Cleansing (คลีนซิ่ง) คือ?
ผลิตภัณฑ์ขั้นตอนแรกของการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ ซึ่งก็คือการเช็ดเอาพวกรองพื้น เมคอัพ กันแดดทั้งหลายออกไปในขั้นตอนนี้ มีทั้งแบบเช็ด หรือนวดแล้วล้างออก
Cleanser (คลีนเซอร์) คือ?
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าประเภท Face wash หรือทำความสะอาดด้วยการล้างออกให้ลึกถึงรูขุมขน การทำความสะอาดขั้นตอนนี้ก็จะสำคัญมากหน่อย ถึงแม้ตอนเช้าบางคนจะไม่เลือกใช้คลีนซิ่ง ก็อย่าลืมคลีนเซอร์กันนะ
- ผิวธรรมดา :: ผิวแบบนี้แน่ล่ะใช้อะไรก็ได้หมดสินะ ขึ้นอยู่กับแต่งหน้ามากน้อยแค่ไหน แต่ก็ต้องไม่ไปทำร้ายผิวตัวเองด้วยการทำความสะอาดผิวแบบไม่บันยะบันยังนะคะ
- ผิวมัน :: เลือกใช้ Cleansing แบบน้ำ หรือแบบบาล์มก็ได้ แนะนำให้เลือกแบบ Oil Free ด้วยก็จะดีถ้าผิวมันมากและมีปัญหาสิวร่วมด้วย
- ผิวแห้ง :: เลือกใช้ Cleansing แบบครีม หรือ ออยล์ ก็จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีโดยไม่ไปรบกวนผิวให้แห้งมากขึ้นจนเกินไป
- ผิวผสม :: เลือกใช้ Cleansing แบบ เจล เพราะทำความสะอาดผิวหน้าได้หมดจด เน้นทำความสะอาดบริเวณทีโซนในรอบที่สองหลังจากทำความสะอาดรอบแรกไปแล้ว
- ผิวแพ้ง่าย :: หลายคนที่ผิวแพ้ง่ายก็จะแพ้อะไรไปหมด คนนี้ต้องหลีกเลี่ยงขั้นตอนการทำความสะอาดผิวที่มากจนเกินไป ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ทำความสะอาดได้ดีในขั้นตอนเดียว ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อให้จบไปในทีเดียวก็ดี
แต่วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องของคลีนซิ่ง การเช็ดทำความสะอาดผิว
ว่ามีกี่ประเภท อะไรบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับสภาพผิวไหนบ้าง?
มีแบรนด์อะไรที่ *cosmenet แนะนำ ไปดูเลยค่ะ
ตัวนี้ดีงามสำหรับความอ่อนโยนต่อผิว เพราะออยล์หรือน้ำมันที่เลือกใช้ก็จะเป็นส่วนของการบำรุงผิวได้ด้วย เวลาเมคอัพหนัก ๆ การเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าก็ทำได้ง่าย คนผิวแห้งควรใช้เป็นอย่างยิ่ง ส่วนใครเป็นสิวอักเสบ, สิวอุดตัน อยู่หลีกเลี่ยงก็จะดีค่ะ
แนะนำคลีนซิ่งออยล์
เรื่องการทำความสะอาด แม้จะสู้คลีนซิ่งออยล์ไม่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่แต่งหน้าน้อย ๆ เอาอยู่ เป็นคลีนซิ่งที่ใช้ได้ทั้งผิวแห้งและผิวธรรมดา วิธีใช้ก็ใช้สำลีชุบแล้วเช็ดผิวหน้า เนื้อสัมผัสอาจอ่อนโยนเหมือนสะอาดสะอ้าน แต่ต้องล้างออกอีกทีด้วยนะคะ
แนะนำคลีนซิ่งน้ำนม
ด้วยความเบาบางสะอาดใส ก็อาจต้องใช้เวลาทำความสะอาดผิวหน้านานหน่อย เหมาะกับการทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่ได้ลงเมคอัพหนักมาก แต่ข้อดีของเจลคือผิวไม่แห้งตึง และค่อนข้างอ่อนโยน โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่ายแนะนำตัวนี้เลย
แนะนำคลีนซิ่งเจล
เป็นตัวที่ใช้ง่าย เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ขอแบบ Oil Free ไม่มีน้ำมัน แต่ควรเลือกที่คุณภาพดี ใช้สำลีชุบคลีนซิ่งเช็ดไม่มากเกินไปก็หลุดง่าย ไม่งั้นจะเป็นการรบกวนผิวหน้าจนเกินไป แต่มีข้อเสียที่ไม่สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางกันน้ำได้ดีเท่าแบบอื่น ๆ
แนะนำคลีนซิ่งวอเตอร์
หรือทิชชู่เช็ดทำความสะอาด ดูใช้งานง่าย แต่มันเช็ดออกไม่หมดจดได้ง่ายดายขนาดนั้นนะ ก็จะเปลืองกว่าแบบอื่นหน่อย แต่เหมาะกับพกพาไปไหนต่อไหน ใครแต่งหน้าน้อยๆใช้ได้อยู่ รบกวนผิวพอสมควร เวลาเช็ด ก็เบา ๆ มือหน่อยนะ
แนะนำคลีนซิ่งไวปส์
เป็นอีกตัวที่เช็ดเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจดและช่วยบำรุงผิวหน้าได้ด้วย ตัวนี้เครื่องสำอางกันน้ำก็เช็ดออกได้ดีเช่นกัน รบกวนผิวหน้าก็น้อย ถ้าจะให้ดีหน่อย ควรเลือกแบรนด์ที่หลังจากโดนน้ำ เปลี่ยนเป็นน้ำนมด้วย จะช่วยทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
แนะนำคลีนซิ่งบาล์ม
ถึงแม้บ้านเราจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก เป็นไอเทมที่ใช้ได้ตั้งแต่ผิวธรรมดา-แห้ง แต่ไม่เหมาะกับคนผิวมัน เพราะอาจอุดตันได้ ถึงแม้จะล้างเครื่องสำอางได้ไม่ดี เมื่อเทียบกับคลีนซิ่งออยล์ แต่ก็ค่อนข้างอ่อนโยน หลังใช้ไม่เหนอะหนะผิว และไม่แห้งตึง เอาเป็นว่า ถ้าใครอยากได้ความอ่อนโยน แนะนำคลีนซิ่งครีมเลยละกัน
แนะนำคลีนซิ่งครีม
จะแยกชั้นระหว่างน้ำ กับ น้ำมัน ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดี โดยเฉพาะประเภทที่กันน้ำทั้งหลาย หรือบริเวณที่ลงเมคอัพหนัก ๆ แต่บอบบางอย่างรอบด้วยตา หรือ ปาก แนะนำว่า ชุบสำลีให้ชุ่มและแช่ไว้บริเวณรอบดวงตาหรือปาก ปาดลงเบา ๆ จะได้ไม่เป็นการทำร้ายผิวมากไปนะคะ
แนะนำเมคอัพรีมูฟเวอร์
ขั้นตอนอันมากมายของการทำความสะอาดผิวหน้า จะง่ายขึ้นถ้าเรารู้แล้วว่า เราต้องใช้อะไรแค่ไหน อาจจบในการล้างหน้ารอบเดียวหรือต้องเช็ดอะไรก่อนไหม ผิวหน้าเรามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ต้องดูแลมากกว่าชาวบ้านเขาใช่ไหม ตอนนี้ก็รู้กันแล้วเนอะ ได้เวลาสวยพร้อมเมคอัพหรือหน้าสดกันแล้วใช่มั้ยล่ะ
ถ้าชอบบทความของเรา อย่าลืมแชร์ไปให้คนอื่น ๆ อ่านกันด้วยน้าาา
ครั้งหน้าจะมีสาระความงามแบบพื้นฐานง่าย ๆ อะไรมาฝากกันอีก ติดตามด้วยนะคะ ^ ^
เรียบเรียงข้อมูลโดย : cosmenet.in.th