รู้หรือไม่? ฝ่าเท้า ของคนเราบอกโรคและสุขภาพจากภายในได้ด้วยนะ เพราะสีฝ่าเท้า อาการปวดฝ่าเท้า อาจเป็นสัญญาณสุขภาพที่เราไม่ควรมองข้าม สีฝ่าเท้าบอกอะไรเราได้บ้างก็ไปดูกันเลย!
อาการปวดเท้า มีสาเหตุจากอะไรบ้าง
สาเหตุของการปวดเท้า เจ็บฝ่าเท้า
มีได้หลากหลายสาเหตุ ทั้งเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และโรคต่าง ๆ แยกย่อยออกมาได้ดังนี้จ้า ~
- การสวมรองเท้าที่ไม่พอดี นับเป็นสาเหตุที่พบบ่อยและง่ายที่สุด เพราะทำให้เกิดการกดทับบริเวณฝ่าเท้า และเกิดการเสียดสีทำให้ปวดและเจ็บบริเวณฝ่าเท้าได้
- การได้รับการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ทั้งการวิ่ง การเต้นแอโรบิค การยกเวทที่มีน้ำหนักมาก อาจทำให้เกิดการกดทับ หรือเกิดการยืดของเส้นเอ็นเป็นเวลานานทำให้อักเสบ และปวดฝ่าเท้าได้
- การยืนเป็นเวลานาน ทั้งการโดยสารรถสาธารณะ การทำงานที่ต้องยืนเยอะ ๆ ส่งผลให้ฝ่าเท้าได้รับแรงกดเป็นระยะเวลานานจนปวดได้ค่ะ
- โรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน ภาวะน้ำหนักเกิน โรคเบาหวาน ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ปวดฝ่าเท้าได้
- ภาวะตั้งครรภ์ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เท้าบวม และเกิดอาการปวดฝ่าเท้าได้เช่นกัน
อาการปวด เจ็บฝ่าเท้า ที่ต้องไปหาหมอ
- อาการปวด หรือเจ็บฝ่าเท้าทันทีที่ลุกเดิน 2-3 ก้าวแรกหลังจากตื่นนอน
- เมื่อนั่งพักขา ห้อยขาเป็นเวลานานแล้วมีอาการเจ็บส้นเท้า พอเดินแล้วทุเลาขึ้น แต่อีกสักพักก็กลับมาเจ็บใหม่
อาการปวดหรือเจ็บฝ่าเท้าในลักษณะนี้เรียกว่า “รองช้ำ” หรือ เส้นเอ็นใต้ฝ่าเท้าอักเสบ นับเป็นสัญญาณที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะการอักเสบจะเริ่มจากเส้นเอ็นบริเวณส้นเท้า ต่อเนื่องไปยังเอ็นร้อยหวาย หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาจเจ็บปวดเรื้อรัง และทำให้เกิดกระดูกงอกที่ส้นเท้าได้นะ ;w;
อาการปวดเท้า เจ็บฝ่าเท้า การทนเจ็บนานไม่ใช่เรื่องดี หากมีอาการเจ็บแบบนี้ควรรีบไปให้คุณหมอดูแลด่วน ๆ เลยค่ะ!
ฝ่าเท้าบอกโรค! ชวนเช็คสีฝ่าเท้า สะท้อนสุขภาพจากภายใน
สีฝ่าเท้าบอกโรคและสัญญาณภายในจากร่างกายได้ เป็นเพราะบริเวณฝ่าเท้าจะเป็นจุดที่เราเห็นหลอดเลือดได้ค่อนข้างเยอะ หากเกิดปัญหาที่ระบบภายในร่างกาย เลือดของเราจะเปลี่ยนสี ส่งผลให้หลอดเลือดและสภาพหลอดเลือดเปลี่ยนไปด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมสีของฝ่าเท้าเราเปลี่ยนไปนั่นเองค่ะ
แล้วสีฝ่าเท้าสีไหนบ้าง ที่สะท้อนว่าสุขภาพและระบบภายในของเราเริ่มไม่ปกติแล้ว ไปเช็คกันเลย!
- สีชมพูอ่อน - ใครที่มี “ฝ่าเท้าสีชมพูอ่อน” นับป็นสัญญาณที่ดีค่ะ เพราะเป็นสีที่บ่งบอกว่าคุณมีสุขภาพที่ดี เลือดไหลเวียนปกติ ไม่มีจุดไหนที่เป็นปัญหาให้กังวลใจค่ะ
- สีขาว - สำหรับ “ฝ่าเท้าสีขาว” อาจส่งสัญญาณว่าร่างกายกำลังขาดพลังงาน หมดพลังงานทั้งกายและใจ รวมไปถึงอาจเป็นสัญญาณของภาวะความดันต่ำ โลหิตจาง หรือกระเพราะอาหารทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าเดิม ในส่วนนี้ก็ต้องดูแลเพิ่มด้วยการทานอาหารที่ดี ให้พลังงานเหมาะสม ร่วมกับการทานวิตามินบี ธาตุเหล็ก และซิงค์
- สีเหลือง - ใครที่มี “ฝ่าเท้าสีเหลือง” ตรงนี้อาจะเป็นสัญญาณว่าตับทำงานลดลง หรืออาจมีปัญหาในการขับสารสีเหลืองในร่างกายอย่าง “บิลิรูบิน” สารสีเหลืองในร่างกายที่ต้องผ่านกระบวนการที่ตับและขับบิลิรูบินออกจากร่างกายด้วยการขับถ่ายทั้งหนักและเบา ทำให้น้องตุ๊บป่องและชิ้งฉ่องของเรามีสีเหลืองนั่นเอง แต่พอตับทำงานน้อยลงสีเหลืองนี้จึงคงค้างอยู่ในกระแสเลือดและทำให้ฝ่าเท้าเราเหลืองได้ค่ะ หากอยากให้ตับทำงานดีเหมือนเดิมก็ต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ตับทำงานหนัก เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากจนเกินไป เพื่อให้ตับกลับมาแข็งแรงดังเดิมม
- สีม่วง - “ฝ่าเท้าสีม่วง” เป็นสัญญาณบอกว่าปอดกำลังทำงานไม่เต็มที่ เพราะปอดมีหน้าที่รับออกซิเจนมาฟอกเลือดดำให้เป็นเลือดแดง แต่เมื่อปอดทำงานน้อยลง ร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยกว่าปกติ ก็จะส่งผลให้ปอดฟอกเลือดดำมาเป็นเลือดแดงได้ไม่ดีนัก เลือดจึงมีสีคล้ำมองจากฝ่าเท้าจะดูเป็นสีม่วงชัดเจน การทำให้ปอดกลับมาแข็งแรงก็ต้องเริ่มที่การบริหารร่างกายไม่ว่าจะเป็นการเล่นโยคะ การวิ่ง หรือแอโรบิคที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี และปอดได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นจากการออกกำลังกายค่ะ
- สีแเดง - ในส่วนของคนที่มี “ฝ่าเท้าสีแดง” ตรงนี้เป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่าหัวใจอ่อนแอ (ไม่ใช่ใจบางเด้อ) แต่เป็นอาการที่หัวใจสูบฉีดเลือดไม่ดีเท่าเดิมส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดี แม้หัวใจจะฉีดเลือดไปที่ฝ่าเท้าได้ แต่ไม่สามารถสูบกลับมาที่หัวใจอีกครั้ง เลือดจึงมาคั่งที่ฝ่าเท้าเยอะจนเห็นเป็นสีแดงนั่นเองจ้า วิธีแก้ก็คือการเดินให้มากขึ้นเพื่อให้ขาช่วยปั๊มเลือดจากฝ่าเท้ากลับไปที่หัวใจ และปรับพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพ และปรับวิธีการดื่มแอลกอฮอลล์ให้น้อยลง เพื่อให้เลือดไม่เหนียวข้นและไหลเวียนดีสูบฉีดง่ายขึ้นจ้าา
และนี่ก็เป็นสัญญาณจากสีฝ่าเท้าที่สำคัญและไม่ควรละเลย เพราะฝ่าเท้าเป็นเหมือนไซเรนเตือนสัญญาณสุขภาพจากภายในร่างกายเลยล่ะ ไหนใครฝ่าเท้าสีอะไร มาแชร์กันด่วนน ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและมีความสุขในทุกๆวันกันด้วยน้า ~
ฝ่าเท้านั้นสำคัญกว่าที่เราคิด! อ่านบทความนี้จบแล้วลองไปดู