รีเทนเนอร์ ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากกกกก ของคนที่จัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยคงสภาพฟันให้เรียงสวย ไม่เคลื่อนที่จนฟันเกเหมือนก่อนจัดฟันนั่นเอง ก็เป็นไอเทมที่ต้องใส่ไว้ในปากของเราอ่ะเนอะ ดังนั้น เราจะต้องใส่ใจเรื่องของ
“ความสะอาด” ให้มากเป็นพิเศษ เพราะถ้าเราทำความสะอาดรีเทนเนอร์ไม่ดีก็จะเกิดปัญหาหลายอย่างทั้งรีฯมีกลิ่นเหม็น รีฯเปลี่ยนรูป หนักสุดก็คือมีคราบหินปูน งานนี้อาจจะต้องทำใหม่ เสียเงินเพิ่มอีกนาจา
เอาเป็นว่าถ้าอยากรักษารีเทนเนอร์ให้อยู่กับเราได้นาน ๆ ก็มาดู
วิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์ให้สะอาดกิ๊ง! ไร้คราบ กันดีกว่าค่ะ วิธีการก็ง่ายมาก ๆ ไปดูกันเล๊ยยย~~
เพื่อน ๆ สามารถชมคลิปวิดิโอ 3 วิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์ได้ที่นี่เลยค่า >>คลิกที่นี่<<
วิธีที่ 1 :: แปรงรีเทนเนอร์ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มและน้ำสบู่อ่อน / น้ำยาล้างจาน / น้ำยาล้างขวดนมเด็ก
เราควรจะทำความสะอาดรีเทนเนอร์ทุกวัน!! เพราะอย่างว่าอ่ะเนอะ เป็นของอยู่ในปากเรา ก็ย่อมที่จะมีคราบน้ำลาย,กลิ่นต่าง ๆ ถ้าเราทำความสะอาดทุกวัน สิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะสะสม จนทำให้เป็นคราบหินปูนค่ะ (ถ้ามีคราบหินปูนแล้วขัดออกเองไม่ได้นะเออ ต้องไปหาหมอฟันเท่านั้นนาจาา) โดยเราจะใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม แปรงกับน้ำสบู่เจือจางน้ำเปล่าอ่อน ๆ หรือจะใช้น้ำยาล้างจาน, น้ำยาล้างขวดนมเด็ก ในการทำความสะอาดก็ได้ค่ะ แปรงขนนุ่มขัดให้ทั่วรีเทนเนอร์เบา ๆ รวมถึงช่วงซอกเหล็กอะไรแบบนี้ด้วยน้าา ทำทุกวัน เวลาเช้า-เย็น ค่าา
อย่างนี้ไม่ควรทำ!! - แปรงรีเทนเนอร์ด้วยแปรงสีฟันขนแข็งและยาสีฟันปกติ
เพราะถ้าแปรงสีฟันขนแข็งเกินไปจะทำให้รีเทนเนอร์มีรอยขีดข่วน และยาสีฟันปกติมักจะมีสารขัดฟัน (ลองขยี้เนื้อยาสีฟันจะรู้สึกสาก ๆ) ทำให้ผิวรีเทนเนอร์ขรุขระ และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคโดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ แต่ก็อนุโลมให้ใช้ยาสีฟันเด็กที่ไม่มีส่วนผสมของผงขัด หรือ silica บนฉลากยาสีฟัน นะค้าา~
วิธีที่ 2 :: ใช้เม็ดฟู่ทำความสะอาดฟันปลอม
อีกหนึ่งวิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์ที่คุณหมอแนะนำก็คือ ใช้เม็ดฟู่สำหรับทำความสะอาดฟันปลอม มีขายตามร้านขายยาและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วไปค่ะ วิธีการก็ง่ายเว่อร์ แค่ใส่รีเทนเนอร์ลงในแก้วน้ำ ใส่น้ำสะอาด แล้วหย่อนเม็ดฟู่ตามลงไป แช่รีเทนเนอร์ไว้ 30-40 นาที (ไม่ต้องแช่ข้ามคืนก็ได้นะ) เจ้าเม็ดฟู่จะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย เท่านี้รีเทนเนอร์ก็จะสะอาด หมดปัญหาเรื่องกลิ่นน้ำลายด้วยล่ะ สามารถแช่เม็ดฟู่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือจะแช่ทุกวันก็ได้ค่ะ แต่จะเปลืองไปนิด เพราะเม็ดฟู่กล่องนึงก็ราคาหลักร้อยเลย แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราแปรงรีเทนเนอร์ทุกวัน ก็แช่เม็ดฟู่เดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้วค่าา
อย่างนี้ไม่ควรทำ!! - ห้ามแช่รีเทนเนอร์ด้วยน้ำร้อนจัดหรือน้ำเย็น / น้ำยาบ้วนปาก / น้ำยาฆ่าเชื้อ
เพราะจะทำให้รีเทนเนอร์หดหรือบิดเบี้ยวจนผิดรูป ใส่ได้ไม่พอดีนั่นเอง รวมไปถึงแอลกอฮอล์ในน้ำยาบ้วนปากและน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น เดทตอล อาจทำให้ผิวของรีเทนเนอร์เสียหายอีกด้วย
วิธีที่ 3:: ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชู / น้ำ Apple Cider
วิธีนี้เหมาะกับทำความสะอาดรีเทนเนอร์ที่มีคราบหนัก ๆ ค่ะ วิธีการก็คือเราจะใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำ Apple Cider ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แช่ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วล้างน้ำสะอาดให้รสเปรี้ยวหายไป หรือจะแปรงรีเทนเนอร์ก่อนแล้วค่อยล้างน้ำสะอาดตามก็ได้ค่ะ เท่านี้รีเทนเนอร์ก็จะสะอาดใสกิ๊ง เหมือนใหม่แล้วค่าา
ข้อควรรู้ ของมือใหม่หัดดูแลรีเทนเนอร์
- ไม่ปล่อยให้รีเทนเนอร์แห้ง หากถอดรีเทนเนอร์ควรแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ หรือหากเก็บใส่กล่อง แนะนำให้บุสำลีชุบน้ำรองไว้ค่ะ เพราะหากทิ้งให้รีเทนเนอร์แห้งไว้นาน ๆ จะทำให้รีเทนเนอร์ผิดรูป และใส่ไม่เข้า และแตกหักง่าย
- เก็บรีเทนเนอร์ให้ห่างจากความร้อน เช่น ไมโครเวฟ ไดร์เป่าผม เตาแก๊ส เป็นต้น และห้ามต้มรีเทนเนอร์ด้วยน้ำร้อนเด็ดขาด!
- ลองยกรีเทนเนอร์ส่องไฟดู ถ้ารีเทนเนอร์เริ่มมีสีขุ่น ๆ ไม่ใสแล้ว หรือเริ่มมีคราบขาวเกาะตามขอบรีเทนเนอร์ แสดงว่านั่นคือคราบหินปูนค่ะ สาเหตุมาจากเราทำความสะอาดรีเทนเนอร์ได้ไม่ดีพอนั่นเอง
- รีเทนเนอร์แบบลวดเส้นเดียว มีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี ส่วนรีเทนเนอร์แบบใสมีอายุการใช้งาน 6 เดือน ถึง 2-3 ปี ซึ่งถึงแม้เราจะจัดฟันเสร็จแล้ว ก็ควรพบทันต์แพทย์ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อเช็คสภาพฟันอยู่เสมอค่ะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ใส่รีเทนเนอร์อยู่ทางเราก็แนะนำให้หมั่นดูแล ทำความสะอาดรีเทนเนอร์ให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อสุขอนามัยของช่องปาก และช่วยให้รีเทนเนอร์ยังคงใช้งานได้ยาวนานค่า เราก็เสียสตางค์ทั้งค่าดัดฟัน ค่าทำรีเทนเนอร์มาหลายบาท ก็รักษาของไว้ไม่ต้องเสียสตางค์เพิ่มดีกว่าเนอะ > <
เพื่อน ๆ เคยลองใช้วิธีทำความสะอาดรีเทนเนอร์แบบไหนแล้วเห็นผล หรือมีวิธีดูแลรีเทนเนอร์ยังไงบ้าง ก็ comment มาแชร์กันได้นะค้าาา กด SHARE บทความให้เพื่อน ๆ ที่ใส่รีเทนเนอร์ได้รู้จักวิธีดูแลรีเทนเนอร์กันเนอะ
เนื้อหาโดย : เว็บรีวิวเครื่องสำอาง cosmenet.in.th