อาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดีกว่ากัน? หลายคนชอบอาบน้ำอุ่นเป็นชีวิตจิตใจ เพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าที่เจอมาทั้งวัน แต่ในขณะเดียวกันบางคนก็ชอบการอาบน้ำเย็น โดยให้เหตุผลว่าช่วยให้ร่างกายสดชื่นกะปรี้กะเปร่า วันนี้ Cosmenet* เลยจะพาทุกคนมาหาคำตอบกันว่าอาบน้ำอุ่นหรืออาบน้ำเย็น แบบไหนดีกว่ากัน? พร้อมมีวิธีอาบน้ำหน้าหนาวแบบไม่ทรมานมาแนะนำกันค่าา~
ข้อดี – ข้อเสียของการอาบน้ำอุ่น
ข้อดีของการอาบน้ำอุ่น
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบบริเวณกล้ามเนื้อได้
- ช่วยลดอาการบวมของร่างกายในส่วนต่าง ๆ ที่มาสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย
- ช่วยขยายหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- การอาบน้ำอุ่นช่วยให้หลับสบายมากกว่าการอาบน้ำเย็น
- การอาบน้ำอุ่นจะทำให้รูขุมขนเปิด ทำให้สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก
- การอาบน้ำอุ่นในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือนจะช่วยลดอาการปวดท้อง และลดอาการเกร็งช่องท้องได้
ข้อเสียของการอาบน้ำอุ่น
- การแช่ หรืออาบน้ำอุ่นนานจนเกินไป อาจทำให้น้ำมันธรรมชาติของผิวถูกชำระล้างออกไปด้วย ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน และขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย
- การอาบน้ำอุ่นในช่วงเช้า อาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า ง่วงซึม และไม่กะปรี้กะเปร่า
- การอาบน้ำอุ่นจึงอาจทำให้รู้สึกคันได้ เนื่องจากความร้อนจะทำให้เซลล์ที่ทำหน้าที่คุ้มกันร่างกายปล่อยสารฮีสตามีนออกมา
- การอาบน้ำอุ่นอาจทำให้อาการของโรคผิวหนังแย่ลงได้
- การอาบน้ำอุ่นอาจทำให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องความดันเลือดสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจ
อาบน้ำอุ่นแล้วรู้สึกผิวแห้งกร้าน เพื่อน ๆ อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวนะคะ
ข้อดี – ข้อเสียของการอาบน้ำเย็น
ข้อดีของการอาบน้ำเย็น
- การอาบน้ำเย็นจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว และกะปรี้กะเปร่า
- การอาบน้ำเย็นหลังออกกำลังกายจะช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง จึงมีส่วนช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายได้นั่นเองค่ะ
- ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมันสะสมในร่างกาย
- การอาบน้ำเย็นเป็นประจำอาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและระบบประสาทของเราให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ข้อเสียของการอาบน้ำเย็น
- หากอยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจัด การอาบน้ำเย็นอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำลง ส่งผลให้รู้สึกหนาวเย็นกว่าเดิม และต้องใช้เวลานานกว่าร่างกายจะกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง
- การอาบน้ำเย็นในสภาพอากาศที่เย็นจัด อาจทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดผิดปกติ อุณหภูมิร่างกายลดลงรวดเร็ว และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นช็อคหมดสติได้
อาบน้ำอุ่นหรืออาบน้ำเย็น แบบไหนดีกว่ากัน?
อาบน้ำอุ่นและอาบน้ำเย็นมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ควรเลือกให้เหมาะกับตัวเองมากที่ โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น สภาพอากาศ และสภาพร่างกายในขณะนั้น หากใครกำลังมองหาวิธีอาบน้ำที่ดีต่อสุขภาพอยู่ละก็ เราก็ไม่พลาดมีเคล็ลับดี ๆ มาแนะนำ
• ตอนเช้า : หลังจากตื่นนอนตอนเช้า แนะนำให้เลือกอาบน้ำเย็นเพื่อปลุกร่างกายให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า
• ตอนเย็น : ในช่วงตอนเย็น หรือก่อนนอน แนะนำให้เลือกอาบน้ำอุ่น เพื่อคลายความเครียดและกล้ามเนื้อ ช่วยให้รู้สึกสบาย และนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น
วิธีอาบน้ำหน้าหนาวแบบไม่ทรมาน
การอาบน้ำในช่วงหน้าหนาวไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกทรมานเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อภาวะช็อกจากอุณหภูมิเย็นจัด (Cold Shock) ที่เกิดจากร่างกายสัมผัสกับน้ำ หรืออุณหภูมิที่เย็นจัดเฉียบพลัน โดยไม่ได้เตรียมตัว ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติจึงตอบสนองอย่างฉับพลัน ส่งผลให้หมดสติ และอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเย็นจัด โดยเฉพาะช่วงเที่ยงคืนที่อากาศมีอุณหภูมิต่ำสุดของวัน
- ค่อย ๆ ใช้น้ำลูบตัว หรือราดตัว โดยเริ่มจากเท้า ขา และแขน เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและเคยชินกับน้ำเย็น
- ควรใช้เวลาอาบน้ำให้เสร็จภายใน 10-15 นาที และไม่ควรเกิน 30 นาที
- หลังอาบน้ำเสร็จ ควรรีบเช็ดตัวให้แห้งโดยเร็ว และสวมใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เพื่อทำร่างกายให้อบอุ่นเร็วที่สุด
- หากมีโรคประจำตัว หรือเป็นผู้สูงอายุ ควรอาบน้ำอุณหภูมิอุ่น หรือใช้วิธีเช็ดตัวแทนการอาบน้ำ
สำหรับใครที่รู้สึกทรมานทุกครั้งที่อาบน้ำในช่วงหน้าหนาวก็สามารถนำวิธีอาบน้ำหน้าหนาวแบบไม่ทรมานไปปรับใช้กันได้เลยนะคะ นอกจากจะช่วยลดความทรมานแล้ว ยังช่วยป้องกันภาวะช็อกจากอุณหภูมิเย็นจัด (Cold Shock) ได้อีกด้วยน้าา~
-----------------------
*Cosmenet Smart Beauty รีวิวดีบอกต่อ
-----------------------
อ่านคอนเทนต์การบำรุงผิวอื่น ๆ เพิ่มเติม