แร่ทัลก์ แป้งทัลคัม แป้งเด็กผสมทัลคัม ทำไมถึงต้องยกเลิกการผลิต หลายคนอาจจะเห็นข่าวเหล่านี้มานานแล้วแต่ยังไม่รู้ถึงความอันตรายจากแป้งที่มีส่วนผสมของทัลคัมหรือผงจาก “แร่ทัลก์” วันนี้ *Cosmenet จะมาเล่าให้ฟังจ้าา ว่าทำไม “แร่ทัลก์” จึงเป็นสารที่อันตรายต่อสุขภาพ!
แร่ทัลก์คืออะไร ?
แร่ทัลก์ หรือ Talc เป็นแร่ไฮเดรสแมกนีเซียมซิลิเกต จัดเป็นแร่ที่มีความอ่อนมาก ๆ สามารถใช้เล็บขูดให้เป็นรอยได้และมีสีขาว เทา ฟ้า สามารถพบได้ในประเทศไทยแถบจังหวัดอุตรดิตถ์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และจันทบุรี ในต่างประเทศได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล ตุรกี โอมาน และโซนตะวันออกกลาง
โดยส่วนมากก่อนนำแร่ทัลก์มาใช้งาน ก็จำเป็นที่จะต้องบดละเอียดก่อน แล้วจึงจะนำแร่ทัลก์ที่ป่นเป็นผงแล้ว มาใช้เพื่อผสมสี ทำเครื่องปั้นดินเผา ยาฆ่าแมลง วัสดุมุงหลังคา วัสดุทนไฟ ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมอย่างพลาสติก กระดาษ ยาง และสิ่งทอ รวมไปถึงในแวดวงเครื่องสำอางก็มีการใช้แร่ทัลก์ผสมในแป้งฝุ่นสำหรับผิวหน้าและผิวกายด้วยเหมือนกัน
แร่ทัลก์กับประโยชน์ในแวดวงความงามและสุขภาพ
แร่ทัลก์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะผลิตกระดาษ พลาสติก ยาง ดูไกลตัวกับแวดวงความงามและสกินแคร์มาก แต่ทำไมถึงมีการใช้งานแร่ตัวนี้ในวงการความงามและสุขภาพกันล่ะ?
แร่ทัลก์ เคยเป็นที่ยอมรับจากองค์การต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างอเมริกา สหภาพยุโรป แคนาดาและเอเชีย ว่าปลอดภัย สามารถใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ส่วนตัวได้โดยไม่กระทบสุขภาพ
ประโยชน์ของ แร่ทัลก์ในเครื่องสำอาง คือ ช่วยทำให้ผิวบริเวณที่ทานั้นแห้ง และฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี แต่เกรดที่ใช้ต้องเป็นเกรดปลอดภัยไม่มีแอสเบสตอส หรือ แร่ใยหินผสมด้วย จึงนิยมนำแร่ทัลก์มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เช่น แป้งฝุ่น บลัชออน และโคลนพอกหน้า
ทำไมจึงยกเลิกการใช้แร่ทัลก์ในสกินแคร์และเครื่องสำอาง
เนื่องจากหลายปีก่อน มีการฟ้องร้องระหว่างผู้หญิงท่านหนึ่งในรัฐมิสซูรี่กับบริษัทแป้งชื่อดัง เนื่องจากเธอเป็นมะเร็งรังไข่ระยะสุดท้าย พร้อมทั้งกล่าวว่ามีผลวิจัยระบุแล้วว่าแร่ทัลก์ที่เป็นส่วนผสมในแป้งนั้นมีแร่ใยหินผสมอยู่ และนับเป็นสารก่อมะเร็ง
รวมถึงนิวยอร์คไทมส์ก็ได้ตีพิมพ์บทความที่เชื่อมโยงว่าแร่ทัลก์เป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งได้ตั้งแต่ปี 1982 แล้วเช่นกัน แต่ทางบริษัทยังคงปกปิดข้อมูลนี่
นอกจากนี้ยังมีวิจัยชิ้นหนึ่งได้กล่าวว่า “ผู้ที่ใช้แป้งที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์นั้น เสี่ยงให้เกิดมะเร็งได้มากกว่าผู้ที่ไม่ใช้ถึง 3 เท่า โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ใช้แป้งกับบริเวณน้องสาวเพื่อลดความอับชื้น ยิ่งเสี่ยงให้เกิดมะเร็งรังไข่ถึง 33% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ใช้” จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าแร่ทัลก์นั้นเป็นสารก่อมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อสุชภาพจริง
และในปี 2014 คำร้องดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังศาลรัฐบาลกลางของรัฐมิสซูรี ศาลตัดสินให้บริษัทแป้งนั้นจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย และชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากการใช้แป้งดังกล่าวเป็นระยะเวลาหลายปี
เมื่อข่าวนี้แพร่ออกมา ทั่วโลกจึงได้รับรู้ว่าแร่ทัลก์นั้นจัดเป็นสารก่อมะเร็ง จึงมีการฟ้องร้องให้ยกเลิกการผลิต และควรหลักเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแร่ทัลก์นั่นเองค่ะ
บอกเลยะนะคว่าเรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียสเลย อ่านถึงตรงนี้ต้องไปหยิบแป้งฝุ่นมาพลิกดูแล้วว่ามี Talc ผสมอยู่มั้ยเนี่ยย
โทษจากแร่ทัลก์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทำไมถึงต้องยกเลิกการผลิตและหยุดขายผลิตภัณฑ์ที่มี “แร่ทัลก์” เพราะมันมีผลกระทบต่อสุขภาพดังนี้ค่า
- รบกวนระบบทางเดินหายใจ เจ้าแร่ทัลก์หรือแร่หินสบู่เนี่ย ถึงจะมีความแข็งอยู่ในระดับ 1 หรือไม่แข็งเลยสามารถใช้มีดตัดได้ แต่ว่าการสูดดม หรือฟุ้งกระจายเข้าจมูก จะทำให้รบกวนการหายใจ ส่งผลให้หายใจลำบาก หรือทำให้การหายใจมีปัญหาได้
- ก่อให้เกิดอาการไอ แม้เป็นแร่ธรรมชาติแต่หากฟุ้งเข้าปากเข้าคอไป ก็มีสารตกค้างทำให้ระคายเคืองและเกิดอาการไอแห้ง ไอเรื้อรังได้เช่นกันน
- เด็กทารกเสี่ยงปอดอักเสบ เด็กทารกเป็นวัยที่ต้องใช้แป้งเยอะเพื่อลดความอับชื้น การใช้แป้งที่มีแร่ทัลก์จะทำให้รบกวนการหายใจ และอาจส่งผลให้ปอดอักเสบได้ด้วย แนะนำให้คุณแม่ใช้แป้งที่มีส่วนผสมของแป้งข้าวโพดดีกว่านะคะ ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองหรือสารตกค้างด้วย
- ก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ มีหลายคนที่โรยแป้งลงไปเลยในกางเกงชั้นใน หรือใช้แป้งทาน้องในปริมาณมาก ๆ เมื่อใช้แป้งที่มีแร่ทัลก์ นางก็จะเข้าไปก่อให้เกิดการอุดตัน อักเสบ ร้ายแรงถึงการก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ได้เลย ต้องระวังในเรื่องการใช้แป้งกับน้องสาวมาก ๆ เลยนะคะ แนะนำว่าให้เช็ดให้แห้งด้วยทิชชู่ เลือกชั้นในที่เป็นผ้าบาง ใส่สบาย ไม่ใส่กางเกงที่รัดจนเกินไปเพื่อลดความอับชื้นนะคะ
และทั้งหมดที่กล่าวมาก็น่าจะตอบคำถามได้แล้วนะคะว่า ทำไม “แร่ทัลก์” ถึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ผลิตก็ควรเลือกผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งที่ปลอดภัยให้ผู้บริโภค และเราทุกคนที่เป็นผู้บริโภคก็ต้องคอยระวังและสังเกตตัวเองอยู่เสมอนะคะ อย่าคิดว่าอะไรก็ใช้ได้ อะไรก็ปลอดภัย เพราะบางอย่างอาจส่งผลเสียกับสุขภาพของเราได้โดยไม่รู้ตัวจ้า :)
ถ้าแป้งทัลคัมมันอันตราย ลองเปลี่ยนมาใช้แป้งเหล่านี้ดูกัน!