BSC BIO PERFECT Color Lip 3 สี 3 เนื้อ 3 ลุค - สี R4 (Matte) - สีแดงอมน้ำตาลตุ่นๆ เนื้อแมทแต่ไม่แห้งมาก สีชัด กลบสีปากมิด เกลี่ยขอบแล้วนัวสวยมากๆ ใช้เบลนกับสีอื่นๆตรงกลางปากก็สวย - สี P8 (Drench) - สีชมพูแบบชมพู๊ชมพู เนื้อประกายเงา เล่นแสงสุดๆ แต่ยังไม่เหมือนทากลอส ไม่เหนอะนะ ส่วนตัวคิดว่าสีนี้ติดทนน้อยที่สุด เนื้อนุ่ม สีสดใสมากกก - สี N1 (Shimmer) - ส่วนตัวเราชอบสีนี้มากๆ นู๊ดผู้ดี ไม่เงามาก ไม่แมทมาก ยังเล่นแสงอยู่ วาวแบบระเรื่อๆ เบาสบายปากสุดๆ ทั้งสามสีนี้ ส่วนตัวเราคิดว่าน้องไม่ค่อยติดทน ซึ่งก็ตามเนื้อของผลิตภัณฑ์ แต่สามารถเติมลิปทับได้ไม่ทำให้ลิปเดิมเป็นขุย ใช้กับลิปอื่นๆได้ เราชอบเบลนด์ N1+R4 เนื้อสองสีนี้ผสมกันแล้วสวยมากก ในส่วนของแพคเกจจิ้ง น้องมาในแท่งสีดำเงา ด้านในมีสลัก bsc สวยหรูดูแพง สีตรงปกกับชื่อสีเลยค่ะ

Eucerin Pro Acne Solution SOS Serum เซรั่มคุมสิว ลดการอักเสบ ลดการสะสมเชื้อสิว ลดความมัน ประกอบไปด้วยสารที่ทางยูเซอรีนใส่มาเพื่อลดการอักเสบ ลดเชื้อสิว ลดความมันบนผิว เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อครีมสีขาวเหลือง ซึมไว ผิวไม่ลอกเป็นขุยหลังใช้ กลิ่นมีความเป็นยานิดหน่อย หลังการใช้งาน เราลองใช้ติดต่อกันประมาณ 10 วัน ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดมากๆเลยคือสิวยุบไวมากๆ ใช้เวลา 4-5 วันก็ยุบแล้ว หรือถ้าเม็ดใหญ่ๆหน่อยก็จะแห้งไป ไม่แพ้ ไม่ลอก ไม่แสบ ไม่ยุบยิบ ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ แม้จะไม่ใช่ยาแต้มสิวโดยตรง นอกจากนั้นสิ่งที่เราชอบมากๆเลยคือ สามารถทาบางๆทั้งหน้าได้โดยที่ไม่ระคายเคือง และยังรู้สึกชุ่มชื้นอยู่ได้ และช่วยผลัดผิวอ่อนๆด้วยส่วนผสมที่เค้าใส่มา ส่วนตัวเราผิวแห้ง แนะนำให้ทาผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ให้ความชุ่มชื้นเพิ่มเข้าไปด้วยเพื่อช่วยลดการระคายเคืองผิวได้ค่ะ

Clinique iD Dramatically Different™ Hydrating Clearing Jelly + Active Cartridge Concentrate สูตรสีแดง เริ่มที่ตัว Hydrating Clearing Jelly กันก่อนค่ะ ตัวนี้จะเป็นเนื้อเจลสีฟ้า ที่มีส่วนผสมหลักเป็น BHA ซึ่งจะช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวของเราได้ และมี lactic acid ผสมที่ช่วยทำงานร่วมกัน เหมาะกับผิวที่อุดตัน ไม่เรียบ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ใช้ง่าย ซึมไวมากๆ ส่วนตัวบูสเตอร์สีแดง ตัวนี้เป็นสูตร imperfection ตัวใหม่ของทาง clinique ซึ่งส่วนผสมตัวนี้ก็เป็น BHA ผสมกับ Glycolic acid, Lactic Acid และ zinc คล้ายๆกับตัวเจล สามารถช่วยลดความมันบนผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ลดสิวอุดตันต่างๆได้ เนื้อผลิตภัณฑ์: ต้วเบสเค้าจะเป็นเจลสีฟ้า ผสมกับบูสเตอร์สีแดง พอปั๊มออกมาน้องจะมีสองสีเลยค่ะ แต่ทาง clinique เค้าคิดมาแล้ว ตัวบูสเตอร์ตอนปั๊มเนี่ยจะมีแค่ 10% ที่เหลืออีก 90% จะเป็นตัวเจลสีฟ้า ทำให้สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวไม่ได้มากเกินไปนัก สามารถใช้ได้แบบสบายใจ น้องไม่มีสีนะคะ พอทาแล้วซึมเร็วมากๆ ด้วยความที่เค้าเป็นแบบเจลใส สามารถใช้เช้าเย็นได้ ก่อนแต่งหน้าก็ได้ เค้าไม่ทำให้เมคอัพเราเพี้ยนเลย กลิ่นน้องโอเคมากๆค่ะ ส่วนตัวไม่ติดอะไรเลย แทบไม่ได้กลิ่นด้วยซ้ำ ในส่วนของผลลัพธ์การใช้ ด้วยความที่เราใช้คู่กับโทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิว เราว่าเค้าบูสต์กันได้ค่อนข้างดีค่ะ ก่อนใช้เรามีสิวอุดตันขึ้นจากประจำเดือน พอใช้มาจนถึงวันนี้ก็ 10 วันพอดี เราว่าเค้าทำให้สิวอุดตันลดลง รอยแดงข้างแก้มจางลงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ชัดมาก ผิวชุ่มชื้นขึ้นจริงๆ อันนี้ปังมากค่ะ ชอบ ส่วนเรื่องผลัดผิว กระจ่างใส อันนี้เราว่าขาวขึ้นนิ้ดดดดเดียวค่ะ แพคเกจ: ถ้าซื้อแยกมา ตอนแรกจะเป็นขวดเจลปิดฝา กับหลอดบูสเตอร์ที่มีหัวปั๊ม พอประกอบร่างน้องนางแล้วเนี่ย ก็จะเป็นขวดใสเห็นเจลสีฟ้า กับหัวปั๊มที่มี 2 รูสำหรับส่วนเจลกับบูสเตอร์ค่ะ ในส่วนของราคา Clinique iD Hydrating Clearing Jelly 115 ml 1,500 บาท + Clinique iD Booster for imperfections 10 ml 400 บาท ส่วนตัวเราว่าราคาน้องค่อนข้างแรงเทียบกับปริมาณนะ แต่ด้วยความพรีเมี่ยม เลือกบูสเตอร์ได้ เลือกเบสได้ รวมไปถึงตัวแบรนด์ กับผลลัพธ์ที่ได้ เราว่าคุ้มค่ะ ซื้อต่อ!

Clarifying Lotion Twice A Day Exfoliator ตัวนี้เราได้เป็นสูตร 2.0 มา ซึ่งจะเหมาะกับผิวผสมค่อนข้างแห้ง ตัวนี้จะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ ไม่แนะนำเลยสำหรับคนที่แพ้แอลนะคะ ข้ามน้องไปเดี๋ยวนี้ ทันที น้องแอลชัดมากกกค่ะ คุณสมบัติหลักๆคือเป็นโทนเนอร์ ใช้ในการผลัดเซลล์ผิว และเตรียมผิวให้พร้อมกับขั้นตอนต่อไป เนื้อผลิตภัณฑ์: ตัวนี้เป็นเนื้อน้ำใส สีนอกขวดจะม่วงอ่อนๆดูน่ารัก พอเทออกมาน้องเป็นสีใสปกติเลย แต่แอลกอฮอล์แรงมากค่ะ ใส่มาค่อนข้างเยอะเลย หลังเราทดลองใช้ ส่วนตัวเราไม่ค่อยว้าวกับตัวนี้เท่าไหร่ ด้วยความที่เค้าแอลเยอะ แล้วช่วงนี้อากาศค่อนข้างหนาว ทำให้ผิวเราแห้งกว่าปกติและรอบจมูกเราลอก พอเช็ดด้วยตัวนี้หลังล้างหน้า น้องยังทำให้รู้สึกแสบเล็กๆกับความแอลมาโดนผิวที่แห้งลอกค่ะ แต่สักพักก็หาย และไม่แพ้เลย ส่วนที่ค่อนข้างชอบคือ ตัวนี้ทำให้ผิวเราไม่ได้แห้งเพิ่มหลังเช็ด ยังพอมีเคลือบๆผิวอยู่ ในส่วนของการผลัดเซลล์ผิว ส่วนนี้เราไม่ค่อยเห็นผลค่ะ หน้าเรายังเหมือนเดิมทั้งหมด อาจจะขาวขึ้นแต่ว่าก็ไม่ได้ชัดขนาดนั้นค่ะ แต่ในเรื่องความชุ่มชื้น อันนี้เราให้ ถึงแม้น้องเค้าจะแอลเยอะ แต่ยังเห็นได้ชัดว่าช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ เราลองไม่ใช้หลังล้างหน้าแล้ว ผลคือหน้าเราแห้งแบบ i feel it เลยค่ะ ส่วนแพคเกจ อันนี้เราให้ความสวยน่ารัก วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วดูดี ตัวขวดจะเป็นขวดพลาสติกค่อนข้างแข็ง ฝาสูง ไม่มีที่กั้นระหว่างฝากับผลิตภัณฑ์นะคะ อย่าเผลอทำน้องตกเชียวค่ะ อาจจะแตกได้ ตัวขวดมีน้ำหนักหน่อยนะคะ แต่ปากขวดพอดีกับการคว่ำลงสำลีมากๆ แบบว่าสามทีเต็มพอดีไม่ขาดไม่เกิน ราคา 1550 บาท 400ml นะคะ ส่วนตัวว่าคุ้มค่า สมราคา แพงแต่ใช้ได้นานจุกๆแน่นอนค่ะ

ได้น้องมาลองจากกิจกรรมสักพักแล้วแต่ว่าเพิ่งได้ถ่ายรีวิวจริงๆจังๆสักที หลังแพ้มาส์กหน้าเห่อแดงไปหมด เลยได้ทีลองเจ้า Cetaphil Bright Healthy Radiance Brightening Night Comfort Cream กับ Cetaphil Bright Healthy Radiance Brightening Day Protection Cream ไปกับหน้าที่ยังมีอาการแพ้ด้วยเลย ส่วนตัวเราเป็นแฟนเจลล้างหน้าของ Cetaphil อยู่แล้ว เคยใช้สมัยวัยละอ่อนที่สิวขึ้นบ่อยๆ จุดเด่นหลักๆของแบรนด์นี้เค้าก็ทำมาเพื่อชาวเรา ชาวผิวแพ้ง่าย บอบบาง โดยน้องสองคนนี้เค้ามีเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ ซึ่งก็คือ GentleBright Technology ที่สร้างมาเพื่อช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ แล้วน้องเค้ายังผสม Niacinamide ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำเพิ่มมาอีก ยังไม่พอ น้องคนนี้ใส่ Sea Daffodil มาช่วยยับยั้งการผลิตเมลานินใต้ชั้นผิว ซึ่งเมลานินเนี่ย คือเซลล์สีผิวที่ทำให้ผิวเราสีเปลี่ยนไป ทีนี้ ตัวนี้เลยช่วยลดการเกิดจุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใสสม่ำเสมอทั่วกัน ถ้าอ่านรวมๆแล้ว คำเคลมคือการทริเปิลการลดจุดด่างดำนั่นแหละ จากส่วนประกอบหลัก ทีนี้เค้าก็จะมีครีมสำหรับสองช่วงเวล อันแรกคือ Day Cream ตัวนี้เค้ามี SPF 15 มาให้ด้วย เอาง่ายๆก็คือทากัน UV ในบ้านชิวๆวันอยู่บ้านได้สบายๆ แต่ถ้าจะออกนอกบ้านอันนี้เราไม่แนะนำให้ทาเดี่ยวๆ เพราะ SPF แค่นี้ก็คงไม่พอสำหรับแดดอันร้อนแผดเผาแบบบ้านเรา ตัวต่อมาเป็น Night Cream ตัวนี้เราอยากให้ทุกคนได้ลองมากๆ น้องชุ่มชื้นมากกก ซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะเหนียวหมอนเลยแม้แต่น้อย แถมใช้สองตัวคู่กันก็เห็นผลค่อนข้างชัดด้วย เนื้อผลิตภัณฑ์: Day Cream- ตัวนี้เค้าจะเป็นเนื้อครีมเข้มข้นมากๆ สีขาว กลิ่นแบบครีมกันแดดเลย แต่เค้ามิกซ์มาได้ดี เกลี่ยแล้วไม่ขาววอก(ช่วงแรกๆอาจจะขาวตกใจ แต่พอซึมคือเป็นสีปกติของผิวเราเลย) แต่งหน้าทับต่อได้สบายๆ ไม่หนักหน้า ไม่แสบเวลาโดนแดด แต่อาจจะติดเรื่องกลิ่นกันแดดนิดนึงเพราะกลิ่นลอยเข้าจมูกตลอดเวลาเลย Night Cream- ตัวนี้เป็นครีมเนื้อเข้มข้นน้อยกว่าตัวเดย์ แต่ยังอยู่ในจุดเข้มข้นอยู่ เนื้อครีมชุ่มชื้นมากๆ ทาแล้วจะรู้สึกฉ่ำๆ เงาๆ ซึมเร็ว ไม่มีสี เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะเลย ความชุ่มชื้นดีมากๆ แพคเกจ: ในจุดนี้ ที่เราลองใช้และรีวิวจะเป็น sample แบบซองๆนะคะ ส่วนของจริงที่ขายคือในภาพที่เราแนบไว้เลย น้องจะมาในกระปุกหมุนมีฝาปิด ส่วนตัวเราชอบแพคเกจแบบนี้ ควักง่ายไม่เสียเวลาดี ผลลัพธ์หลังการใช้งาน: อย่างที่เราบอกไปตอนต้นๆว่าเราใช้อันนี้ แล้วเราก็แพ้มาส์กที่ใส่ออกนอกบ้านพอดี เลยได้โอกาสลองไปทั้งๆที่แพ้นั่นแหละ (มารีวิวช้า หน้าน้องแพ้อยู่ค้าบ) ทีนี้ จะบอกว่าน้องดีมากๆๆๆ โดยเฉพาะตัว night cream คือตื่นมาแล้วอาการเห่อแดงเราลดลงแบบเห็นได้ชัดเลย ส่วนตัว day อันนี้เรายังไม่ค่อยถูกใจเค้าในเรื่องกลิ่น กลิ่นเค้าลอยเข้าจมูกทุกๆ 2 วินาที แต่ก็เข้าใจว่าใส่ตัวกันแดดมาแบบไม่ผสมน้ำหอมก็อย่างงี้ ใดๆคือสองตัวนี้ไม่ทำให้เราแพ้เพิ่ม ผื่นแดงที่แพ้มาส์กยังคงมีแค่จุดเดิมที่แพ้ แถมยังเห่อแดงน้อยลงด้วย คอนเฟิร์มเลยว่าผิวแพ้ง่ายใช้ได้จริงๆ .. ในส่วนของจุดด่างดำ อันนี้เราเพิ่งมาเห็นจากรูปรีวิวเราว่ามันก็ลดไปเยอะเลย ประทับใจค่ะ ตัวนี้น่าจะมีส่วนช่วยลดได้จริงๆ ขนาดยังไม่ถึง 4 วีคที่เคลมไว้ด้วย สรุปสุดท้าย น้องดีมากกกก ส่วนตัวเราชอบตัวไนท์มากกว่าเดย์ กลิ่นน้องเดย์แน่นไปหน่อยค่ะ แล้วน้องก็ลดจุดด่างดำได้จริงๆ ความกระจ่างใสอันนี้เราไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้น กลายเป็นไนท์ครีมในใจเราไปแล้ว ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ค่ะ สิวไม่ขึ้นเพิ่ม ใครสนใจก็ตามไปตำได้ที่ watsons เท่านั้นนะคะ ราคาไม่ถูกไม่แรง 1350 บาท 50 กรัมคับ!!

หลังได้เจ้าน้อง Clean&Clear Acne Cleanser มาใช้ได้สักพัก รู้สึกคิดถึงตอนเด็กมากกก เป็นแบรนด์โฟมล้างหน้าที่ใช้แบรนด์แรกๆเลย ตัวนี้เป็นสูตรปราบสิว มีส่วนผสมที่ช่วยลดสิวตัวเด่นๆอยู่ด้วย แพคเกจเป็นหลอดบีบอ้วนกลม ขนาดกำลังดี บีบง่าย รูบีบไม่ใหญ่เกินไป เนื้อเจลใส เหลวพอสมควร ผสมน้ำนิดหน่อยจะได้ฟองอ่อนๆ กลิ่นแบบยูคาลิปตัสหน่อยๆ คิดว่าใครแพ้น้ำหอมให้ข้ามไปก่อน หลังใช้ได้วีคกว่าๆ ส่วนตัวไม่เห็นผลเรื่องสิวเท่าไหร่ แต่หน้าใสขึ้น ไม่แพ้ ไม่เอี๊ยด ล้างออกง่าย ส่วนตัวเราว่าตัวนี้ตอบโจทย์คนอยากได้โฟมล้างหน้าราคาประหนัด ถูกและดี ใช้ง่าน สะดวก ล้างสะอาด ราคาไม่แพงมากๆ หาซื้อง่ายด้วย จัดว่าโอเคเลยค่ะ

ปกติเป็นคนสิวขึ้นน้อยมากกก อันนี้สิวขึ้นมาช่วงประจำเดือนพอดี เลยได้โอกาสลองใช้ Mentholatum Acnes Sealing Jell เอาจริงๆเลยคือประทับใจมากกกก เปิดกล่องมาแล้วว้าว ไซส์ใหญ่กว่าเจลแต้มสิวทั่วไปมากๆ ยาวเท่าฝ่ามือเลย เป็น 18 g ที่ดูจะใช้ไม่น่าหมดไวแน่ๆ แพคเกจเป็นหลอดสีขาว ปลายเรียวเล็ก ทำให้ปริมาณผลิตภัณฑ์ไหลได้แบบพอเหมาะพอเจาะมากๆ บีบออกมาก็ทั่วสิวแล้ว เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเจล สีขาวขุ่นๆ ทาแล้วซึมเข้าผิว(สิว)ทันที กลิ่นไม่หอมแต่ก็ไม่ฉุน เป็นกลิ่นเจลแต้มสิวตามสไตล์เมโทลาทัมเลย ผลลัพธ์ที่ได้คือตามภาพ เราใช้เวลาประมาณ 5 วัน ทาเฉพาะก่อนนอนตอนกลางคืน ไม่ได้ทาตัวช่วยเสริมอย่างอื่นเลย ผิวหลังใช้ไม่ลอก ไม่แห้ง ไม่ขุย ปกติมากๆ ตอนใช้ไม่แสบ ไม่คันยุบยิบ อันนี้ถือว่าทำได้ดีมากในการเป็นเจลแต้มสิว ส่วนตัวคิดว่าถ้าคนไม่เร่งสิวหายไว ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ อ่อนโยน สิวยุบจริงแบบไม่ต้องบีบ ไม่มีเอฟเฟคต่อผิวเลย แต่เราว่าเรื่องการรักษาสิวยังใช้เวลานานไปหน่อย หลังกล่องเคลมไว้ 3 วัน แต่ที่ลองคือ 3 วันยังไม่ยุบค่ะ ข้อดีคือเอฟเฟคกับผิวไม่มี และไม่ยุบยิบๆยาตอนทา ปลอบประโลมผิวได้ และลดรอยแดงได้นิดหน่อยไม่ถึงกับหายไปหมด

Garnier Light Complete Vitamin C Booster Serum ตัวนี้มีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้นมากกกก ถึง 30เท่าของแบบปกติเลย บวกกับมีส่วนผสมของยูซุเลมอน ไนอาซินาไมด์ที่ช่วยเรื่องไวท์เทนนิ่ง และวิตามินอีที่จะช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส่ แพคเกจจะมาในขวดแก้ว กับหลอดดรอปเปอร์ปลายยาว ส่วนตัวเราว่าสองปั๊มกำลังดีค่ะ ผลิตภัณฑ์จะมาในกล่อง พร้อมแถมแถบวัดระดับสีผิวมาให้ด้วย ซึ่งส่วนตัวเราไม่ได้ใช้เพราะระดับสีผิวเราขาวกว่าในแถบค่ะ เนื้อผลิตภัณฑ์ ถ้ามองจากในขวดจะขุ่นขาวเหลวๆ แต่พอเราดรอปเค้าลงมาแล้วจะเป็นเนื้อใสๆเหลวๆเลยค่ะ กลิ่นหอมเลมอนมากๆ แบบกลิ่นชัดสุดๆ หลังทาแล้วเนื้อซึมเร็วมาก มีความหนึบเหลืออยู่นิดหน่อย หลังการใช้ ถ้าตามคำเคลม 3 วัน ส่วนตัวเราไม่เห็นผลชัดขนาดที่เปรียบเทียบได้ค่ะ แต่หลังจากใช้มาน่าจะเกิน 1 สัปดาห์ จุดด่างดำจางลงแบบเห็นได้ชัดมากๆ แต่บางจุดก็ไม่หายนะคะ ส่วนเรื่องความกระจ่างใส อันนี้ปังค่ะ ใสขึ้นแบบรู้สึกได้ (เราแอบเอาไปทาเข่า ตอนนี้คือขาวเท่าหน้าขาแล้วค่ะ แนะนำ5555) ส่วนตัวในราคา 399 บาท หาซื้อได้ไม่ยาก ตัวนี้เป็นวิตามินซีเข้มข้นที่เราว่าปังที่สุดเท่าที่เราเคยใช้เลย เข้มข้นแบบรู้สึกได้ ผลลัพธ์ก็ดีมากๆด้วยค่ะ

หลังจากได้ Senka Deep Moist Lotion II สูตร Rich และได้ลองใช้มาตั้งแต่ได้รับเลย บอกเลยว่าตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นดีมากค่ะ ถูกใจทีมหน้าชุ่มฉ่ำแบบเรามากๆ เพราะส่วนตัวเชื่อว่าผิวจะแข็งแรงได้ต้องชุ่มชื้นก่อน เลยชอบใช้สกินแคร์ที่เน้นในเรื่องนี้ ส่วนตัวเราเลือกเป็นโลชั่นน้ำตบมานะคะ ซึ่งผลของน้ำตบเนี่ย เค้าจะซึมซาบเข้าผิวเราได้เร็ว ไม่เหนอะหนะ ใช้เช้าก่อนแต่งหน้าได้ด้วยตัวนี้แพคเกจเป็นขวดขนาด 200 มล. คิดว่าใช้ได้นานพอสมควรเลยค่ะเพราะเราใช้ครั้งนึงไม่ได้เยอะมาก แต่ตัวฝาเค้าเนี่ย เราว่ามันใหญ่ไป ไม่เหมาะกับการเหยาะ เพราะมันหกได้ง่ายมากๆเลยเนื้อผลิตภัณฑ์ ตัวนี้เป็นน้ำเหลวๆ สีใสๆ เหมือนน้ำเปล่าเลยค่ะ แต่อาจจะมีความหนืดนิดดดดเดียว แบบเราจะมีฟีลลื่นๆนิดหน่อยตอนสัมผัส ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆนะคะ ส่วนตัวตรงนี้เราไม่แพ้ค่ะ ตัวนี้อ่อนโยนแบบไม่ไหวแล้วการใช้งานคือตบๆๆๆๆลงให้เค้าซึมเข้าผิว จะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าเค้าช่วยเรื่องความชุ่มชื้น ผิวจะเหมือนมีอะไรเคลือบบางๆ ดูอิ่มน้ำ ไม่เหนอะเลยแม้แต่น้อยค่ะ ชิวมากๆ เราใช้หลังล้างหน้าแล้วเช็ดโทนเนอร์นะคะผลลัพธ์ที่เราได้คือผิวชุ่มชื้นมากๆ ตามคำเคลมเลย ผิวดูสุขภาพดีขึ้นมากๆ วันไหนขี้เกียจก็ไม่ต้องใช้สกินแคร์ขั้นต่อไปค่ะ ตัวเดียวพอ555

สบู่เหลว Parrot Hyaluron Vitamin C&E Orange Booster หลังจากได้ลอง ตัวนี้เป็นไปตามคำเคลมที่เค้าจะทำให้ผิวดูเด้งอิ่มน้ำ กระจ่างใสด้วยวิตามิน C&E เติมความชุ่มชื้นจากไฮยาลูรอนได้เลยค่ะกลิ่นของสูตรนี้ค่อนข้างจะแรงค่ะ แต่หอม ส่วนตัวชอบมากๆ ด้วยกลิ่นที่ผสมความซิตรัสส้มๆ ทำให้เวลาอาบน้ำแล้วรู้สึกสดชื่น แฮปปี้ ตื่น ประมาณนี้แพคเกจเป็นขวดบีบ รูเปิดค่อนข้างกว้างพอสมควร อาจจะต้องระวังเทปริมาณเยอะไปนิดนึง แต่ข้อดีคือไม่ต้องบีบเวลาใช้ตัวเนื้อเป็นเนื้อสีส้มมุกๆเงาๆ เหลวมากกกแบบไหลหยดได้เลย แต่พอตีขึ้นโฟมก็สามารถขึ้นฟองได้อย่างดี ฟูเป็นสีขาวอมส้มอ่อนๆ ล้างออกง่ายมากๆ ผิวไม่เอี๊ยด หลังเช็ดตัวแล้วยังดูชุ่มชื้นอยู่ค่ะหลังใช้ ตัวนี้กลิ่นจะติดผิวแบบอ่อนๆ อ่อนมากๆ ส่วนตัวเราชอบจุดนี้ เพราะถ้าเราฉีดน้ำหอมต่อ กลิ่นน้องเค้าจะไม่ไปตีกันจนทำให้น้ำหอมเรากลิ่นเพี้ยนไป และอีกอย่างคือเหมือนล้างสบู่แล้ว555555ส่วนเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้ ในเรื่องความกระจ่างใส่อันนี้เราไม่เห็นผล เพราะด้วยความที่เป็นสบู่ ระยะเวลาในการซึมลงผิวมีน้อยมากๆค่ะ เรื่องความชุ่มชื้นอันนี้โอเคมากๆ ล้างแล้วไม่ได้รู้สึกผิวแห้ง แต่ยังดูผิวสุขภาพดีอยู่ โดยรวมๆเราชอบค่ะ

ครีมกันแดด Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum เป็นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้วค่ะ ส่วนตัวคือเป็นแฟนไลน์กันแดดของบีโอเร ตั้งแต่กันแดดหน้าเลยลามมาซื้อกันแดดตัวเค้าใช้บ้าง บอกเลยว่าไม่เคยผิดหวังค่ะ แถมรุ่นนี้คือกันน้ำ กันฝุ่น กันแดด บำรุงผิว ครบมากๆกับการใช้ชีวิตบ้านเราจริงๆปกติสูตรที่เราใช้เป็นประจำจะเป็นสูตรสีชมพู Intensive White รอบนี้ได้รับสูตรสีฟ้า Refresh Bright มาลองคือชอบกว่าเดิมอีกค่ะ บวกกับเห็นว่ามีสูตรสีแดง Age Defense เลยหาซื้อมาลองเพิ่ม ซึ่งก็ใช่ค่ะ ไม่ผิดหวังสักสูตรเลย ถึงแต่ละตัวผลลัพธ์จะไม่แตกต่างมาก แทบจะเหมือนกันเลย แต่หลักๆคือกลิ่นค่ะ กลิ่นเค้าไม่เหมือนกัน55555 โอเค เราจะมารีวิวทีละตัวนะคะเริ่มที่สูตรสีชมพูที่เราใช้มาก่อนจะได้มาลอง สูตรนี้เป็นสูตร Intensive White มีส่วนผสมของ Whitening, Vitamin B3, สารสกัดจากส้มยูซุ เน้นเรื่องช่วยการปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ และปรับสภาพสีผิวได้เล็กน้อยต่อกันที่สูตรสีฟ้า สูตรนี้ส่วนตัวเราชอบที่สุดในทั้งสามสูตรเลย ปังมาก เพราะเค้ามี cooling effect ทาแล้วเย็นๆ เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราสุดๆ บวกกับมีสารสกัดจากแตงกวา และทำให้ผิวดูกระจ่างใสได้ด้วยต่อมาที่สูตรที่สาม สีแดง Age Defense ตัวนี้จะผสม Hyarulonic Acid ซึ่งจะช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น และวิตามินอี เพื่อชะลอริ้วรอย ไม่ให้แดดมาทำให้ผิวเราแก่ก่อนวัยทั้งสามสูตร จากที่ลอง ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ไม่มีความแตกต่างกันเลย ทั้งสามตัวเนื้อไม่เหลวจนไหล ไม่หนืดจนทายาก แต่กลับทาง่าย ซึมเร็วมากๆ ปรับสภาพผิวให้ขาวขึ้นมาได้ประมาณหนึ่งเฉด และจากที่ลองบนหน้าคือแต่งหน้าต่อได้ ใช้รองพื้นเดิมได้แม้จะขาวขึ้นมานิดหน่อย (ถึงแม้จะเป็นกันแดดทาตัวก็ตาม) จากรูปที่เราแนบก็จะเห็นว่า ผิวเราจะขาวขึ้นมานิดนึง (อันนี้แสงเดียวกัน ลองตอนทาจริงๆ แต่อาจจะติดเงาๆนิดหน่อย)มาต่อกันที่การทดสอบต่างๆอันแรกเป็นการทดสอบความเหนอะหนะ โดยการตัดกระดาษสีๆมาโรยๆแล้วเขย่าแขนดู ปกติทากันแดดยี่ห้อที่เค้าว่าปังกระดาษก็ติดค่ะ แต่ตัวนี้คือติดน้อยมากกกกก แบบเค้าซึมหายไปเลยอะ สิบกว่าวินาทีหลังทาเอง จัดว่าดีมากๆค่ะ ไม่เหนอะหนะเลย ใช้ชีวิตต่อได้สบายต่อมา เราเห็นข้างแพคเกจเค้าเคลมความ water resist ไว้ เลยลองเอาไปผ่านน้ำก๊อก คิดว่าเค้าจะหลุดมาบ้าง แต่ไม่ค่ะ นี่คิดว่าเค้ายังอยู่เหมือนเดิม เพราะกลิ่นที่ติดแขนคือแบบเดิมเป๊ะ แถมยังสีผิวแบบเดียวกับตอนหลังทาด้วยต่อมาอันสุดท้าย อันนี้เราว่าสำคัญสุดในโลกของกันแดดเลย นั่นก็คือ การทดสอบความมัน จะเห็นได้เลยว่า ตอนที่เราทาแล้วใช้กระดาษซับมันมาซับตอนเค้าซึมไปหมดแล้วเรียบร้อย จะยังมีความมันอยู่ค่ะ แต่ว่าน้อยมากๆ (ดูตามภาพได้เลยนะคะ) แล้วจากการที่เราลองบีบเนื้อผลิตภัณฑ์ไว้บนกระดาษซับมันทิ้งไว้เนี่ย อันนี้เราว้าวมากเลยค่ะ ตอนแรกเราจะลองแบบ 3ชม. ด้วย แต่คือพอมาดูแล้วเค้าไม่ได้กระจายความมันเพิ่มจนเห็น เลยได้ 5ชม. กับ 10ชม. มาค่ะ จะเห็นได้ว่าวงน้ำมันไม่ได้กระจายกว้างเลยแม้เราจะทาไปนานแล้ว ตรงนี้เราคิดว่าเค้าไม่น่าจะทำให้ผิวเรามันระหว่างวันง่ายขนาดนั้น นับว่าปังมากๆ และจากการที่ใช้ตัวรุ่นชมพูมาตั้งแต่ยังไม่เปลี่ยนแพคเกจ ทาระหว่างวันผิวตัวก็ไม่ได้มันนะคะในส่วนของแพคเกจ ตัวนี้จะมี 2 ไซส์ค่ะ ทั้ง 2 ไซส์จะเป็นหลอด ไซส์เล็กคือเหมาะมากๆกับการพกพา ส่วนไซส์ใหญ่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก หยิบจับสะดวกค่ะ หัวบีบเป็นปลายไม่ใหญ่ทั้งคู่เลย อันนี้เราชอบ เพราะตัวครีมจะไม่ทะลักออกมาเวลาบีบ ทำให้เรากำหนดปริมาณที่ควรใช้ได้ง่ายมากในส่วนของผลลัพธ์หลังการใช้..ตัวนี้ประสิทธิภาพการกันแดดเค้าอยู่ที่ SPF 50+ PA+++ ทั้งสามสูตรเลยค่ะ ซึ่งเหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้ในชีวิตประจำวันแล้วนะคะ ตามรูปรีวิวเราจะเห็นทั้ง before after หลังทาทันที และหลังใช้ประจำ 12 วัน (วันนี้ที่มาพิมพ์คือ 14 วัน ไม่ได้ต่างจาก 12 เท่าไหร่ค่ะ) และมีรูปการทาลงบนผิวสองสี (ยืมแขนคุณพ่อมาลองค่ะ) จะเห็นได้เลยว่า ตัวนี้จะทำให้ผิวขาวมาระดับนึงหลังทาทันที ผิวสองสีสามารถใช้ได้นะคะ ไม่ได้ขาวเว่อขนาดนั้น ทิ้งไว้สักพักเค้าจะปรับสภาพเนียนๆเลย และหลังใช้ติดต่อกัน เค้าจะทำให้ผิวเราขาวขึ้นมานิดดดดนึงด้วยค่ะ ไม่ได้เห็นผลชัดมาก อันนี้เป็นสูตรสีชมพูนะคะและจากที่ลองทาผิวหน้าด้วย น้องเค้าสามารถใช้กับผิวหน้าได้น้า แต่ส่วนตัวก็ไม่แนะนำเท่าไหร่ค่ะ เพราะเค้าทำมาสำหรับผิวกาย ผิวหน้าเรามั่นใจมากๆว่าทุกคนน่าจะมีใช้กันอยู่แล้ว ไว้ใช้เวลารีบๆปาดทั้งหน้าตัวแทนน้าในส่วนของกลิ่นที่เราบอกไว้ตั้งแต่ต้นว่าต่าง...- Intensive White ตัวนี้กลิ่นจะออกแนวดอกไม้ๆ ส่วนตัวว่าฉุนและไม่สามารถฉีดน้ำหอมต่อได้ เพราะกลิ่นติดทน นาน มากๆ แถมไม่ได้หอมขนาดนั้นค่ะ เป็นจุดที่เราไม่ค่อยชอบเลยสำหรับตัวนี้- Refresh Bright ตัวนี้กลิ่นจะเป็น aloevera+cucumber ส่วนตัวเราชอบมากๆ มันเฟรช สดชื่น หอม แถมยังเย็นๆด้วยค่ะ- Age defense ตัวนี้กลิ่นจะคล้ายตัวสีฟ้า แต่ฉุนกว่านิดนึง กลิ่นติดพอๆกับตัวสีชมพูค่ะสุดท้าย ราคาน้องจับต้องได้ ปริมาณเยอะมากๆ 50ml 129thb และ 150ml 290thb ซึ่งตัวไซส์เล็กเราไม่แน่ใจว่าขายทุกที่มั้ย แต่เราเห็นที่ tops กับใน online platform นะคะ ทั้งหมดนี้สามารถหาซื้อได้ทั่วไป วัตสันลดบ่อยค่ะ ช้อปปี้ ลาซาด้า บูทส์ มีหมดเลยนะคะ หาไม่ยากเลย ใครหากันแดดตัวอยู่ก็ลองซื้อมาใช้กันได้ค่ะ หลอดนึงใช้จนลืมเลยกว่าจะมดก่อนจะจากไปอยากฝากไว้ว่า 'กันแดดหน้าทาสองข้อนิ้วนะคะ ส่วนกันแดดตัว โบกโลดค่ะ โบกไปเลยไม่ต้องกลัวหมดนะคะ'

ครีมอาบน้ำ Parrot Oil in Bath สูตร White Perfect ส่วนตัวเป็นคนเปลี่ยนครีมอาบน้ำค่อนข้างบ่อยค่ะ เพราะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างของแต่ละตัว นอกจากเรื่องกลิ่น พอได้ลองตัวนี้ที่เป็นแบบ Oil in Bath เคลมมาว่าสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้ดี ก็คือประทับใจมากกกก  เพราะจากที่ได้ลองมาสักพัก ผิวชุ่มชื้นจริงๆค่ะ กลิ่นติดผิวดีด้วย ล้างออกง่ายมาก แถมล้างแล้วผิวไม่เอี๊ยดฝืด ยังคงความชุ่มชื้นอยู่แบบเห็นได้ชัดตัวนี้เป็นเนื้อเหลว สีขาวเงาๆคล้ายไข่มุกเลย กลิ่นคือหอมฟุ้งตั้งแต่ยังไม่ทันกด กลิ่นเป็นกลิ่นแบบเหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้เยอะๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นกุหลาบมาก ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นแรงๆน่าจะรู้สึกฉุนเลยแหละแพคเกจเป็นหัวปั๊ม ส่วนตัวเราชอบใช้หัวแบบนี้อยู่แล้วเพราะทำให้ง่ายมากๆเวลาอาบน้ำ ไม่ต้องมาเปิดฝาอะไรเลย กดปั๊มเดียวคือพอดีกับการอาบน้ำครั้งนึงได้เลย แถมขวดใหญ่มากๆๆๆ คุ้มสุดๆส่วนเรื่องที่เค้าผสมวิตามินบีสามมา ที่จะช่วยเรื่องความกระจ่างใส่ ส่วนตัวจุดนี้ไม่เห็นผลเลย อาจจะเพราะมันยังไม่ได้ซึมเข้าผิวเรา เพราะแปปเดียวก็ล้างออก แต่รวมๆแล้วคือชอบค่ะ