สาระน่ารู้

มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) คืออะไร เลือกยังไงให้เหมาะกับผิว?

17,445

10 ก.พ. 2566

Moisturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ คืออะไร? ต้องบอกเลยว่าหนึ่งในสกินแคร์ที่ได้ยินกันบ่อย ๆ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามอยส์เจอไรเซอร์คืออะไร สำคัญยังไง และต้องเลือกมอยส์เจอไรเซอร์แบบไหนให้เหมาะกับผิวดี?

วันนี้ *Cosmenet เลยจะมาอธิบายเพิ่มเติมถึงความสำคัญของมอยส์เจอไรเซอร์ ที่เค้าบอกว่าช่วยบำรุงผิว มันบำรุงยังไง และต้องใช้แบบไหนให้ถูกต้อง รวมไปถึงวิธีเลือกประเภทของมอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละแบบกันด้วยค่าา

Moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์) คืออะไร ?

Moisturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ คือ สกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำหรือน้ำมันให้ผิว กักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ รวมถึงช่วยลดอาการแห้ง ลอก ผิวเป็นขุย จากการที่ผิวขาดน้ำ เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มอิ่มน้ำมากขึ้น รวมถึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ด้วยนะ!

Moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์) มีกี่ประเภท ?

Moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์) นั้นหลัก ๆ มี 2 ประเภท ได้แก่

Oil-based moisturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะกับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างมาก เช่น คนผิวแห้ง - ผิวแห้งมาก คนที่อยู่ห้องแอร์เย็นจัดเป็นเวลานาน หรือผิวบริเวณหัวเข่า ตาตุ่ม ข้อศอก ที่มักแห้งและแข็งกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ
Water-based moisturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะกับชาวผิวธรรมดา - ผิวมัน ที่ผิวขาดน้ำ และต้องการเติมความชุ่มชื้น แต่ไม่เพิ่มความมัน เพราะผิวผลิตน้ำมันออกมาเพียงพอแล้ว หากใช้ Oil-based moisturizer จะยิ่งรบกวนผิวและทำให้อุดตันได้

มอยส์เจอไรเซอร์ 2 ประเภทหลักนี้ ก็แตกตัวออกไปเป็นเนื้อสัมผัสที่แตกต่างได้อีก ทั้งมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม เนื้อบาล์ม เนื้อเจล เนื้อโลชั่น และขี้ผึ้ง ถ้าถามว่าแต่ละคนควรจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบไหน ก็ต้องตอบว่าควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว สภาพอากาศ และก็ขึ้นอยู่กับความชุ่มชื้นที่ผู้ใช้ต้องการด้วยจ้า

โดย *Cosmenet ขอแตกหัวข้อ Moisturizer แบบไหนที่เหมาะกับผิวออกมาอธิบายให้เห็นชัด ๆ ในข้อถัดไปน้าา

แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวแต่ละประเภท

แนะนำ moisturizer มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวแต่ละประเภท

ผิวปกติ (Normal skin) เป็นผิวที่ใครก็ใฝ่ฝัน ปัญหาผิวน้อย ความมัน และความชุ่มชื้นอยู่ในระดับพอดี รูขุมขนก็ไม่กว้างเกิน ทำให้สามารถใช้สกินแคร์ตัวไหนก็ถูกโฉลก จึงสามารถใช้ Moisturizer ได้แทบทุกแบบ แต่ก็ยังต้องเลือกดี ๆ และควรหมั่นสังเกตว่าผิวหน้าเราถูก หรือ ไม่ถูกกับสกินแคร์เนื้อสัมผัสแบบไหน ใช้อะไรก็เช็คส่วนผสมให้ชัวร์ก่อนว่าผิวเราจะไม่ถูกรบกวนหนักเกิน จะได้ผิวดีไปนาน ๆ นะจ๊ะ

♥ แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวปกติ อย่าง Cetaphil Moisturising Cream ที่เหมาะกับผิวทุกประเภท เนื้อสัมผัสเป็นเนื้อครีม ไม่เหนอะหนะ ผิวบอบบางก็ใช้ได้ ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ใครใช้ก็รีวิวว่าดืออ

ปริมาณ: 100 g. ราคา 290 บาท

ผิวแห้ง (Dry skin) เป็นผิวที่เสียความชุ่มชื้น หรือขาดน้ำในผิวไป ทำให้ผิวหมองคล้ำ ขาดความยืดหยุ่น ลอก แห้ง เป็นขุย และอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ไวกว่าผิวประเภทอื่น ๆ จึงควรเติมความชุ่มชื้นด้วยสกินแคร์เนื้อเข้มข้นนิดนึงอย่างมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม โลชั่น หรือเนื้อบาล์ม/ขี้ผึ้งในจุดที่แห้งมาก ๆ

♥ แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวแห้ง ควรใช้ Facelabs Oil Free Moisturizer For Dry Skin with Shea Butter ที่เป็นเนื้อครีมเข้มข้น แต่ไม่หนักหน้า ช่วยล็อคความชุ่มชื้นยาวนานด้วยสารสกัดจากเชียบัตเตอร์ ใช้แล้วหน้านุ่มนิ่มไม่มันเพิ่มเพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำมันจ้าา

ปริมาณ: 50 ml. ราคา 850 บาท

ผิวมัน (Oily skin) คือผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกิน อาจเป็นจากกรรมพันธุ์หรืออาจเป็นเพราะผิวขาดน้ำจนขับน้ำมันออกมาเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น แต่ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือคนผิวมันจะรูขุมขนกว้างกว่าเพื่อนและเกิดสิวอุดตันได้ง่ายสุด ๆ จึงควรใช้สกินแคร์เนื้อเจลที่บางเบา ซึมง่าย ไม่มันและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันจ้า

♥ แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวมัน ควรใช้ Srichand Skin Moisture Burst Gel Cream เจลครีมที่เสริมเรื่องความชุ่มชื้น แต่ไม่อุดตันผิว ใช้แล้วหน้านิ่มไม่มันเยิ้มเพิ่มเติมแน่นวน

ปริมาณ: 50 ml. ราคา 850 บาท

ผิวผสม (Combination skin) เป็นผิวที่มีทั้งความมันและความแห้งผสมกัน ซึ่งขอบอกเลยว่าต้องเปลืองทุนทรัพย์กันหน่อย เพราะในโซนที่มันอย่างพวก T-zone หน้าผาก จมูกและคาง ก็ควรใช้สกินแคร์สำหรับผิวมัน และส่วนที่แห้งอย่างเช่นบริเวณหน้าแก้ม ก็ควรใช้สกินแคร์สำหรับผิวแห้ง เพื่อบำรุงได้อย่างถูกจุด หรือเลือกใช้สกินแคร์เนื้อโลชั่นที่สามารถเข้าได้กับผิวที่แห้งและมันได้ในคราวเดียวเลยย

♥ แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวผสม ต้องลอง Simple Hydrating Light Moisturiser ตัวนี้เป็นโลชั่นมอยส์เจอไรเซอร์ที่บางเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดี รีวิวจากคนผิวผสมก็บอกว่าซึมเร็ว อ่อนโยน ไม่แพ้ไม่อุดตัน ไปหาตำกันดูได้!

ปริมาณ: 50 ml. ราคา 850 บาท

ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) หรือสภาพผิวที่ไวต่อการระคายเคืองมาก ๆ มีปัญหาผิวแดง ผิวเป็นสิว และอักเสบได้ไวกว่าผิวประเภทอื่น ทั้งมลภาวะ แสงแดด และอากาศ ก็ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาผิวได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่บำรุงและอ่อนโยน หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง รวมถึงเสริมเกราะปกป้องผิวด้วย เนื้อสัมผัสควรบางเบาอย่างพวกเนื้อโลชั่น หรือเนื้อเจล ที่ซึมไว ไม่อุดตันหรือระคายเคืองผิว

♥ แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย อย่าง BIODERMA Sensibio Defensive ที่เป็นครีมฟื้นฟูและบำรุงผิวสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เค้าเป็นเนื้อครีมกึ่งเจลนะจ๊ะตัวนี้ บำรุงลึกแถมไม่ระคายเคืองผิวด้วย เริ่ด!

ปริมาณ: 40 ml. ราคา 940 บาท

Moisturizer ควรทาตอนไหนดี ?

โดยปกติแล้ว ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) หลังจากล้างหน้าเช้า - เย็น โดยที่ยังไม่ต้องซับหน้าให้แห้งสนิท แค่ซับหมาด ๆ จากนั้นจึงเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิว ลงเซรั่มหรือน้ำตบเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง จากนั้นจึงลงมอยส์เจอไรเซอร์ปิดท้ายเพื่อบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวตลอดทั้งวันนั่นเอง

ถ้าใครยังไม่รู้ว่าขั้นตอนการลงสกินแคร์ที่ถูกต้องทั้งหมดมันเป็นยังไง ก็ไปดูขั้นตอนการลงสกินแคร์ได้ที่นี่เลยจ้า ♥ จิ้ม ๆ ตรงนี้เลย ♥ *Cosmenet เคยบอกไว้ละเอียดยิบ!

และก็จบแล้วจ้าา กับเรื่องราวของมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) ที่บอกเลยว่าเลือกผิดชีวิตเปลี่ยน จากหน้านุ่มอาจเป็นหน้ามันเพราะขาดความเข้าใจในการเลือก “มอยส์เจอไรเซอร์” ให้เข้ากับสภาพผิวของตัวเองไปได้ เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะเลือกใช้อะไรก็ศึกษาให้เข้าใจ หรือมาอ่านบทความ / รีวิวจาก *Cosmenet ก่อนการตัดสินใจซื้อก็ได้น้าา ~

สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นดูแลผิว ลองไปอ่านบทความนี้ต่อเลย ~

HOW TO : วิธีลงสกินแคร์แบบสาวเกาหลี จัดยาว ๆ ไปเลย 12 ขั้นตอน กว่าจะได้นอน!!