ต้องยอมรับเลยค่ะว่า ตอนนี้กระแสการกินคอลลาเจนกำลังมาแรงสุด ๆ เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกแล้ว ยังช่วยป้องกันผิวแก่ได้อีกด้วย แต่ก็มีหลายคนที่ลองกินมาหลายยี่ห้อแล้วก็ยังไม่เห็นผลสักที ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดจากการที่กำลังกินคอลลาเจนแบบผิดวิธีอยู่ก็ได้นะ วันนี้ *Cosmenet เลยถือโอกาสนำความรู้เกี่ยวกับวิธีกินคอลลาเจนที่ถูกต้องให้ได้ผลมาบอกต่อกันแล้วค่าาา
คอลลาเจน คืออะไร?
ก่อนจะไปดูวิธีกินให้ได้ผล เราแวะมาทำความรู้จักกับ “คอลลาเจน” กันก่อนดีกว่าค่ะ คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันส่วนอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังด้วย
5 วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผล
1. กินคอลลาเจนเวลาไหนดีที่สุด
กินคอลลาเจน ตอนไหนดี? ถือเป็นอีกหนึ่งในคำถามยอดฮิต สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกินคอลลาเจนคือ ช่วงท้องว่าง หรือหลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 3-4 ชั่วโมง เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้คอลลาเจนถูกกรดในกระเพาะทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่กินคอลลาเจนแล้วไม่เห็นผลนั่นเองค่ะ
อีกหนึ่งช่วงเวลาที่แนะนำคือ ช่วงก่อนนอน เพราะขณะนอนหลับร่างกายของเราจะดูดซึมคอลลาเจนเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มที่ และยังทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย
2. เลือกรูปแบบการกินคอลลาเจนให้เหมาะสม
ในปัจจุบันมีคอลลาเจนให้เลือกหลายรูปแบบมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น แบบผงชงดื่ม, แบบน้ำ, แบบเม็ด, แบบเคี้ยว และคอลลาเจนกรอกปาก แต่คอลลาเจนที่ดีที่สุด คือ คอลลาเจนแบบผง หรือแบบน้ำ เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซึมเร็วกว่าชนิดเม็ดที่ต้องใช้เวลาในการละลาย 20-30 นาที ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้สาว ๆ ยังควรเลือกกินคอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) ซึ่งมีโมเลกุลขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนทั่วไป จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
3. กินคอลลาเจนคู่กับวิตามินซี
วิธีกินคอลลาเจนให้เห็นผลไวแบบไม่จกตา แนะนำให้กินคอลลาเจนคู่กับวิตามินซี เพราะวิตามินซีมีส่วนช่วยในกระบวนการดูดซึม ส่งผลให้คอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากจะทำให้เห็นผลไวแล้ว ยังช่วยบำรุงแบบดับเบิ้ลให้ผิวเปล่งปลั่งดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ในกรณีที่สาว ๆ เลือกกินคอลลาเจนแบบเม็ด แนะนำให้ดื่มน้ำตามเยอะ ๆ นะคะ เนื่องจากคอลลาเจนต้องการสารละลายเพื่อช่วยในการดูดซึมเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเองค่าา
4. กินคอลลาเจนในปริมาณที่เหมาะสม
กินคอลลาเจนปริมาณเท่าไหร่ดี? อะไรที่มากเกินไป หรือน้อยเกินไปก็อาจจะไม่ดี อย่างเช่นการกินคอลลเจนให้ได้ผลควรกินในปริมาณที่เหมาะสม โดยวิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีควรอยู่ที่ 5,000-7,000 มิลลิกรัม หากน้อยกว่านี้อาจเห็นผลช้า หรือหากมากกว่านี้ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ค่ะ ถ้าไม่มั่นใจจริง ๆ แนะนำให้พลิกหลังกล่องเพื่ออ่านฉลากโภชนาการ โดยดูปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งเป็นปริมาณการกินต่อครั้งที่แนะนำให้ผู้บริโภครับประทาน
5. หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท
ห้ามกินคอลลาเจนกับอะไร? คำถามที่หลายคนสงสัย นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายคนกินคอลลาเจนตัวไหนก็ไม่เห็นผลคือ การรับประทานอาหารบางชนิดที่ไม่สามารถกินคู่กับคอลลาเจนได้ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีอะไรบ้างล่ะก็ รีบตามมาดูกันเลยค่าา
- ผักและผลไม้ฉ่ำน้ำ : อาหารประเภทแรกที่ไม่ควรรับประทานร่วมกับคอลลาเจนคือ ผักและผลไม้ฉ่ำน้ำ เช่น แคนตาลูป, แตงกวา, แตงโม และแตงไทย เป็นต้น เพราะผักและผลไม้ที่มีน้ำมากเหล่านี้ จะกระตุ้นร่างกายขับน้ำส่วนเกินออกมาทางปัสสาวะ ส่งผลให้การดูดซึมคอลลาเจนลดลงนั่นเองค่ะ
- ผลิตภัณฑ์ดีท็อกลำไส้ : อย่างที่รู้กันดีค่ะว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ดีท็อกลำไส้ หรือไฟเบอร์ต่าง ๆ จะช่วยขจัดสารพิษและสิ่งตกค้างในร่างกาย แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะขับสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างคอลลาเจนออกมาด้วย เพราะฉะนั้นหากอยากกินคอลลาเจนให้ได้ผลดี แนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานผลิตภัณฑ์ดีท็อกลำไส้จะดีกว่านะคะ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำไม่เพียงแค่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเราดูดซึมประโยชน์ดี ๆ จากคอลลาเจนได้น้อยลงด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหากินคอลลาเจนแล้วเห็นผลช้า หรืออาจจะไม่เห็นผลเลยก็เป็นได้ค่ะ
ใครไม่อยากเสียเงินฟรีให้กับการกินคอลลาเจน ควรศึกษาวิธีกินคอลลาเจนที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเองค่ะ หรือถ้าสาว ๆ คนไหนยังไม่มั่นใจก็ลองเช็กจาก 5 วิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลที่เรานำมาฝากกันได้เลยน้าา จะได้ไม่พลาด!
หลังจากที่ได้รู้วิธีกินคอลลาเจนที่ถูกต้องกันไปแล้ว หากใครไม่รู้จะเลือกคอลลาเจนยี่ห้อไหนดี? ก็ลองมาอ่านรีวิวคอลลาเจนจาก 10 แบรนด์ดังกันต่อได้เลยค่าา