เลิฟสิ่งนี้มากค่ะ! หลังจากลองใช้มาพักนึง รู้สึกผิวนุ่มขึ้นจริงๆ ยิ่งใช้ร่วมกับโลชั่นสูตรไนอาซินาไมด์ยิ่งรู้สึกผิวดีแบบจึ้งใจ 💜 เอาจริงชอบตั้งแต่กดเนื้อออกมาแล้วมีชิมเมอร์วิ๊งๆ ใจบางงง 💜 ฟีลลิ่งตอนอาบก็ดีมากค่ะ หอมผ่อนคลาย ล้างออกง่าย ผิวไม่แห้งตึง ซ้ำแน่นอนค้าบบ

ประทับใจอย่างแรกเลยคือแพคเกจจิ้ง ตลับสวยมากๆค่า น่ารักปุ๊กปิ๊ก มินิมอลมินิใจ 🤍 เปิดมาด้านในมีถาดแยกพัฟให้ด้วย ในส่วนของเนื้อ ชอบเหมือนกันค่ะ เป็นเนื้อแบบนุ่มๆ ปาดแล้วเนียนฟรื้บบบ! ปกติเราใช้แป้ง/รองพื้นเบอร์แรกตลอด รอบนี้เลือกเป็น 02 มา ติดเหลืองนิดหน่อยแต่ไม่หมอง & สีไม่ดรอประหว่างวัน (ส่วนตัวใช้แค่ตอนเช้า ไม่ได้ใช้ทัชอัพระหว่างวันนะคะ) รู้สึกว่าให้ฟินิชผิวที่สวย ไม่แมตต์จนแคร็ก ไม่ได้คุมมันขนาดนั้นสำหรับเรา แต่ผิวยังดูเป็นผิวอยู่ค่ะ ขอหักคะแนนแพคเกจจิ้งนิดหน่อยในส่วนของการใช้งาน ถึงมันจะน่ารักแต่พอใช้จริงรู้สึกเปิดตลับยากมากเพราะช่องมันเล็กกว่าเล็บ & ถาดพัฟไม่มีติ่งโค้งเว้าช่วยเวลาเปิด ต้องแงะๆเอา รู้สึกไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ค่ะ

สมชื่อ Oil in Bath ค่ะ หลังอาบผิวชุ่มชื้นกว่าสบู่ทั่วไปจนรู้สึกได้เลย กลิ่นหอมมากด้วย หอมติดผิวเลยค่ะ ฟีลลิ่งตอนอาบเหมือนสบู่ปกติเลย ไม่ได้เป็นออยๆ ฟองเยอะนุ่มฟู ล้างออกง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ ได้มาลองเป็นสีชมพู ประทับใจ เดี๋ยวจะเอาสีอื่นมาลองใช้เพิ่มด้วยค่า

ใช้มาประมาณ 1 สัปดาห์ ยังไม่เห็นผลชัดเจนเรื่องความขาวนะคะ แต่ฟีลลิ่งตอนแปรงดีมากๆ น้องกลิ่นหอมมาก ฟองโฟมนุ่มฟูเต็มปาก แล้วที่สำคัญคือตอนแปรงจะรู้สึกอุ่น เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ของการแปรงฟันมากๆค่ะ

สมชื่อ Watery Essence จริงๆเลยค่ะ เนื้อ watery เกลี่ยง่ายมากๆ เวลาลงผิวแล้วจะรู้สึกว่าเย็นๆสบายผิว เนื้อเป็นแบบใสๆ ให้ฟีลลิ่งสบายผิว ไม่เปลี่ยนสีผิว วันที่ไม่แต่งหน้าก็ทาได้ค่ะ (แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องปกปิดหรือคุมมันน๊า) สาวๆที่แต่งหน้าถ้าวันไหนอยากใช้เมคอัพเบสแบบจริงจัง ใช้กันแดดตัวนี้ก็ทำให้รู้สึกเบาสบายกว่ากันแดดเนื้อหนักๆได้ค่ะ ส่วนตัวเราคงหยิบมาใช้กับวันที่ไม่แต่งหน้า ไม่ก็วันที่แต่งหน้าแบบต้องการลงรองพื้น+เบสแบบจริงจังไปเลย ส่วนวันไหนแต่งเบาๆจะเลือกใช้กันแดดผสมเมคอัพเบสแทนค่า

เนื้อสัมผัส :: เนื้อเซรั่มใส ไม่หนักหน้า กลิ่นเลมอนจางๆ เกลี่ยง่าย ซึมค่อนข้างไว ไม่เหนียวเหนอะนะ ผลลัพธ์ :: ใช้มาประมาณ 1 สัปดาห์ ไม่เห็นผลชัดเจนทั้งเรื่องความกระจ่างใสและความชุ่มชื้น มีสิวผดขึ้นเล็กน้อยหลังใช้ (ไม่แน่ใจว่าเกิดจากตัวผลิตภัณฑ์หรือปัจจัยอื่นๆ) แพคเกจจิ้ง :: แยกเป็นแคปซูล 12 แคป ใช้ได้ 6 วัน เช้า-เย็น แต่เนื้อเซรั่มค่อนข้างเยอะ แคปนึงใช้ได้ประมาณ 2 ครั้ง มีข้อเสียตรงที่ด้านหน้าเป็นพลาสติกแข็ง บีบยาก ทำให้มีเนื้อเซรั่มติดอยู่ด้านในเยอะ บีบออกมาไม่หมด เสียทิ้งเฉยๆ อยากให้ปรับปรุงให้บีบง่ายขึ้นกว่านี้ค่ะ

แผ่นลอกสิวเสี้ยนบีโอเร ใช้ง่าย แห้งไว พกพาสะดวก 1 กล่องมี 10 แผ่น แยกแพคเกจกันเป็นซองๆ ใช้มาตั้งแต่เด็กๆ ปัจจุบันก็ยังชอบใช้อยู่ค่ะ หลังใช้รู้สึกว่ารูขุมขนสะอาดมาก สิวเสี้ยนหลุดออกมาแบบถอนรากถอนโคนเลยค่ะ จริงๆปัจจุบันลอกสิวเสี้ยนเราจะใช้แบบโคลนพอกบ้าง แบบแผ่นแบบนี้บ้าง สลับกันไป ข้อดีข้อเสียต่างกันค่ะ แบบแผ่นแบบนี้อาจจะไม่ได้เข้าได้ทุกซอกทุกมุมเหมือนโคลนพอก แต่สะดวกกว่า มือไม่เลอะ แห้งเร็ว แล้วก็เก็บจุดหลักๆได้หมดเหลือแค่ตามซอกเล็กๆค่ะ

เป็นสกินแคร์อีกตัวที่ชอบมากๆค่ะ ไม่มีน้ำหอมและอ่อนโยนตามสไตล์ Cetaphil เลย แต่ก็บำรุงผิวได้ดี ตัวเดย์ครีมเนื้อจะขุ่นกว่าหน่อยเพราะมีส่วนผสมของกันแดด แล้วก็มีกลิ่นกันแดดนิดนึง เวลาทาแล้วจะรู้สึกเนียนผิวเหมือนไพรม์เมอร์เบลอรูขุมขนไปในตัว เวลาลงรองพื้นหรือบีๆไม่ต้องใช้เยอะก็รู้สึกว่าหน้าเนียนแล้วค่ะ ส่วนตัว Night Cream ก็ดีงามไม่แพ้กัน ทาก่อนนอน พอตื่นมารู้สึกผิวหน้าชุ่มชื้นและเฟรชมากๆเลยค่า — หมดนี่น่าจะมีซื้อใช้ต่อยาวๆค่ะ ประทับใจ

เป็นแป้งผสมรองพื้นอีกตัวที่เลิฟเลยค่ะ ตอนนี้ให้เป็นอันดับ 1 ในใจ คู่มากับตัว Cutepress สีม่วงที่ดังอยู่ช่วงนึง ตัว BSP Lock it Fit ส่วนตัวเราชอบใช้แปรงลงมากกว่าใช้พัฟค่ะ เพราะใช้พัฟแล้วรู้สึกเนื้อหนาไปหน่อย แต่พอใช้แปรงลงเซ็ตหน้าหลัง BB คือแน่น คุมมัน เป๊ะทั้งวัน ไม่มีดรอปเลยค่ะ (อาจจะมีมันตรงทีโซนเล็กน้อย แต่ไม่เมือกค่ะ) -- เราใช้เบอร์ C1 นะคะ พอดีกับผิวเลย เลิฟมากๆ ตัวตลับทำมาได้ดีพอสมควร มีชั้นแยกสำหรับเก็บพัฟต่างหากซ้อนไว้ด้านล่างของเนื้อแป้ง และมีรูระบายอากาศป้องกันพัฟอับชื้น แต่จุดนี้ก็จะทำให้ไม่เหมาะกับการพกพาเท่าไหร่ เพราะอาจจะมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเล็ดลอดเข้าไปได้ง่ายค่ะ

คลีนซิ่งสูตรน้ำสีชมพูอ่อนๆ หอมกลิ่นดอกกุหลาบเบาๆ ให้ความรู้สึกละมุนๆเวลาใช้งาน แต่เรื่องทำความสะอาดขอหักคะแนนนะคะ เพราะรู้สึกว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวก Eye & Lip Make Up แบบกันน้ำค่ะ สำหรับการใช้งาน ใช้กับผิวหน้าช่วงแก้มและทีโซนได้ แต่ Eye&Lip Make Up ควรแยกใช้ตัวเฉพาะ เพราะเจ้าตัวนี้จะลบไม่ค่อยออก แล้วเวลาใช้เช็ด Eye Make Up ยังมีความระคายเคืองอยู่เล็กน้อยทำให้รู้สึกไม่สบายตาค่ะ ส่วนลิปถ้าจะเช็ดให้ออกต้องใช้แรงพอสมควร -- ส่วนตัว ถ้าเป็น Eye&Lip เราชอบใช้สูตรที่มี Oil ผสมนะคะ รู้สึกว่าทำความสะอาดได้หมดจดกว่าแล้วก็ไม่ทำให้ระคายเคืองด้วยค่ะ จากภาพเราลอง test กับลิป (เนื้อแมท แบบจิ้มจุ่ม ทั้งแมทธรรมดา (4 ดวงล่าง) และแมทพิเศษไม่ติด mask (2 ดวงบน)) บลัชออน มาสคาร่าตา-คิ้ว ที่เขียนคิ้วทั้งแบบเมจิกและดินสอ และอายไลน์เนอร์ทั้งแบบเมจิกและดินสอ -- swipe ครั้งแรกจะเห็นได้ชัดเลยว่ารอยต่างๆยังอยู่แบบชัดเจน เกือบทุกอันทั้ๆงที่กดน้ำหนักแรงพอสมควร รอบสองปาดซ้ำ กดน้ำหนักเยอะอยู่เหมือนกันก็ยังออกมาไม่หมด รูปสุดท้าย ถูวนๆๆๆก็ยังมีรอยลิปอยู่จางๆ และอายไลน์เนอร์แบบดินสอที่ยังเข้มอยู่เลยค่ะ

เนื้อใสๆ ไม่มีกลิ่น ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์จะไหลตัวได้ค่อนข้างดี ลักษณะเป็นของเหลวมากกว่าเจลค่ะ ทดลองใช้งานแล้วรู้สึกว่าช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น และได้ลองใช้ตรงจุดที่ผิวมีรอยแดงตรงบริเวณแก้ม ก็รู้สึกว่าช่วยลดรอยแดงได้ค่อนข้างดีค่ะ หลังสครับผิว บริเวณไหนที่รู้สึกว่าผิวบอบบางเป็นพิเศษหรือเกิดสิวได้ง่าย เราก็จะทาตัวนี้ลงไป รู้สึกว่าลดรอยแดงหลังการสครับลงได้เยอะทีเดียวค่ะ

Body Lotion สำหรับสาวๆเนื้อหอมค่า -- ทาแล้วหอมมมมติดผิวเลย!! กลิ่นที่เราลองเป็นกลิ่น Fly Me Away จะเป็นฟีล Fruity-Floral เปรี้ยวอมหวาน ดมแล้วชวนให้นึกถึง Line น้ำหอมของ Victoria Secret ค่ะ ทาแล้วรู้สึกผิวหอมมาก ตกบ่ายยกแขนมาดมยังได้กลิ่นหอมๆอยู่ 555 ให้ 5 ดาวไม่หัก เพราะ Product นางดี แต่เอาจริงๆเราไม่ได้ใช้ทุกวันค่า เพราะน้ำหอมที่ใช้อยู่จะเป็นแนว Floral ซะมากกว่า หรือบางตัวที่เด็กหน่อยก็จะเป็นฟีลขนมๆไปเลย เจ้าโลชั่น Malissa Kiss นี่ก็เลยจะหยิบมาใช้ในวันสบายๆที่ไม่ได้ฉีดน้ำหอมค่ะ -- ไว้ถ้ามีโอกาสจะลองไปดมกลิ่นอื่นมาเพิ่มดู ถ้ากลิ่นโลชั่นเข้ากับน้ำหอมแล้วใช้ด้วยกันน่าจะดีค่ะ