แพ้อาหารทำยังไงดี? เวลากินอาหารแล้วรู้สึกว่าปากซา คันยุบยิบ และมีผดผื่นขึ้นบริเวณใบหน้าและตามบริเวณต่าง ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังแพ้อาหารชนิดนั้นอยู่!
แพ้อาหาร ภาวะที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อกับทุกคน และแต่ละคนก็มีระดับความรุนแรงของอาการที่แตกต่างกัน วันนี้ *Cosmenet จะมาบอกถึง สาเหตุของการแพ้อาหาร รวมถึงแชร์อาการแพ้อาหารที่รุนแรง แพ้อาหารแบบไหนต้องไปหาหมอ ไปดูกัน ~
อาการแพ้อาหารมีอะไรบ้าง ?
อาการแพ้อาหาร มีหลายรูปแบบและสามารถทำปฏิกริยากับระบบในร่างกายได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็น…
ผิวหนัง : เกิดผดผื่นคันหรือลมพิษบนในหน้าและร่างกาย หรือบางรายอาจเกิดปื้นแดง รู้สึกคัน โดยเฉพาะบริเวณตา จมูก ปาก ท้ายทอ และใบหู แต่ไม่มีผดผื่น
ทางเดินหายใจ : รู้สึกหายใจไม่ค่อยออก เพราะทางเดินหายใจหดตัว ร่วมกับการกลืนน้ำลายลำบากที่อาจเกิดจากการบวมภายในช่องคอ ลิ้น และริมฝีปาก
ทางเดินอาหาร : มีอาการถ่ายท้อง ท้องเสียฉับพลัน และปวดท้องอย่างต่อเนื่อง หรืออาจรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน ไปพร้อม ๆ กับการท้องเสีย
หัวใจและหลอดเลือด : ความดันอาจสูงขึ้น หรืออาจความดันต่ำลง ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เวียนหัว บางรายอาจหน้ามืดและเกิดภาวะช็อกได้
ระดับของอาการแพ้อาหาร
อาการแพ้อาหารสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระดับ หลัก ๆ ได้แก่
1. อาการแพ้อาหารที่ไม่รุนแรง เป็นอาการแพ้อาหารที่อยู่ในระดับไม่เฉียบพลัน และไม่รุนแรงมากนัก มักเกิดขึ้นในไม่กี่นาที หรือ 2-4 ชั่วโมงหลังทานอาหาร
โดยอาการแพ้อาหารที่ไม่รุนแรง มักเป็นอาการคันปาก คันตา คันจมูก หรือรู้สึกระคายเคืองในลำคอ อาจมีอาการลมพิษ ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องร่วมด้วย แต่ผู้ป่วยยังมีสติอยู่ครบ และหายใจได้อย่างปกติ
วิธีรักษาอาการแพ้อาหารที่ไม่รุนแรง แนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้านเพื่อซื้อยาแก้แพ้ที่เหมาะสมกับอาการค่ะ แต่หากรู้สึกไม่โอเค ร่างกายผิดปกติไปจากเดิมมาก ๆ ก็แนะนำให้ไปพบคุณหมอที่สถานพยาบาลใกล้บ้านเลยค่า อย่าปล่อยเอาไว้เฉย ๆ โดยไม่กินยาหรือพบแพทย์นะคะ อาการอาจรุนแรงขึ้นกว่าเดิมได้!
2. อาการแพ้อาหารเฉียบพลัน ในทางการแพทย์อาจเรียกว่าเป็นภาวะ Anaphylaxis เป็นอาการแพ้อาหารที่รุนแรงถึงชีวิต รวมถึงการแพ้สารปนเปื้อน ยา และแมลงต่าง ๆ ด้วย
โดยอาการแพ้อาหารเฉียบพลัน จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีถึง 2, 4 และ 6 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารที่แพ้ อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ หายใจลำบาก ลมพิษ หน้าบวม แน่นหน้าอก ความดันโลหิตต่ำ ช็อก
วิธีรักษาอาการแพ้อาหารที่รุนแรง แนะนำให้พบแพทย์โดยด่วนเลยค่ะ เพราะผู้ป่วยจะหายใจลำบากจากการที่ทางเดินหายใจหดตัว ลิ้นบวม คอบวม และอาจเกิดอาการช็อกจากความดันต่ำได้ หากรู้สึกผิดปกติให้รีบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลด่วน ๆ เลยค่ะ!
ไม่เคยแพ้อาหาร แต่อยู่ ๆ ก็แพ้อาหาร เพราะอะไร?
อยู่ ๆ ก็แพ้กุ้ง แพ้อาหารทะเล ทั้งที่เคยกินได้ปกติมาตลอด อาจเป็นเพราะอาหารที่เรากินเข้าไปนั้นเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ เนื่องจากไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า IgE (Immunoglobulin E) ขึ้นมา ภูมิคุ้มกันที่กระตุ้นให้เกิดการแพ้อาหารอย่าง IgE เนี่ย มันก็เป็นภูมิคุ้มกันที่ต่อต้านอาหารที่เรากินเข้าไป และจะส่งสัญญาณไปกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวผลิตสารฮีสตามีนที่ทำให้เกิดการปฏิกริยาต่าง ๆ ในร่างกายที่สื่อถึงการแพ้อาหาร เช่น ตาบวม คันปาก ลมพิษ หรือเกิดอาการท้องเสียขึ้นมา
ที่เมื่อก่อนเรากินอาหารชนิดนั้นได้ และไม่แพ้ อาจเพราะในช่วงแรกร่างกายยังไม่ได้ถูกกระตุ้นให้ผลิต lgE เท่าไหร่ เม็ดเลือดขาวจึงไม่ผลิตสารฮีสตามีนออกมาในปริมาณเยอะอาการแพ้อาหารจึงไม่ค่อยเด่นชัดเท่าไหร่ อาจมีแค่อ่อนล้า ท้องเสีย ท้องผูก หรือเวียนหัวเล็กน้อย แต่เมื่อเรากินอาหารชนิดนั้นบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ร่างกายจะค่อย ๆ ผลิต lgE เยอะขึ้น ส่งผลให้ฮีสตามีนถูกกระตุ้นในทันทีที่เรากินอาหารชนิดนั้นอีกครั้ง และทำให้เกิดอาการแพ้อาหารที่ชัดเจนและเฉียบพลันขึ้นนั่นเอง
สาเหตุของการแพ้อาหาร
สาเหตุของการแพ้อาหารยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าสามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้
พันธุกรรม : แน่นอนว่าเด็กที่พ่อแม่หรือครอบครัวมีอาการแพ้อาหารมาก่อน ก็จะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพ้อาหารสูงกว่าเด็กทั่วไป
การติดเชื้อ : หากร่างกายได้รับเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสบางอย่างจนทำให้ร่างกายอ่อนแอลง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพ้อาหารมากขึ้น
อาหารที่ปนเปื้อน : ไม่ว่าจะแบคทีเรีย สารเคมี หรือสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้อาหารไม่สะอาด อาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารกระตุ้นการแพ้ออกมาและทำให้เราแพ้อาหารชนิดนั้นได้ชั่วคราวหรือถาวร
อาหารที่มีฮีสตามีนสูง : อาหารที่มีฮีสตามีนสูง เช่น อาหารหมักดอง อาหารแปรรูป ชีสบ่ม อาหารทะเล แมลงบางชนิด และอาหารที่เน่าเสียจากเชื้อจุลินทรีย์อย่างเช่น ไวน์แดงหมดอายุ เนยแข็งหมดอายุ และน้ำปลาที่หมดอายุแล้ว อาหารเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการแพ้อาหารขึ้นได้
แพ้อาหาร มีโอกาสหายมั้ย?
เมื่อเราแพ้อาหารชนิดไหน เราจะแพ้ไปโดยตลอดค่ะ T^T การกินเข้าไปเยอะ ๆ เพื่อที่จะได้ไม่แพ้มัน เราต้องเป็นผู้ชนะ! ถือว่าผิดสุด ๆ เพราะมันอาจสะสมความอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เนื่องจากถ้าเราดื้อที่จะกินไปเรื่อย ๆ อีกหน่อยเราอาจมีอาการแพ้อาหารที่รุนแรงขึ้น แพ้อาหารไวขึ้น แพ้อาหารหลายชนิดมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพ้อาหารอย่างเฉียบพลันได้ อดทนและหลีกเลี่ยงไปเลยถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
ก็จบแล้วนะคะกับเรื่องราวของ อาการแพ้อาหาร บางอาการอาจดูไม่รุนแรง แต่จริง ๆ มันอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการแพ้เท่านั้น หลังทานอาหารหากเกิดอาการถ่ายท้องหลายครั้งติดต่อกัน อาจไม่ได้เพียงแค่ท้องเสียธธรรมดาหรืออาหารเป็นพิษแล้วนะคะ ถ้าเกิดอาการร้อนวูบวาบ มีผื่นหรือปื้นเห่อแดงบนใบหน้าและร่างกายร่วมด้วย แนะนำให้ไปพบหมอใกล้บ้านเพื่อรับการรักษาเพราะอาจเกิดอาการแพ้อาหารก็เป็นไปได้ค่ะะ