เคยไหม บางวันที่ตื่นขึ้นมา รู้สึกว่า เอ๊ะ หน้าเราทำไมเหมือนจะบวม ๆ ตาตุ่ย ๆ ดูแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ใบหน้าเดิมที่คุ้นเคย...ใช่แล้วค่ะ มันคืออาการหน้าบวมฉึ่ง เหมือนเพิ่งฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งเกิดขึ้นได้ในบางวันหลังตื่นนอน ไม่ได้มีอะไรมากัดต่อย ไม่ได้มีอาการอักเสบแต่อย่างใด มันมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตก่อนนอนของพวกเรานั่นแหละ เรื่องนี้ ต้องมาเจาะลึกอย่างจริงจังกันดู ไม่ใช่แค่ How to สวย ๆ งาม ๆ แล้วนะจ๊ะ
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผิวหนัง และนักโภชนาการ บอกเราว่า มันเกี่ยวกับอาหารที่เรากินเข้าไปด้วยนะ พวกโซเดียม อย่างเกลือและผงชูรส ถ้ากินเยอะไปมันก็เกิดขึ้นได้ อาการหน้าบวมแบบนี้มีชื่อเรียกกันด้วยว่า “หน้าซูชิ” หรือ Sushi Face อันมีที่มาจากการที่เรากินอาหารโซเดียมสูงจากซอสซูชินั่นเอง ใครที่มั่นใจเหลือเกินอาหารญี่ปุ่นนั้นดีต่อสุขภาพ ก็ต้องอย่าลืมด้วยนะจ๊ะ ว่าเธอกำลังจิ้มซอสรสเค็มจัดเข้าปากไปไม่รู้เท่าไหร่เลยนะนั่น!
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อร่างกายรับเอาโซเดียมเหล่านั้นเข้าไปมาก ๆ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด จะทำให้เลือดมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ร่างกายเลยต้องรีบปรับสมดุลให้กลับสู่ภาวะปกติแบบด่วน ๆ จึงต้องดึงเอาน้ำออกมาจากเซลล์รอบ ๆ เพื่อช่วยละลายไม่ให้เลือดข้นจากการมีโซเดียมเจือปนสูงจนเกินไป
และถ้าหากเราเป็นคนดื่มน้ำน้อยอยู่แล้ว ภาวะภัยแล้งในร่างกายก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ งานปั๊มน้ำขึ้นมาใช้จากแหล่งเก็บสะสมต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นในทุก ๆ ส่วน และเป็นสาเหตุให้หน้าดูบวม ๆ ผิดปกตินั่นเอง
เพราะฉะนั้น วันไหนที่เราซัดอาหารมื้อเย็นแบบจัดหนัก โดยเฉพาะอาหารฟาสต์ฟู้ดล่ะก็ อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยสร้างสมดุลให้ร่างกายด้วยล่ะ หรือไม่ก็ควรจะระวังซอสและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ให้มาก เพราะโซเดียมมักจะรวมตัวกันอยู่ในส่วนประกอบเหล่านี้นี่แหละ
แต่ถึงจะไม่ได้ทานเค็มมาก ก็ยังแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เป็นปกติเลยนะ เพราะหากเราดื่มน้ำน้อยเกินไป หน้าก็บวมได้เช่นกันเพราะสมดุลโซเดียมในร่างกายมันจะผิดปกตินั่นเองค่ะ
ผ่านเรื่องโซเดียมไปแล้ว สาเหตุของอาการหน้าบวม ก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เราเชื่อว่าสายดื่มคงรู้ตัวกันดีอยู่แล้วใช่ไหมคะว่า อาการหน้าบวมจะเกิดขึ้นทุกเช้าหลังคืนปาร์ตี้เสมอ แต่ที่ตามมาพร้อม ๆ กันก็คือพุงที่บวมเพราะกับแกล้ม และฟองเบียร์ จนอาการหน้าบวมกลายเป็นเรื่องเล็กกว่าไปซะอย่างงั้น
ที่หน้าเราบวมหลังคืนปาร์ตี้หนักๆ ก็เป็นเพราะแอลกอฮอล์จะไปดึงน้ำออกจากเซลล์ของร่างกายเพื่อมาเจือจางแอลกอฮอลล์ในเลือด และทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำที่สะสมไว้ ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ เราปวดปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วยนั่นเองค่ะ
จะเห็นว่าทุกสาเหตุนั้น มีที่มาจากจุดเดียวกันคือ “ระดับน้ำในร่างกายที่ไม่สมดุล” ดังนั้น มาดูวิธีแก้ปัญหาหน้าบวมตอนเช้า กันดีกว่า ใครที่รู้สึกว่าชักจะบวมบ่อยทุกเช้าเกินไปแล้ว ควรตั้งใจอ่านให้ดีเลยค่ะ
ทั้งโซเดียมจากเกลือ ซอส เครื่องปรุงรสทั้งหลาย รวมถึงผงชูรสด้วย โดยเฉพาะใครที่รู้ตัวว่าติดขนมขบเคี้ยว พอตกบ่ายก็เริ่มอยากหาอะไรกรอบ ๆ เค็มๆ เข้าปาก ก็ควรลดได้แล้วค่ะ ไปหาอะไรที่ไม่เดี้ยมไม่เค็มมาขบเคี้ยวแทนจะดีกว่านะ
หรือแม้แต่สายปลาร้า ปลาเค็มก็ต้องเพลา ๆ บ้างค่ะ ไม่ใช่จะตำส้มตำอัดผงชูรสกันซะทุกมื้อ เพราะถึงแม้ว่าผงชูรสจะปลอดภัย แต่ก็ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่ใช่แค่ปลายทัพพีแล้วพี่จะปลอดภัยซะที่ไหนเล่า
ส่วนสาวรักสนุก ชอบดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ ว้อดก้า ค็อกเทล หรือแอลกอฮอลล์ประเภทไหนก็ตาม ต้องหักห้ามใจตัวเองบ้างค่ะ ถ้าไม่อยากตื่นเช้าขึ้นมาเจอหน้าบาน ๆ เป็นจานข้าวล่ะก็ ดื่มช้า ๆ สลับกับดื่มน้ำเปล่าผสมเข้าไปบ้างก็ดีค่ะ นอกจากจะเมาช้าแล้ว ยังช่วยให้หน้าไม่บวมอีกด้วย
เพราะตอนนอน ก็เป็นอีกช่วงที่ร่างกายสูญเสียน้ำไปตามกระบวนการธรรมชาติ และไม่ได้รับน้ำเข้าไปเพิ่มเติมเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว การดื่มน้ำสัก 1 แก้วก่อนนอน ก็จะช่วยให้ร่างกายมีน้ำสำหรับนำไปใช้เจือจางโซเดียมที่ได้รับมาในวันนั้น ๆ และชดเชยน้ำที่จะสูญเสียไปในขณะที่เรานอนหลับได้อีกด้วยค่ะ
ถ้ากลัวว่าพรุ่งนี้เช้าหน้าจะบวมเพราะวันนี้รับโซเดียมเข้าไปเยอะมาก หรือดื่มเข้าไปมิใช่น้อย แนะนำให้ลองหนุนหมอนสูงขึ้นกว่าปกติสักหน่อยตอนจะนอนค่ะ เพราะเมื่อเรายกศีรษะให้สูง น้ำในเซลล์ก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำกว่า ช่วยลดอาการหน้าบวมได้เหมือนกันนะ
เรื่องนี้ มีคุณหมอผิวหนังจากนิวยอร์ค (Sejal Shah, MD, a dermatologist in New York) แนะนำไว้ว่า เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าหน้าบวมมาก แต่ต้องสวยไปพบลูกค้าหรืออะไรก็ตาม ให้รีบล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจัดเพื่อกระตุ้นให้เลือดล็อตใหม่หมุนเวียนเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ค่อย ๆ เติมน้ำเข้าไปในร่างกายเรื่อยๆ รวมถึงออกกำลังกายให้เหงื่อออกเยอะ ๆ หน่อย เพราะเมื่อร่างกายขับเหงื่อออกมา แล้วเราดื่มน้ำเข้าไปใหม่ จะเป็นการสร้างสมดุลเกลือแร่ในร่างกายที่เฟรชกว่า ใหม่กว่า เซลล์ต่าง ๆ ก็ไม่ต้องปั๊มน้ำเข้าไปให้เยอะกว่าที่ควรนั่นเองค่ะ
ทางลัดอีกอย่างก็คือ ใช้ผ้าเย็นหรือน้ำแข็งมาช่วยประคบสักพัก ก่อนนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ด้วยเหตุผลเดียวกับวิธีล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจัดนั่นแหละค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บแล้วจะสวยปั๊บหน้ากลับมา V ได้ทันทีนะ ต้องให้เวลาเค้านิดนึงค่ะ
งัดฝีมือแต่งหน้าออกมาค่ะ หยิบบรอนเซอร์มาคัดเบ้า ทำเงาให้ดั้ง คอนทัวร์ข้างแก้ม ลบเหนียงใต้คาง ก็จะช่วยลดความบวมของใบหน้าไปพลาง ๆ ระหว่างรอร่างกายเข้าที่ เพราะหน้าของเราจะไม่บวมไปทั้งวันอย่างแน่นอน พอผ่านไปซักครึ่งวัน เราดื่มน้ำทานข้าวไปซัก 2 มื้อแล้ว ร่างกายเราก็จะเริ่มปรับสมดุลให้เข้าที่ได้เองค่ะ
แต่ทางที่ดี เราอยากแนะนำว่า ทานเค็มแต่น้อย ดื่มน้ำให้มาก จะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกับอาการหน้าบวมแบบนี้ จะดีที่สุดนะ (✿◠‿◠)