน้ำ ก็จะไม่ได้การปกป้องผิวจากแสงแดดเท่าไหร่นะ
4. ใส่ชุดว่ายน้ำปกปิดผิวให้มิด ชุดว่ายน้ำแบบแขนยาวขายาวเดี่ยวนี้เค้ามีเคลมว่าใช้เนื้อผ้าพิเศษที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยนะ
5. เลือกใช้ครีมกันแดดที่สามารถย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ (Biodegradable) เพื่อไม่ให้สารเคมีอันตรายตกค้างอยู่กับธรรมชาตินานเกินไป อย่างกันแดด WATERLOVER SUNMILK จาก BIOTHERM ส่วนผสมสามารถย่อยสลายได้โดยกระบวนการทางชีวภาพถึง 58% ปกป้องผิวกาย และชีวภาพทางน้ำที่เรารักค่ะ
ปะการังนั้นสำคัญไฉน
ปะการัง คือ ป่าของทะเล โลกใต้น้ำที่ยิ่งใหญ่ มีความหลากหลายทางชีวภาพไม่ต่างจากบนบก ชีวิตในท้องทะเลล้วนเกี่ยวเนื่องกับปะการัง พึ่งพาอาศัยกันแบบต้นไม้และสัตว์ต่าง ๆ นั่นแหละ
เคยดำน้ำแล้วได้ยินเสียงปลานกแก้วเอาฟันเหยิน ๆ ขูดหินปะการังไหม.. เจ้าปลานกแก้วเหล่านี้ขูดกินหินเข้าไปแล้วถ่ายออกมาเป็นเม็ดทราย ช่วยเติมทรายให้กับท้องทะเล
ปะการังช่วยชะลอคลื่นไม่ให้กัดเซาะชายฝั่ง ถ้าไม่อยากให้ชายหาดสวยงามต้องพัง และเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ เราก็ต้องช่วยกัน ท้องทะเลช่วยดูดซับความร้อนของโลกเอาไว้ได้ถึง 90% และการมีชีวิตอยู่ของปะการังจะช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์เอาไว้ ทุกอย่างเกิดขึ้นไปตามธรรมชาติ ด้วยการมีอยู่ของระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ...และเหตุผลสุดท้าย ถ้าพวกเราดำน้ำลงไปมองเห็นสุสานปะการัง ท้องทะเลที่หมองหม่นไร้ชีวิต กับปะการังสีสันสดใสสวยงามและหมู่ปลามากมาย คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน? ใช่แล้ว ปะการังคือความงามใต้ท้องทะเลที่ใคร ๆ ก็อยากใส่หน้ากากดำลงไปดู โดยเฉพาะดินแดนอันดามัน ทะเลไทยของเราที่ท้องทะเลสวยงามแบบที่อวดใครต่อใครได้ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ และส่วนที่เหลือก็มีเหล่านักวิจัยที่พยายามค้นคว้าหาสูตรกันแดดดี ๆ ที่รักษ์โลกมาให้พวกเราได้ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารสกัดสาหร่ายทะเล ที่ช่วยป้องกันแสงแดดมาใช้ในครีมกันแดด หรือการนำแคลเซียมคาร์บอเนต ที่จะพบในโครงสร้างของหินปูนปะการัง มาใช้ในการปกป้องปะการังในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อน ก็ไม่อาจช่วยปะการังทั่วโลกได้ การจะเยียวยาธรรมชาติ ทุกคนต้องช่วยกัน ดูแลผิวให้สวยได้ แต่ความสวยของเรา ต้องไม่ใช่แลกมาด้วยความเสียหายของปะการังและสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลใช่ไหมล่ะ
ช่วยกัน Share บทความ เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงผลกระทบของสารเคมีในครีมกันแดดที่มีต่อปะการังและระบบนิเวศในทะเล จะปล่อยให้ปะการังถูกทำลายแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะเราจะได้มีทะเลสวย ๆ ไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมต่อไปนาน ๆ ค่ะ
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th
เนี่ย ถ้ารณรงค์ดีๆก็คงจะดีนะคะ