การกดสิวเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวที่ช่วยให้สิวหายไว ลดการเกิดสิวใหม่ และช่วยป้องกันสิวอุดตันพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ ซึ่งอาจจะทิ้งรอยไว้ให้ปวดใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าการกดสิวจะสามารถใช้ได้กับสิวทุกประเภทนะคะ โดยเฉพาะสิวอักเสบ เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการอักเสบลุกลามและเกิดรอยแผลเป็นตามมาได้ วันนี้ *Cosmenet เลยถือโอกาสพาทุกคนมาดูวิธีกดสิวที่ถูกต้องและปลอดภัยกัน ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่าา~
การกดสิว คืออะไร?
สำหรับการกดสิวเป็นวิธีรักษาสิวด้วยการกด หรือบีบบริเวณที่เป็นสิวด้วยที่กดสิว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยให้กดสิวได้ง่ายขึ้น ในกรณีที่เป็นสิวอุดตันหัวปิดอาจจะมีการใช้เข็มสะกิดหัวสิวให้เปิดออกเพื่อให้สามารถกดสิวออกได้ง่ายขึ้น หากใครไม่มีที่กดสิวก็สามารถใช้คอตตอนบัดกดข้างหัวสิวทั้งสองข้างเบา ๆ ก็ได้เช่นเดียวกันค่าา แต่ไม่แนะนำให้ใช้นิ้วบีบสิวนะคะ เพราะถ้ามือของเราไม่สะอาดพอก็อาจจะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมาได้ค่า
ข้อดี-ข้อเสียของการกดสิว
- ข้อดี : การกดสิวเป็นการนำหัวสิวออกมา นอกจากจะทำให้สิวที่นูนอยู่ยุบตัวลงทันทีแล้ว ยังป้องกันไม่ให้สิวอุดตันพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีที่ช่วยให้สิวหายไวและแทบจะไม่ทิ้งรอยไว้ให้ดูต่างหน้าเลยค่ะ
- ข้อเสีย : ในทางกลับกันหากสาว ๆ กดสิวไม่ถูกวิธี หรืออุปกรณ์ที่กดสิวไม่ผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดมาอย่างดีก็อาจเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียจนเกิดการอักเสบลุกลาม และเกิดรอยแผลเป็นจากสิวตามมาได้ คราวนี้นอกจากจะต้องรักษาสิวแล้ว ยังต้องมานั่งรักษารอยสิวด้วย บอกเลยว่าไม่คุ้มเลยค่ะ
สิวที่กดได้ และสิวที่ไม่ควรกด
- สิวที่กดได้ : สิวอุดตันที่ไม่มีการอักเสบ ไม่ติดเชื้อ โดยมักจะเกิดจากอุดตันสะสมของน้ำมันบนใบหน้า และเซลล์ผิวเก่าในรูขุมขน เช่น สิวหัวดำ และสิวหัวขาว
- สิวที่ไม่ควรกด : สิวที่ห้ามกดเด็ดขาดเลยก็คือสิวอักเสบ เพราะสิวประเภทนี้อยู่ลึกลงไปในชั้นผิวมากกว่าสิวประเภทอื่น ทำให้ต้องใช้แรงกดอย่างมากเพื่อระบายหนองออก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว และหากบีบหนองออกมาไม่หมดก็จะยิ่งทำให้เกิดสิวซ้ำซาก หรือลุกลามมากไปกว่าเดิมได้ค่าา
วิธีกดสิวด้วยตัวเองโดยไม่ทำร้ายผิวหน้า
1. ก่อนจะเริ่มกดสิวทุกครั้งสาว ๆ ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่อย่างวน้อย 30 วินาที และเช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
2. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมล้างหน้า เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มกดสิว
3. นำที่กดสิวแช่ลงในแอลกอฮอล์ประมาณ 10 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อ
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA ทาลงบนบริเวณที่เป็นสิวอุดตัน
5. จากนั้นใช้ผ้าอุ่น ๆ มาประคบบนผิวหน้าประมาณ 5 นาที เพื่อให้รูขุมขนเปิดทำให้กดสิวได้ง่ายขึ้น
6. ใช้ที่กดสิวค่อย ๆ กดสิวออก ในกรณีที่กดไม่ออก แนะนำให้ใช้เข็มสะกิดหัวสิวเบา ๆ แล้วกดอย่างเบามือ
7. หลังกดสิวแล้วแนะนำให้ใช้น้ำเกลือทำความสะอาดแผล จะช่วยให้แผลหลังกดสิวแห้งเร็ว และไม่ทิ้งรอย
8. หากผิวหน้ามีอาการบวมแดงหลังกดสิวให้ใช้การประคบเย็นเพื่อลดบวม และทาเจลว่านหางจระเข้เพื่อปลอบประโลมผิว
ถึงแม้เราจะสามารถกดสิวด้วยตัวเองได้ แต่หากไม่รู้วิธีกดสิวที่ถูกต้องและละเลยเรื่องความสะอาด นอกจากสิวจะไม่หายแล้ว ยังอาจจะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมาได้ และที่สำคัญหลังกดสิวทุกครั้งควรหมั่นบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนใส ไร้รอยสิวนั่นเองค่าา
สำหรับสิวที่กดไม่ได้ ลองใช้เจลแต้มสิวรีวิวดี๊ดีเหล่านี้ดู! รับรองสิวยุบไว ไม่ต้องกดให้เจ็บตัว