เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนเต็มตัวแบบนี้ นอกจากสภาพอากาศและความชื้นที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วยังตามมาด้วยแบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหน้าฝน โดยเฉพาะโรคฮอตฮิตอย่างไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก และอีกมากมาย ถ้าอยากรู้ว่าโรคตามฤดูกาล มีอะไรบ้าง วันนี้ *Cosmenet ก็ได้รวบรวมโรคที่มากับหน้าฝนมาบอกต่อกันค่าา
หน้าฝนเดือนไหน?
สำหรับหน้าฝนปี 2566 นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ใครไม่อยากป่วย เพราะโรคที่มากับหน้าฝน ช่วงนี้อย่าลืมพกร่มออกจากบ้านกันด้วยน้าา
โรคที่มากับหน้าฝน พร้อมอาการ
1. ไข้หวัดธรรมดา
เริ่มต้นด้วยโรคหน้าฝนสุดเบสิค นั่นก็คือ “ไข้หวัดธรรมดา” ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ หรืออาจเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศก็ได้เช่นกันค่ะ
- อาการ : มีไข้ต่ำ ๆ ตัวร้อนเป็นพัก ๆ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย มีอาการปวดตื้อ ๆ และหนักศีรษะเล็กน้อย มีน้ำมูก อาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก และอาจมีอาการไอ จามเล็กน้อยร่วมด้วยค่ะ
2. ไข้หวัดใหญ่
เรียกได้ว่าเป็นโรคฮอตฮิตติดอันดับในช่วงหน้าฝนเลยก็ว่าได้ค่ะ สำหรับ “ไข้หวัดใหญ่” โดยเป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย แต่จะระบาดหนักในช่วงหน้าฝน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) ซึ่งจะแตกต่างจากไข้หวัดธรรมดาตรงที่มีอาการที่รุนแรงกว่าและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนจนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- อาการ : อาการของโรคไข้หวัดใหญ่จะมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดธรรมดา แตกต่างกันตรงที่อาการไข้หวัดใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาที่จะค่อย ๆ แสดงอาการ โดยจะมีไข้ หนาวสั่น แต่เหงื่อออก รู้สึกปวดศีรษะ ปวดตา และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก จาม เจ็บคอ ไอแห้ง
3. โรคไข้เลือดออก
เมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนสิ่งที่ตามมาคือยุงลาย!! ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก โดยยุงลายจะกัดคนที่เป็นโรคไข้เลือดออก จากนั้นจึงไปกัดคนที่อยู่ใกล้เคียงแล้วถ่ายทอดเชื้อไปสู่คนที่ถูกกัดได้
- อาการ : หลังจากได้รับเชื้อจะเริ่มมีไข้สูงเฉียบพลันเกิน 3 วันขึ้นไป รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร ปวดหัว ปวดกระบอกตา หรือปวดเมื่อยตามตัว มีอาการตาแดง หน้าแดง อาจมีจ้ำเลือดหรือจุดเลือดออกสีแดงเล็ก ๆ ตามผิวหนัง
4. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
ในช่วงหน้าฝนทำให้มีความชื้นในอากาศมากกว่าปกติ ส่งผลให้แบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสเจริญเติบโตและแพร่เชื้อได้ดี ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคในอาหารเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันนั่นเองค่ะ
- อาการ : มีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำ อาเจียนอย่างรุนแรงหลายครั้ง ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และอาจมีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียสร่วมด้วย
5. โรคเยื่อบุตาอักเสบ
เวลาฝนตกมักจะมีน้ำท่วมขัง ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงแล้วยังมีทั้งเชื้อโรคและเชื้อไวรัสจำนวนมาก เมื่อน้ำสกปรกเหล่านั้นกระเด็นเข้าตาก็จะทำให้เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดงตามมาได้
- อาการ : มีอาการแดงที่เปลือกตาด้านใน บริเวณตาขาวเปลี่ยนเป็นสีแดง เยื่อบุตาบวม รู้สึกระคายเคืองเหมือนมีผงทรายอยู่ในตา ตาแฉะ มีน้ำตาไหลมากผิดปกติ
6. โรคฉี่หนู
สำหรับโรคฉี่หนู หรือโรคเล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน โดยติดต่อทางบาดแผลและมีน้ำเป็นตัวพาหะ เพราะฉะนั้นสาว ๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการเดินในน้ำขังช่วงหน้าฝน โดยเฉพาะคนที่มีบาดแผลที่บริเวณขา หรือเท้า
- อาการ : มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อรุนแรง มีอาการตาแดง รู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน และหนาวสั่น
7. โรคมือ เท้า ปาก
โรคมือ เท้า ปากเกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร (Enterovirus) ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มเด็กเล็ก แต่เด็กโตและผู้ใหญ่ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน โดยเป็นอีกหนึ่งโรคที่ระบาดมากช่วงหน้าฝน
- อาการ : มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ รู้สึกอ่อนเพลีย มีแผลในปาก และมีผื่นเป็นจุดแดงขึ้นที่มือ เท้า
วิธีดูแลตัวเองในหน้าฝน
สำหรับวิธีดูแลตัวเองในหน้าฝนอย่างง่าย ๆ แค่ปรับพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย ดังนี้ค่ะ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ : นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคด้วยน้าา
- พักผ่อนให้เพียงพอ : ร่างกายของคนเราควรได้นอนหลับพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักและมีเวลาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
- อย่าลืมพกร่ม และเสื้อกันฝนก่อนออกจากบ้าน : เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อไหร่ จึงควรพกร่มติดตัวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเปียกฝน และช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นหวัดจากการถูกละอองฝน
- รับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ๆ ไม่มีแมลงวันตอม : และควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน
- หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ : โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังหลังฝนตก เพราะอาจปนเปื้อนปัสสาวะสัตว์ที่อาจมีเชื้อโรคฉี่หนู
ทุกคนอย่าลืมดูแลสุขภาพและหมั่นตรวจเช็กร่างกายของตัวเองอยู่เสมอนะคะ หากมีอาการป่วยแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้เรื้อรัง เพราะอาจจะเป็นอันตรายตามมาได้น้าา
ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หากใครรู้สึกคัดจมูก หายใจไม่ค่อยสะดวก เรามีเคล็ดลับแก้ภูมิแพ้อากาศแบบเร่งด่วนด้วยไอเทมใน 7-11 มาแนะนำกันแล้วค่าา~