กมลชนก
Realbingbing
(135 รีวิว)
Micellair Skin Breathe Micellar Rose Water
NIVEA
Micellair Skin Breathe Micellar Rose Water
ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะว่าเราเป็นสาวกของ NIVEA Micellar อยู่แล้ว เพราะว่าเป็นสิ่งที่ใช้แล้วคุ้มค่าเกินราคามากๆ จึงทำให้เราไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจเลยค่ะ และเมื่อไม่นานมานี้ NIVEA ได้ออก Make up Remover ตัวใหม่มา นั่นก็คือ NIVEA MicellAIR Skin Breathe Micellar Rose Water ซึ่งแค่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ก็ดูน่าใช้แล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ก็แหม ดูน้ำสีชมพูใสๆที่สกัดมาจากดอกกุหลาบสิ ช่างดูเหมาะกับสาวๆแบบเราซะจริง ส่วนกลิ่นล่ะก็ บอกเลยว่าห๊อมหอม แต่เขาไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ภายนอกนะคะ เพราะว่าด้วยสารสกัดจาก Rose Water ซึ่งมีสรรพคุณที่ช่วยให้ผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี อีกทั้งยังอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวด้วยค่ะ เอาล่ะค่ะหลังจากที่ได้พูดมาเยอะแล้วเดี๋ยวเราไปชมประสิทธิภาพเขาพร้อมๆกันดีกว่านะคะ ^^                จากในภาพ เราได้นำเครื่องสำอางที่กันน้ำมาสวอชลงบนแขนของเรา จากนั้นก็เท NIVEA MicellAIR Skin Breathe Micellar Rose Water ลงบนสำลี อ้อ ไม่จำเป็นต้องใช้จนสำลีเปียกนะคะ เพราะด้วยความที่เขาเป็น Micellar ก็คือจะมีโมเลกุล 2 ส่วนคือส่วนหัวละลายได้ดีในน้ำและไม่ชอบน้ำมัน และส่วนหางที่ละลายได้ดีในน้ำมันแต่ไม่ชอบน้ำ และมีโมเลกุลของน้ำประกอบอยู่ด้วยเมื่อร่วมเข้าด้วยกันแล้วทำให้มีคุณสมบัติในการดึงสิ่งสกปรก และเครื่องสำอางไม่ว่าจะเป็นรองพื้น ลิปสติก มาสคาร่า หรืออายไลน์เนอร์ที่อยู่เกาะบนผิวออกมาได้อย่างหมดจดเหมือนโฟมหรือสบู่ล้างหน้า เช็ดออกง่ายโดยไม่ทิ้งความมัน เหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า แต่อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิว ดังนั้นแค่เช็ดเบาๆ เครื่องสำอางและสิ่งสกปรกก็หลุดออกได้อย่างสะอาดหมดจดเลยล่ะค่ะ              จากนั้นเราได้นำมาลองเช็ดที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางที่เรียกได้ว่าจัดแน่นจัดเต็ม แต่งจนหน้าไม่มีอากาศหายใจเลยล่ะค่ะ 5555555 ต้องบอกเลยว่าเช็ดออกง่ายมากๆ ไม่ระคายเคืองเลย ถึงแม้จะเช็ดบริเวณรอบๆดวงตา แตะไม่รู้สึกแสบเลยค่ะ และไม่เจ็บหน้าเลยเพราะเขาอ่อนโยนต่อผิวเราจริงๆ แค่เช็ดเบาๆคราบต่างๆก็หลุดออกได้อย่างสะอาดหมดจดเลยล่ะค่ะ ทีนี้เราได้ลองนำกระดาษซับความมันมาซับลงบนใบหน้า ปรากฏว่าไม่มีความมันหลงเหลือเลยล่ะค่ะ สุดยอดมากๆ รู้สึกเบาสบายหน้าสุดๆ รู้สึกว่าเขาช่วยให้ผิวหน้าเราได้หายใจ แหม...สมชื่อ MicellAIR จริงๆเลยนะเนี่ย ^^              ขอสรุปเลยนะคะ เราคิดว่าคุ้มค่ามากๆที่จะซื้อเนื่องจากประสิทธิภาพของเขาที่เราได้กล่าวไปแล้ว บวกกับปริมาณที่ให้มาเยอะจริงๆ ตั้ง 400 ml. แน่ะ! ราคาก็แค่ 299 บาท เอง ขอบอกเลยว่าไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจแน่นอนค่ะ อีกอย่างนะคะหลังจากที่เราได้ลองใช้มา 1 อาทิตย์แล้ว หน้าเรากระจ่างใส ไร้สิว ขึ้นมาก เพราะว่าเขาช่วยชะล้างสิ่งอุดตันได้ดีจริงๆค่ะ ผิวตอนนี้ก็ชุ่มชื่นและนุ่มสุดๆไปเลย ใครที่ยังไม่ลอง ต้องไปลองกันนะคะ เพราะเราประทับใจจริงๆนะคะ ถึงได้มาส่งต่อความหวังดีแก่เพื่อนๆทุกคน :)
more
Sun Protect & Moisture Body SPF50 PA++++
NIVEA
Sun Protect & Moisture Body SPF50 PA++++
รีวิว NIVEA Sun Protect & Moisture Body SPF50 PA++++สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว cosmenet พอเข้าสู่เมษาหน้าร้อน ก็คงหนีไม่พ้นเทศการสงกรานต์ หรือจะเป็นวันหยุดยาวที่ส่วนมากก็จะหนีร้อนไปพักผ่อนที่ทะเล ซึ่งมันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะหลบแสงแดด เราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนก็คงจะมีปัญหาเดียวกัน นั่นก็คือผิวหมองคล้ำ หรือผิวไหม้แดดนั่นเอง ซึ่งจากนี้ไปเพื่อนๆไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ เพราะว่าหลังจากที่เราได้ลองใช้ NIVEA Sun Protect & Moisture Body SPF50 PA++++ อยากบอกว่าของเขาดีจริงๆค่ะ แต่จะดียังไง....ไปชมรีวิวของเราพร้อมๆกันดีกว่าค่ะ         เนื้อครีมเข้มข้นมากๆ แต่ไม่หนืดนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆและไม่ฉุนเลย เนื้อครีมซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ หลังทารู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นขึ้นเพราะมี 3X Moisturizing Power ฟื้นบำรุงความชุ่มชื้นของผิวที่สูญเสียไปจากแดด และไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันแสงแดด แต่เขามีคุณสมบัติพิเศษก็คือมีส่วนผสมของ Collagen Protection ปกป้องคอลลาเจนจากการถูกแดดทำร้าย และที่เราประทับใจมากที่สุด ที่ต้องบอกได้เลยว่าไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหน หรือจะเทศกาลสงกรานต์ก็เอาอยู่ นั่นก็เพราะว่าเขามี Double UV protection ปกป้องทั้งรังสี UVA1 , UVA2 และ UVB สาเหตุหนึ่งของฝ้าแดด จุดด่างดำ ผิวคล้ำเสีย และสูตรนี้ที่เขาทำออกมา สามารถกันน้ำได้ดีมากๆจริง เราลองทดสอบแล้วค่ะ ไม่มีครีมไหลออกมากับหยดน้ำเลยสักนิด            และเมื่อเวลาเราไปทะเล หรือดำน้ำดูปะการัง กุ้ง หอย ปู ปลา เราเป็นคนนึงที่จะไม่ทาครีมกันแดดลงไปเล่นเลยค่ะ เนื่องจากสารป้องกันแสงแดดหรือ UV Filter ที่มันไหลลงทะเล มันเป็นตัวการที่ทำให้ประการังเสื่อมโทรม แต่ NIVEA Sun Protect & Moisture Body SPF50 PA++++ เขาทำออกมาโดยใส่ใจสิ่งแวดล้อมเนื่องจาก ไม่มีส่วนประกอบของสารป้องกันแสงแดดที่อาจทำร้ายปะการังอย่าง Octinoxate & Oxybenzone ดังนั้น เราก็จะได้ฟินไปกับวันหยุดยาวของเราโดยไม่ต้องกังวลเรื่องผิวและยังสบายใจได้อีกว่าน้องปะการังก็จะไม่โดนทำร้ายอีกด้วยค่ะ         และสิ่งที่ประทับใจมากถึงมากที่สุดก็คือ ไม่ต้องรอถึง 20 นาที ก็สามารถใช้ชีวิตลุยแดดได้เลย เนื่องจากในทุกๆวัน พวกเราต่างก็ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ ทำให้ข้อดีข้อนี้ตอบโจทย์มากๆเลยค่ะ         สำหรับราคานะคะ อยู่ที่ 419 บาท และมีปริมาณ 125 ml บอกได้เลยว่าคุ้มมากๆ ราคาไม่แพงด้วย ถ้าเทียบกับคุณภาพเราว่ามันเริ่ดมากจริงๆ เพราะเขาผสมสารกันแดด SPF50 PA++++ และยังมีคอลลาเจนช่วยบำรุงผิว และที่เราประทับใจที่สุดก็คือเขาไม่ทำร้ายธรรมชาติด้วย
more
Micellair Expert Micellar Water
NIVEA
Micellair Expert Micellar Water
สวัสดีค่า หลังจากที่ได้ทดลองใช้เจ้า NIVEA Micellair Expert Micellar Water ก็รู้สึกประทับใจอย่างแรงง จนอดไม่ได้ที่จะต้องรีบมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ทราบกันค่ะ             ปกติเราเป็นคนชอบแต่งหน้าชนิดที่เรียกว่าแน่นๆอยู่แล้วค่ะ ถึงจะแต่งแค่ไปเยนก็เหอะ แต่ไอเทมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือไพร์เมอร์เนื้อซิลิโคน ที่ช่วยอำพรางรูขุมขนบนใบหน้าเรา โดยที่มันจะเข้าไปในรูขุมขนเรา พอเราทารองพื้นก็จะทำให้หน้าเราดูเรียบเนียนไร้ตำหนิค่ะ  แต่ก็อย่างว่าเมื่อมันอุดแล้วก็ยากที่จะเช็ดออก ถึงแม้เราจะลองคลีนซิ่งมาหลายตัวแล้วแต่ก็ยังไม่เจอตัวที่ใช่สักที เราจึงต้องทนทุกข์กับสิวอักเสบและสิวอุดตันมาอย่างยาวนาน T T จนเราได้มาเจอกับ Micellair Expert Micellar Water บอกเลยว่าประทับสุดๆ ซิลิโคนยังออกได้ภายในปาดเดียว แล้วมาสคาร่า และ อายไลเนอร์กันน้ำจะเหลือหรอ แล้วไม่ได้ใช้เยอะด้วยนะแค่เหยาะนิดเดียว แล้วก็ไม่ได้ออกแรงเยอะด้วย แถมเวลาเช็ดรอบดวงตา ไม่ระคายเคือง ไม่ทำให้แสบตาเลยค่ะ           พูดมาขนาดนี้แล้วเพื่อนๆคนอยากจะรู้จักเจ้า Micellair Expert Micellar Water เพิ่มขึ้นกันแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังนะ ^^ -       ไมเซลแอร์ คอมเพล็กซ์ ทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กที่ดูดจับเครื่องสำอางออกหมดจดโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง -       ผสานสารสกัดแบล็คที ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ช่วยลดการเกิดริ้วรอยจากแสงแดด เพิ่มความสดชื่นให้ผิว -       สารสกัดบิลเบอร์รี่ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส             ส่วนในเรื่องของราคาก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เห็นมีประสิทิภาพขนาดนี้ แต่ราคาน่ารักนะ เพราะราคาอยู่ที่ แค่ 129 บาท แต่มาในปริมาณ 125 ml. ถูกตาแตกเว่อออออ             สำหรับวิธีใช้นะคะ เพื่อนต้องเขย่าก่อนเน้อ เพราะถ้าสักเกตดีๆ จะเห็นได้เลยว่าเขาแยกชั้นกัน นั้นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นสูตร Dry oil ค่ะ ที่จะช่วยดูดจับสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะหลังจากที่ใช้แล้ว เขาไม่ทิ้งความมันบนใบหน้าเลยค่ะ ถมยังช่วยเติมความชุ่มชื้น และเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวเราอีกต่างหาก             ส่วนเรื่องกลิ่น เขาไม่มีกลิ่นนะคะ และก็ไม่ผสมแอลกอฮอล์ด้วย เพื่อนๆผิวแพ้ง่ายคลายความกังวลใจได้เลยน้า            สำหรับผลลัพธ์หลังใช้ บอกเลยว่าประทับใจมากจริงๆค่ะ พวกเมคอัพแบบ waterproof น้องเค้าเอาอยู่จริงๆ ไม่ต้องออกแรงเช็ดเยอะด้วย หลังจากใช้มาสัปดาห์กว่าๆก็เห็นได้ชัดเลยว่าสิวลดลง และหน้ากระจ่างใสขึ้น เลิ้บมากกก เลิ้บที่ราคาน่ารักด้วย บอกเลยถ้าหมดซื้อใช้ซ้ำแน่นอนค่า           เอาเป็นว่าถ้าเพื่อนๆสนใจ make up remover ที่ราคาไม่แรงแถมประสิทธิภาพเกินราคาแบบนี้เราขอแนะนำเป็น NIVEA Micellair Expert Micellar Water เลยค่ะ เพราะว่านอกจากที่น้องเขาจะช่วยทำความสะอาดใบหน้าแล้วล่ะก็ น้องเขายังช่วยบำรุงอีกด้วย ฮรือออ ดีอะไรขนาดนี้อะ ขอยกให้เป็น must have item ไปเลยเด้อออ
more
Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum
Oriental Princess
Natural Power C Miracle Brightening Complex Advanced Brightening Serum
            สวัสดีค่า เพื่อนๆชาว Cosmenet หลังจากที่เราได้ทดลองใช้ Natural Power C Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10% เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เรารู้สึกประทับใจมากๆ จนต้องรีบมาบอกต่อเพื่อนๆค่ะ ก่อนอื่นเดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัวนี้กันก่อนเลยดีกว่าค่ะ Natural Power C Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10% เป็นเซรั่มเข้มข้นที่อุดมไปด้วย วิตามินC แท้บริสุทธิ์ 100% -ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสได้ทุกสีผิวใน 1 สัปดาห์  โดยไม่ระคายเคืองผิว -ช่วยปรับสภาพผิวเสียหมองคล้ำจากแสงแดด -ช่วยให้ให้สีผิวดูสม่ำเสมอ -ช่วยให้จุดด่างดำ กระ และรอยดำจากสิวดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง -พร้อมทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดสีผิวคล้ำในอนาคต และที่พิเศษสุดๆนั่นก็คือ เขามี Prime C Complex™ สารสกัดลิขสิทธิ์เฉพาะจาก Oriental Princess วิตามิน C เข้มข้น ที่สามารถรีไซเคิล ประจุวิตามินซีให้กลับมาทำงานได้ใหม่ เมื่อหมดพลัง แล้วเพื่อนๆทราบกันไหมคะ ว่าวิตามินC เนี่ย มีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงผิวพรรณได้มากมายจริงๆ เอาล่ะหากไม่รู้เดี๋ยวเราจะสรุปให้ฟัง -          มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว โดยวิตามินC จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของผิว ทำให้ผิวมีสุขภาดี และเพิ่มารสังเคราะห์คอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ผิวเต่งตึง และไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร และวิตามินซียังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงนของเอนไซมสร้างเม็ดสี จึงช่วยลดรอยดำและผิวหมองคล้ำได้ -          มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้มีความสมบูรณแบบยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยทให้ผิวดูเรียบเนียน และยังช่วยฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้านจากแสงแดด ให้กลับมาเรียบเนียนและดูสุขภาพดีอีกครั้ง -          ทำให้สิวหายเร็วขึ้น สรรพคุณอย่างหนึ่งของวิตามินC ก็คือช่วยซ่อมแซมนื้อเยื่อทุกส่วนของร่างกาย ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นแผล หรือมีรอยแผลเป็นจากสิวและจุดด่างดำ สิ่งเหล่านี้จะหายเร็วขึ้น แหม….แค่สรรพคุณของเขาก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะคะ งั้นเดี๋ยวเราขอพูดในส่วนของเรา หลังจากที่เราได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้แล้วนะคะ สภาพผิว : เราเป็นคนผิวผสม รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ หน้าหมองคล้ำเพราะทุกๆวันเราใช้ชีวิตที่รีบเร่ง ไม่ค่อยทากันแดด ดังนั้นจึงทำให้หน้าเราหมองคล้ำ แถมยังมีรอยสิว และจุดด่างดำอีกเพียบ เนื้อผลิตภัณฑ์ :  เป็นเซรั่มเข้มข้น เนื้อใส บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว และไม่ทิ้งความมันบนใบหน้าค่ะ กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้ง่ายต่อการใช้ค่ะ Packaging : วัสดุที่ใช้มีความคงทนแข็งแรง ออกแบบผลิตภัณฑ์มาได้ทันสมัย น่าใช้ และยังง่ายต่การใช้อีกด้วย เพราะเป็นหัวปั๊มที่สามารถหมุนเก็บได้เมื่อเลิกใช้งาน วิธีใช้ : ทาเซรั่มให้ทั่วใบหน้าและลำคอที่สะอาด ใช้ทาเป็นตัวแรกก่อนการทาบำรุงตัวอื่น ทั้งกลางวันและกลางคืน ราคาและปริมาณ  : ขนาด 30 ml / ราคา 895 บาท ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังใช้ : หลังจากที่ใช้ครั้งแรกรู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าดูเรียบเนียน และหลังจากที่ได้ใช้เป็นเวลา  1 สัปดาห์  หน้าเราดูกระจ่างใสขึ้นมาก รอยดำจากสิวก็ดูลดลงอย่างเห็นได้ชัด สีผิวแลดูสม่ำเสมอ และเมื่อเราลองเอามือลูบบนใบหน้าแล้ว ก็รู้สึกว่าผิวหน้าเรียบเนียนและผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น ทั้งทีเราเองก็ทาครีมบำรุงบ้าง ไม่ทาบ้าง (แต่ใช้เซรั่มทุกวันอย่างต่อเนื่องนะ เพราะเราชอบที่เนื้อเขาเกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่ทิ้งความมัน) เราก็เลยคิดว่าคงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีมาจาก Natural Power C Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10% ที่เราใช้อยู่เป็นประจำ ที่ช่วยบำรุงให้ผิวเรามีสุขภาดี และก่อนหน้านี้แต่งหน้าไม่ค่อยติดด้วย เพราะว่าผิวขาดความชุ่มชื่น แต่ตอนนี้เมคอัพติดทนมาก ไมต้องคอยเติมระหว่างวันแล้วค่ะ                สรุปนะคะ เราประทับใจ Natural Power C Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10%                มากๆเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก เราก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับเงินที่เอาไปลงทุนนะ 55555 จริงๆราคาก็ไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับปริมาณและคุณภาพของเขานะคะ เราคิดว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจเซรั่มเข้มข้นที่ช่วยบำรุงผิวหน้า เราก็อยากจะแนะนำเป็นตัว Natural Power C Advanced Brightening Serum with 100% Pure Vitamin C 10%  เพราะเราใช้แล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีก็อเลยอยากจะมาบอกต่อค่า
more
Ultimate Renewal Concentrated Serum
Oriental Princess
Ultimate Renewal Concentrated Serum
สวัสดีค่า เพื่อนชาวๆ vanilla วันนี้เราจะมารีวิวสิ่งที่ใช้แล้วประทับใจสุดๆ เพราะว่าให้ผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายจริงๆค่ะ นั่นก็คือ ORIENTAL PRINCESS ULTIMATE RENEWAL CONCENTRATED SERUM นั่นเอง  จริงๆแล้วเราอายุ 19 ปีนะคะ แต่เรื่องริ้วรอยไม่ใช่จะเกิดแค่กับคนที่มีอายุได้เพียงอย่างเดียว ปัจจัยอื่นๆก็สามารถก่อให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน นั่นก็เพราะว่าการที่เป็นนักศึกษาเนี่ย เรียนหนักมากๆ ไหนจะอ่านหนังสือหามรุ่งหามค่ำ นอนและรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา แถมแต่ละวันก็มีแต่เรื่องชวนเครียด ก็ไม่แปลกที่หน้าเรามีริ้วรอยและดูแก่ก่อนวัย ไม่ว่าใครเจอหน้าเรา ต่างก็ทักว่าหน้าโทรม และคิดว่าเราอายุอยู่ในวัยที่ทำงานแล้วทั้งนั้น ไปตลาดยังเจอรุ่นป้าเรียกว่าพี่เลย (พูดแล้วเศร้า) ทั้งๆที่เราอยู่แค่ปี 1 เอง ด้วยเหตุนี้ทำให้เรากลายเป็นคนขาดความมั่นใจไปเลย แต่เหมือนโชคเข้าข้าง ตอนที่กำลังเครียดๆอยู่ก็ได้รางวัลเป็น ORIENTAL PRINCESS ULTIMATE RENEWAL CONCENTRATED SERUM จากกิจกรรมใน TWITTER ของ OP ซะงั้น งานนี้เลยได้ทดลองใช้เป็นระยะเวลา 7 วันค่า  เอาล่ะค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเซรั่มตัวนี้กันก่อนดีกว่าULTIMATE RENEWAL CONCENTRATED SERUMเซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้นจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยสารสกัดพิเศษ RESURGENCE COMPLEX TM และ เซอรามายด์ ถั่วเหลือง และโสมห้าใบ ที่จะช่วยคืนความตึงกระชับ สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยอันเนื่องมาจากวัย คงความยืดหยุ่นกระชับ และเหนือกว่าด้วยประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น ชั้นผิวแลดูอิ่มฟู ริ้วรอยแลดูจางลงใน 1 สัปดาห์ แค่ฟังคุณสมบัติก็อยากลองใช้แล้วใช่ไหมคะ 55555 ขอบอกเลยว่าหลังจากได้ลองใช้เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์แล้ว เรามั่นใจว่าของเขาดีนะ เลยอยากจะมารีวิว เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้ใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อค่ะ สภาพผิวหน้า : เราเป็นคนผิวผสม ผิวขาดน้ำ ผิวแพ้ง่าย รูขุมขนกว้าง หน้าหมองคล้ำมีจุดด่างดำ และที่เป็นปัญหามากๆก็คือ ริ้วรอยใต้ตาค่ะ  เนื้อผลิตภัณฑ์ : เนื้อของเขาเข้มข้นและละเอียดมากๆ แต่แปลกมากเลยเพราะเกลี่ยง่าย มีความบางเบาและซึมเข้าผิวไวมาก รู้สึกสบายผิวและสดชื่นมากๆ ไม่รู้สึกหนักหน้าเลย และเนื้อครีมหลังทาจะรู้สึกชุ่มชื่นสุดๆ เนื้อครีมพอซับออกมาแล้ว มีความมันนิดหน่อยค่ะ แต่เราว่าเขาเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยนะคะ เพราะไม่ได้มันเยิ้มแค่มันพอให้ผิวชุ่มชื่นค่ะ คนผิวมันน่าจะปลื้มตัวนี้เลยแหละ ส่วนคนผิวแห้งเขาก็ช่วยเติมความชุ่มชื่นเข้าสู่ผิวด้วยเช่นกัน แล้วข้อดีที่เนื้อเขาซึมไวก็เหมาะมากๆด้วยที่จะลงในตอนเช้าก่อนแต่งหน้า ทำให้หลังแต่งหน้าผิวหน้าดูเรียบเนียนไม่เป็นขุยด้วยค่ะ วิธีใช้ : ใช้ทาผิวทั่วใบหน้า ก่อนขั้นตอนการบำรุงผิวหน้า สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพควรใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันค่ะ ปริมาณ : 30 ml. ราคา : 1,375 บาท  กลิ่น : หอมอ่อนๆ สดชื่นๆ ไม่ฉุน ทำให้ง่ายต่อการทาค่ะ PACKAGING : ULTIMATE RENEWAL CONCENTRATED SERUM เซรั่มบำรุงผิวสูตรเข้มข้น คืนความตึงกระชับ สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย บรรจุมาในกล่องกระดาษแข็งสีทอง กล่องสลักสัญลักษณ์ของ ORIENTAL PRINCESS ดูเรียบง่ายแต่ก็ยังคงความหรูหราในแบบของ ORIENTAL PRINCESS ด้านหน้ากล่องมีชื่อผลิตภัณฑ์ ด้านหลังกล่องมีรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติ วิธีการใช้ และส่วนผสมไว้อย่างชัดเจน เท่านั้นยังไม่พอ ด้านในกล่องยังมีกระดาษแข็งซ้อนอยู่ด้านในอีกที เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนต่อผลิตภัณฑ์ ใส่ใจรายละเอียดมากจริงๆ ขอชื่นชมค่ะ ส่วนผลิตภัณฑ์นั้นวัสดุที่ใช้ทำมีความแข็งแรง ดีไซน์มาได้หรูหราน่าใช้มากๆค่ะ บวกกับเลือกใช้สีทอง ทำให้ดูแพงมากๆเลย มีหัวปั๊มทำให้สะดวกต่อการใช้งานด้วยค่ะผลลัพธ์หลังใช้ : ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ชัดเลยว่าริ้วรอยตรงใต้ตาเราจะชัดมาก แต่หลังจากที่ใช้อย่างต่อเนื่องทาทั้งเช้าและก่อนนอนเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ปรากฏว่าริ้วรอยดูจางลงจริงๆค่ะ อีกทั้งหน้าที่เคยหมองคล้ำ ตอนนี้ดูกระจ่างใสขึ้น ผิวหน้าดูเนียนใส รูขุมขนดูกระชับขึ้น และผิวหน้าดูอิ่มฟูดูมีน้ำมีนวลขึ้นค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้สนใจผิวหน้าตัวเองเท่าไหร่ทำให้ผิวหน้ามีความหยาบกร้าน แต่งหน้าไม่ติด แต่ตอนนี้ ULTIMATE RENEWAL CONCENTRATED SERUM ได้ช่วยให้ผิวหน้านุ่มขึ้นและดูอ่อนเยาว์ เมื่อผิวดีการแต่งหน้าก็ง่ายขึ้น เดี๋ยวนี้ไม่ต้องคอยเติมหน้าเลยค่ะ เมคอัพติดทนนานจริงๆค่ะ ความประทับใจ : ตอนนี้ไม่ว่าจะไปไหนใครต่างก็เข้าใจผิดว่ากำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม รู้สึกแฮปปี้กับผิวหน้าตอนนี้มากๆค่ะ แล้วก็ประทับใจในเรื่องราคาด้วย เราเห็นว่าเรื่องราคาเนี่ยเห็นหลายคนบ่นว่าแพง แต่สำหรับเรา เรากลับคิดว่าราคานี้ก็ไม่ได้แพงเกินไป ถ้าเทียบกับปริมาณและผลลัพธ์ เพราะครีมที่ช่วยกระชับรูขุมขนและลดเลือนริ้วรอยเท่าที่เรารู้จักไม่สามารถได้มาในราคานี้ หรือถ้าได้มาก็ไม่สามารถได้ปริมาณมาขนาดนี้แน่นอนค่ะ แถมเขายังเป็นเซรั่มลดริ้วรอยที่ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องลดริ้วรอยอย่างเดียวแต่ยังช่วยเติมความชุ่มชื่นเข้าสู่ผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยดูแลผิวหน้าให้นุ่มขึ้น และยังทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น เรารู้สึกว่าราคานี้คุ้มจริงๆค่ะ สรุปนะคะ เราประทับใจมากๆกับผลลัพธ์ที่ได้และราคาค่ะ ส่วนตัวถ้าหมดจะซื้อใช้ซ้ำแน่นอนค่ะ เพราะชีวิตนี้ยังต้องอดหลับอดนอนอีกนาน 5555 แถมทุกๆวันก็มีแต่เรื่องให้คิดเยอะแยะ ทำให้มีริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าและความเครียดอีก สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาเซรั่มลดริ้วรอยอยู่ (ไม่จำเป็นว่าต้องอายุขึ้นเลข 3 เท่านั้นที่จะใช้ได้นะคะ ถึงเราจะอายุไม่มากและริ้วรอยอาจจะไม่เยอะเท่าคนอายุเลข 3 แต่เราก็ควรที่จะดูแลตัวเองนะคะ) เราก็ขอแนะนำเป็นตัว ORIENTAL PRINCESS ULTIMATE RENEWAL CONCENTRATED SERUM นี้เลยค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่เราใช้จริงและเห็นผล ที่สำคัญราคาเอื้อมถึงได้ ไม่แพงจนเกินไปค่ะ 
more
Bright Up Base UV SPF50+ PA++++
Biore
Bright Up Base UV SPF50+ PA++++
               สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว Cosmenet ทุกท่าน เคยมั้ยคะ ที่ต้องเจอกับปัญหาหลายๆอย่าง ที่สาวๆที่รักในการแต่งหน้าอย่างเราๆมักจะเจอ อาทิ หน้าเป็นคราบเมื่อทากันแดด เพราะกันแดดมันไม่ซึมผิว แค่เคลือบหน้าเราไว้เฉยๆ พอมันผสมกับเมคอัพ หน้าเราจึงเป็นคราบ แต่จะไม่ทาก็ไม่ได้ จะไม่แต่งหน้าก็ไม่ได้อีก เห้ออออออ หรือจะเป็นเรื่องเมคอัพไม่ติดทน หลุดได้หลุดดี เสียเวลาเติมจริงจริ๊ง!! เอาล่ะ!! แต่นับจากนี้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะเราจะมารีวิวเจ้าตัวนี้ให้เพื่อนๆได้ทราบกัน ว่ามันดีแค่ไหน >< นั่นก็คือ Biore UV Bright Up Base UV SPF50+ PA++++ ตัวนี้เนี่ยเขาจะเป็นทั้งกันแดดและเมคอัพเบสไปในตัวเลยนะคะ สะดวกมากๆ ตอนแรกที่เราเห็นเขาออกมาเนี่ย เรารีบซื้อเลย เพราะว่าเราไม่ชอบจริงๆเวลาแต่งหน้าแล้วหน้าเป็นคราบ แล้วเราก็เป็นคนไม่ชอบพกเครื่องสำอางด้วย ซึ่งตัวนี้ตอบโจทย์เรามากๆเลย เพราะตัวนี้มีทั้งค่า SPF และ ค่า PA สูงมากๆ ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB เลย ซึ่งทำให้หน้าเราไม่คล้ำเสียและยังลดสาเหตุการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย แล้วอย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเค้าเป็นเมคอัพเบสด้วย ดังนั้นเพื่อนๆจะเห็นได้เลยว่า หลังจากที่เราทา หน้าดูเรียบเนียนขึ้น และเขายังช่วยอำพรางรูขุมขุนได้อีกด้วย แถมยังทำให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานด้วย Anti-Sebum Technology ที่ช่วยดูดซับความมันอันเป็นสาเหตุของเมคอัพเยิ้ม เอาล่ะๆเดี๋ยวเราไปพูดถึงเจ้าตัวนี้กันทีละส่วนกันดีกว่าเนอะ จะได้เห็นภาพชัดขึ้น ^^             ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยนะคะว่าเรามีสภาพผิวเป็นผิวผสม เสี่ยงต่อการที่เมคอัพจะเยิ้มมากๆ แถมรูขุมขนก็กว้างด้วย เนื้อครีม : สีขาวอมชมพูนิดๆ (สีชมพูมาจากเจลครีมสีชมพู Bright Up Pearl ที่จะช่วยปรับให้หน้าดูกระจ่างใส) เนื้อครีมเข้มข้น เกลี่ยยากนิดนึง แต่พอทาแล้วมีความบางเบา ไม่หนักหน้าเลยและไม่ทำให้ผิวอุดตัน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว หลังทาให้ความสดชื่น และเติมความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิวด้วยจ้า  แถมพอหลังทาจะเห็นได้ชัดเลยว่าหน้าจะมีความสว่างขึ้น แต่ไม่วอกไม่เทานะ กลิ่น : ไม่มีกลิ่นค่ะ เพราะไม่ได้ผสมน้ำหอม ดังนั้นเพื่อนๆที่ผิวแพ้ง่ายแบบเราวางใจได้เลยจ้า Packaging : เป็นหลอดสีเงิน อันนี้เราว่าดีมากๆเลย เพราะสีเงินแบบนี้จะทำให้ประสิทธิภาพของเขาไม่เสื่อมง่ายค่ะ ความมัน : จากที่เราเอาเนื้อครีมมาทดสอบกับกระดาษซับมัน จะเห็นได้ว่าไม่ค่อยมันเลยนะ และ หลังจากที่เราแต่งหน้า 8.00 – 18.00 น. โดยทั้งวันเจอทั้งแดด ทั้งควันเนื้อย่าง พอซับออกมา ไม่ค่อยมีความมันติดมาเท่าไหร่ ถือว่าคุมมันได้ดีเลยทีเดียว ประสิทธิภาพในการกันแดด : อันนี้คือ กันแดดได้เต็มที่ค่ะ 10 / 10 กันไปเลย ออกแดดแล้วผิวไม่แดง ไม่แสบร้อน ไม่หมองคล้ำ  ผลลัพธ์หลังการแต่งหน้า : เมคอัพติดทนนานจริงๆ ผ่านไป 10 ชม. แล้วยังเป๊ะเหมือนเดิม ไม่ต้องเติมเมคอัพระหว่างวันเลย แถมยังช่วยให้หน้ากระจ่างใสขึ้นด้วย และที่สำคัญหน้าไม่มันไม่เยิ้ม  ลดพื้นที่ในกระเป๋าได้เยอะเลย ไม่ต้องพกเครื่องสำอางให้หนักกระเป๋าอีกต่อไป ระหว่างวันหน้าก็ไม่หมอง ไม่ดรอปด้วย การกันน้ำ : ถือว่ากันน้ำได้โอเคอยู่นะแทบไม่หลุดเลย แต่ก็มีไหลออกมาบ้างนิดนึง แต่ไม่เป็นคราบค่ะ ราคา : เราซื้อมาในราคา 650 บาทค่ะ เอาจริงๆนี่คิดว่าแพงเหมือนกันนะถ้าเทียบกับปริมาณ 30 g จะขอหักคะแนนก็ตรงนี้แหละ แต่ยอมรับว่าประสิทธิภาพดีจริงๆทั้งค่าSPF และ PA ที่สูงมากๆ แถมยังช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนนานจริงๆ สำหรับเราถ้าราคาขนาดนี้เราว่าน่าจะเหมาะกับงานใหญ่ๆ เช่น รับปริญญามากกว่า แต่โดยรวมเราว่าเขาเป็นกันแดดเมคอัพเบสที่คุณภาพดีมากๆเลยทีเดียวแหละ แต่ขอหักคะแนนเรื่องราคานิดนึงนะ 555555            เอาเป็นว่าขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ และหวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหากันแดดเมคอัพเบสที่คุณภาพดีอยู่นะคะ (ใช้แล้วชอบจึงกล้าแนะนำ) หากเพื่อนๆไม่ซีเรียสเรื่องราคาแต่แค่อยากได้ของคุณภาพดี เราว่าตัวนี้โอเคเลย
more
Teint Idole Ultra Wear Foundation
Lancome
Teint Idole Ultra Wear Foundation
      สวัสดีค่า วันนี้ปิงจะมารีวิวเจ้า Lancome TEINT IDOLE ULTRA WEAR FOUNDATION นะคะ ซึ่งปิงได้ขนาดทดลองมาใช้นะ แต่ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า น่าเสียดายมากๆ เพราะว่าเขาเหลืออยู่สีเดียวพอดี ก็คือสี PO-01 ซึ่งสีนี้ค่อนข้างจะขาวกว่าสีผิวปิงไปมากเลยแหละ แต่ก็ไม่เป็นไรเนาะ เรามาพูดถึงคุณสมบัติของเขาดีกว่า ส่วนเรื่องสีเพื่อนๆไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะว่าตอนนี้เขาได้ออก 12 เฉดสีใหม่ที่เหมาะกับสาวเอเชียนะคะ รวมของเดิมก็เป็น 24 สี ซึ่งเพื่อนๆก็สามารถไปลองได้ที่เคาท์เตอร์ Lancome ได้เลยนะคะ ^^ >> มาพูดถึงเนื้อของเขากันเลยดีกว่า จะบอกว่าเนื้อของเขาค่อนข้างเหลว เกลี่ยง่าย และไม่มีความมันเลยนะคะ แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่ดี ดังนั้นรองพื้นตัวนี้ ก็เหมาะกับทุกสภาพผิวของเพื่อนๆทุกคนแน่นอน สบายใจหายห่วง >> กลิ่นหอมนะคะ คิดว่าเพื่อนๆน่าจะชอบเหมือนปิงนะ >> SPF 38 / PA+++ คิดว่าโอเคเลยน้า >> จากรูปที่ 4,5 จะเห็นได้ว่าไม่ได้ลงหนาเท่าไหร่ แต่ Lancome TEINT IDOLE ULTRA WEAR FOUNDATION ให้การปกปิดที่ดีมาก มากจริงๆ ทำให้ปิงรู้สึกไม่หนักหน้า และสบายผิวมากๆ และ จะเห็นได้เลยนะคะว่าหน้าผากของปิงมีสิว แต่ปิงไม่ได้ลงคอนซีลเลอร์เลยนะ Lancome TEINT IDOLE ULTRA WEAR FOUNDATION ตัวเดียว เอาอยู่ และเมื้อเนื้อเขาแห้ง เขาจะกลายเป็นเนื้อแมทท์ จริงๆปิงคิดว่าไม่ต้องลงแป้งทับก็ได้นะคะ ดังนั้น ในการรีวิวนี้ปิงเลยไม่ลงแป้งค่ะ >> จากรูปที่ 6 นะคะ เป็นเวลา 8.30 น. นะคะ  วันนี้ปิงมีเรียน summer และไปทำธุระข้างนอก ต้องเผชิญกับแดด มลภาวะต่างๆ แต่พอถึงระหว่างวัน หน้าไม่เป็นคราบเลยค่ะ เมคอัพและรองพื้นยังติดทนเหมือนตอนทาใหม่ๆเลย >> จากรูปที่ 7 นะคะ เป็นเวลา 23.00 น. นะคะ เพิ่งกลับห้อง เพราะเพิ่งทำโปรเจ็คเสร็จ และไม่ได้มีการเติมเมคอัพใดๆเลยนะคะ จะเห็นได้ว่า หน้ายังเป๊ะอยู่!! OMG ณ จุดนี้ก็ตกใจตัวเองเหมือนกันค่ะ 555555 เพราะมัวแต่ทำงานแล้วก็ไม่ได้สนใจหน้าตัวเองเลย กลับมาถึงห้องก็เพิ่งได้ส่องกระจกนี่แหละ ก็จะเห็นว่าหน้าไม่ได้เยิ้มอะไรขนาดนั้น ก็มีจมูกที่มีความมันมากหน่อย แต่นั้นก็เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะปิงเป็นคนผิวผสม ช่วง T-zone จะมันมากอยู่แล้ว ดังนั้นปิงเลยได้ลองซับความมัน (รูปที่ 8) บริเวณ U-zone แทนนะคะ เพื่อที่จะได้รีวิวได้ยุติธรรม 55555 ก็จะเห็นได้ว่า เป็นเวลาประมาณ 15 ชม. นะ ถือว่าคุมความมันได้ดีมากกกก ดีมากจริงๆ แถมยังช่วยให้เมคอัพติดทนอีกด้วย จริงๆเขาเคลมมาว่าติดทนถึง 24H นะคะ และปิงก็คิดว่าถ้าปิงรอถึง 24 ชม. จริงๆ เขาก็ยังจะติดทนจริงๆ เพราะขนาด 15 ชม. ซึ่ง มันเกินครึ่งของคำที่เขาเคลมแล้วอะ หน้ายังไม่หลุดยังเป๊ะอยู่เลย ถ้ารอถึง 24 ชม. จริงๆ เชื่อสิ หน้าเราก็จะยังเป๊ะอยู่แน่นอน และจากตอนแรกที่เห็นว่าสีของเขาขาวกว่าหน้าปิงมากๆ แต่พอผ่านไปสักระยะเหมือนเขา oxidize แล้วมันเนียนไปกับสีผิวปิงเลยค่ะ อันนี้ตกใจมากๆ แล้วนานขนาดนี้หน้ายังไม่ดรอปลงเลยอะ ไอเลิ้บบบ >> สรุปนะคะ สำหรับเจ้า Lancome TEINT IDOLE ULTRA WEAR FOUNDATION อันนี้กล้ายืนยันได้เลยว่าของเขาดีจริงๆ นี่ยังเซอร์ไพรส์ไม่หานเลยอะ เห้ย ทำได้ไงเนื้อบางเบาแต่ให้การปกปิดแบบ full coverage และยังติดทนนานได้ขนาดนี้โดยไม่ต้องเติมหน้าอีกด้วย แล้วยังให้เนื้อสัมผัสเบาสบายไม่หนักหน้า เป็นงานผิว แถมยังควบคุมความมันได้แบบเริ่ดที่สุดอะ เอาจริงๆ ใครยังไม่ได้ลอง ลองไปลองดูนะคะ ถ้ายังไม่กล้าซื้อก็ลองไปขอรับขนาดทดลองดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าปิงโม้ 5555555555 ยังไงก็ขอบคุณที่อ่านรีวิวนี้จนจบนะคะ ^^
more
Sun Extra Protect Aura Primer Sun Care SPF50+ PA+++
NIVEA
Sun Extra Protect Aura Primer Sun Care SPF50+ PA+++
รีวิว NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++        เพื่อนๆเคยไหมคะ แต่งหน้าที่ไร หน้าเป็นคราบทู๊กที!! เป็นปัญหาตลอดเลยเนอะ กับเจ้าครีมกันแดดเพราะกันแดดมันไม่ซึมผิว เคลือบหน้าเราไว้เฉยๆ พอมันผสมกับเมคอัพ หน้าเราจึงเป็นคราบ แต่จะไม่ทาก็ไม่ได้ จะไม่แต่งหน้าก็ไม่ได้อีก เห้ออออออ         แต่นับจากนี้ไปปัญหาเหล่านี้จะหมดไป!! เพราะวันนี้ปิงจะมาพูดถึงไอเท็มเด็ดๆสำหรับเพื่อนๆที่รักในการแต่งหน้าเหมือนปิงนะคะ นั่นก็คือตัวนี้เลยย NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++       ซึ่งความพิเศษของเขาก็คือเป็นไพร์เมอร์ผสมกันแดด ทำให้สะดวกมากๆต่อการใช้งาน เนื้อครีมของเค้าจะเป็นเนื้อสีชมพูพิ้งไพร์เมอร์ จะช่วยปกปิดรูขุมขน และช่วยให้เมคอัพติดทนและเรียบเนียน จากรูปที่ปิงใช้กระดาษซับมันกับเจ้า NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ แล้วทิ้งไว้เป็นเวลา 2 นาที จะเห็นได้ชัดเลย ว่าไม่มีความมันเลย แต่ที่เห็นกระดาษเปียก นั่นก็คือเนื้อเขาจะคล้ายๆน้ำ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นนั่นเอง ไม่ใช่น้ำมันนะคะอย่าเข้าใจผิด ^^ ดูได้จากรูปที่ปิงเกลี่ยเนื้อครีมที่หลังมือ หลังจากเกลี่ยเสร็จเขาทิ้งความชุ่มชื่นไว้จริงๆค่ะ          วิธีใช้ก็ง่ายๆเลยค่ะ ใช้เหมือนครีมกันแดด ลงก่อนแล้วแต่งหน้าได้ทันที         ความพิเศษของเขายังไม่หมดเพียงแค่นี้นะคะ ไม่ใด้แค่ช่วยให้เมคอัพติดทนและปกป้องแสงแดดเท่านั้น แต่เขายังผสมคุณค่าอีกหลายๆชนิด ที่ช่วยบำรุงหน้าเราอีกด้วย และยังมีลักษณะเฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่ไหน ได้แก่ - Double UV Protection ปกป้องเต็มที่ด้วย SPF50+ และ PA+++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA, UVB สาเหตุหนึ่งของผิวคล้ำเสีย ฝ้าแดด กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย - Aura Booster สูตรเฉพาะจากนีเวีย ซัน และคงความชุ่มชื่น ให้ผิวด้วย Vitamin E - Licorice Extract สารสกัดจากธรรมชาติ ฟื้นบำรุง ผิวให้ดูขาวกระจ่างใส - Titanium Dioxide มีประสิทธิภาพในการป้องกันแดด และปรับความกระจ่างใสให้แก่ใบหน้า - Perfect Make-up Preparation เนื้อครีมสีชมพูอ่อน บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบ ลงสู่ผิวได้รวดเร็ว เหมาะกับทุกสภาพผิวแต่งหน้าดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ขาวลอยใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้        มาพูดถึงเนื้อครีมของเขากันดีกว่าค่ะ  เนื้อครีมของเค้าจะเกลี่ยง่าย คล้ายๆน้ำเลย บางเบา ซึมซาบง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่มีความมันเลย คิดว่าเพื่อนๆที่ผิวมันต้องชอบมากแน่ๆ  แต่คนผิวแห้งผิวธรรมดาก็ใช้ได้ด้วยเช่นกันเพราะเขาจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ใบหน้า ทำให้หน้าไม่แห้งเป็นขุยอีกด้วย ถึงเนื้อครีมจะเป็น Pink Primer สีมพู แต่พอทาออกมาแล้วไม่ทำให้หน้าเป็นสีชมพูหรือเทาน้า หลังทาแล้วไม่มีสีนะ เป็นข้อดีมากๆเลย เพราะสีรองพื้นเราก็จะไม่เปลี่ยน สบายใจหายห่วงได้เลย !!          จากรูปจะเห็นได้ชัดเลยว่า หลังทาหน้ากระจ่างใสมีออร่าขึ้นมาทันทีหลังใช้!! แต่เขาจะช่วยปรับให้สีผิวของใหน้าเรากระจ่างใสดูเป็นธรรมชาติ เพื่อนๆหายกังกลเรื่อง หน้าวอกหน้าลอยได้เลยน้า ^^        หลังจากแต่งหน้าเสร็จ จากในรูปเป็นเวลา 08.00 น. น้า จะเห็นได้ชัดว่ารูขุมขนเรียบเนียนขึ้นจริงๆ        ---------------------------------------------------------------------        ระหว่างวัน ไม่น่าเชื่อ เมคอัพยังติดทนอยู่เลย ขนาดประชุมทั้งวัน ปิงแอบงีบด้วย 55555 แต่เมคอัพไม่หลุดเลยย หน้าไม่มันด้วย แถมหน้าไม่เป็นคราบอีกด้วย ไอเลิ้บบบ !!        --------------------------------------------------------------------   และนี้ก็คือผลลัพธ์หลังจากทำธุระมาแล้วทั้งวันนะคะ  ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลา 19.30 น. แล้วนะคะ จะเห็นได้เลยว่าหน้าไม่เป็นคราบเลย ถึงแม้จะประชุมทั้งวัน และออกไปทานข้าวข้างนอกเจอทั้งแดดทั้งมลภาวะต่างๆ ที่สำคัญเมคอัพแทบจะไม่หายเลย และหน้ายังกระจ่างใสอยู่เลย ไม่ดรอปลงเลย หน้าก็อาจจะมีความมันบ้าง แต่ถือว่ามันน้อยมากๆ ถือว่า NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++ คุมมันได้ดีจริงๆ บอกได้เลยว่าประทับใจสุดๆไปเลย เพราะปัญหาที่หนักใจจริงๆก็คือกันแดดที่ทำให้หน้าเป็นคราบนี่แหละ แต่เจ้าตัวนี้คือทั้งช่วยอัพความกระจ่างใส ปรับผิวให้เรียบเนียน เมคอัพติดทน และยังผสมกันแดดที่มี SPF50+ แน่ะ ดีงามมากๆจริงๆ ตัวนี้ขอบอกต่อเลย ให้ 10 10 10 ไปเลยจ้า เพราะราคาก็ไม่แพงด้วย แถมคุณภาพเกินราคาอีกสะงั้น 55555555 เอาเป็นว่าสำหรับปิง ปิงขอยกให้ NIVEA Sun Protect & White Instant Aura Serum SPF50+ PA+++เป็นไอเท็มที่ต้องมีสำหรับเพื่อนๆที่รักในการแต่งหน้าเหมือนปิงนะคะ ^^
more
Natural Filler Hyaluron
Parrot
Natural Filler Hyaluron
แพรอทครีมอาบน้ำเนเชอรัลฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนมอร์นิ่งพีโอนี่ เนื้อครีมเข้มข้นมาก แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ส่วนกลิ่นก็หอมมากๆ หอมแบบหวานๆโรแมนติกๆอ่ะค่ะ (เพิ่งรู้ว่ากลิ่นนี้เขาพิเศษมากๆ เพราะมาจากดอกพีโอนี่ที่รังสรรค์โดย Perfume Master ระดับโลก) ขนาดล้างออกแล้วก็ยังติดตัวอยู่เลย ปกติไม่ใช้น้ำหอม ใช้แค่ครีมอาบน้ำแพรอท เนเชอรัลฟิลเลอร์ ไฮยาลูรอนมอร์นิ่งพีโอนี่ นี่แหละ แต่เพื่อนทักตลอดเลยว่าตัวหอม หลังจากล้างออกแล้ว (ขอบอกว่าล้างออกง่ายมากๆ) รู้สึกว่าผิวไม่แห้งตึงเลย รู้สึกว่า แพรอทครีมอาบน้ำเนเชอรัลฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนมอร์นิ่งพีโอนี่ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิว ด้วยไฮยาลูรอน ฟิลเลอร์ธรรมชาติ + ทริปเปิ้ลมอยส์เจอร์ รู้สึกได้ว่าผิวนุ่มชุ่มชื่นสุดๆไปเลยย ^^ หลังจากที่ได้ใช้มาสักพัก รู้สึกได้เลยว่าผิวเนียนกระจ่างใสขึ้น และผิวยังเด้งอิ่มน้ำอีกด้วย ปกติจะกลัวการใส่เสื้อที่โชว์ผิวมากๆ แต่พอใช้ไปได้สัก 2 อาทิตย์ เพื่อนก็ทักเยอะเลยว่า ผิวเราเนี่ยดูสุขภาพดีขึ้น ถ้าลองใส่เสื้อผ้าน่ารักๆ เปิดไหล่ โชว์ผิวที่หลังนิดๆ ก็คงจะดูดีไม่น้อย เราเลยลองใส่ดูเป็นครั้งแรกในชีวิตเลย 5555 พอเพื่อนถ่ายรูปให้ดูถึงได้รู้ว่าเราเองก็มีผิวที่สวยเหมือนกันนะเนี่ย 5555 ขนาดเป็นคนขี้เกียจ โลชั่นก็ไม่ค่อยทา สุดท้ายนี้ขอบคุณ แพรอทครีมอาบน้ำเนเชอรัลฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนมอร์นิ่งพีโอนี่ มากๆนะคะ ที่ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะแต่งตัวมากขึ้น ^^ ปล.จริงๆลงก่อนวันหมดเขตแล้วนะคะ แต่พอดีฝากรูปก็เลยโดนลบ ตอนนี้เลยรวมเป็นอันเดียวแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ
more
Hyaluron Mist Spray
Eucerin
Hyaluron Mist Spray
Eucerin HYALURON Mist Spray เขาจะพิเศษกว่าสเปรย์น้ำแร่ทั่วไป เพราะว่า เขาเป็น HYALURON เข้มข้นในรูปแบบละอองน้ำอนุภาคไมโคร ที่สามารถอุ้มน้ำได้ถึง 1000 เท่า เพราะฉะนั้นเขาจะช่วยกักเก็บน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวที่แห้งเนี่ยได้อิ่มน้ำได้ยาวนานขึ้น อีกทั้งเพราะมี Hyarulon เข้มข้น เขาก็เลยจะช่วยในเรื่อง ริ้วรอยตื้นจากผิวแห้งระคายดูจางลง ก็คือ เครื่องสำอางค์ไม่ตกร่อง เพื่อให้เพื่อนๆเห็นภาพนะคะ ปิงได้เอาเจ้าตัว EUCERIN HYALURON Mist Spray กับ Mineral water spray ไปทดสอบที่แขน ผลลัพธ์ก็คือเมื่อเวลาผ่านไป 2 นาที Mineral water spray ได้ระเหยออกไปบางส่วน ไม่ซึมเข้าผิว และไม่หลงเหลือความชุ่มชื่นอยู่เลย ส่วน EUCERIN HYALURON Mist Spray ซึมซาบเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังคงความชุ่มชื่นไว้ ทีนี้ปิงเลยลองใช้ก่อนแต่งหน้า และฉีดทับเครื่องสำอางหลังแต่งหน้าอีกที ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ช่วงเวลา 6.40 – 18.30 น. หน้ายังคงความชุ่มชื่นอยู่โดยที่ปิงไม่ได้ฉีดซ้ำแต่อย่างใด แม้จะขับรถตากแดด หรือออกไปข้างนอกก็ตาม ผิวก็ยังมีความนุ่ม ชุ่มชื่นอยู่ ที่สำคัญเขายังช่วยให้เมคอัพติดทนนานยิ่งขึ้นค่ะ เพราะปกติทั้งเหงื่อทั้งอากาศปกติหน้าปิง ต้องละลายแล้ว 55555 และที่สำคัญก็คืออย่างที่บอกไปว่าเขาจะช่วยเติมรอยตื้นๆของผิวเรา ก็เลยทำให้ทั้งวันนี้ไม่มีเครื่องสำอางค์ตกร่องเลยค่ะ อ้อ ! แล้วที่สำคัญนะคะ เพื่อนๆที่ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้นะคะ เพราะว่า เขาไม่ผสมน้ำหอมและพาราเบนหรือสารกันเสียนะคะ ก็รับรองได้เลยว่าเขาจะอ่อนโยนต่อผิวเราแน่นอนค่ะ สรุปนะคะ สำหรับเจ้า EUCERIN HYALURON Mist Spray ที่ราคาเพียงแค่ 550 บาท แต่สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นขนาดนี้ ปิงว่าคุณภาพของเขาคุ้มเกินราคามากๆนะ แถมยังช่วยเรื่องริ้วรอย และยังทำให้เมคอัพและ skin care มีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย แถมยังช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน และเปล่งปลั่งขึ้นอีกด้วย ยังไงถ้าเพื่อนๆสนใจ สามารถสั่งได้ที่เพจของ Eucerine หรือห้างสรรพสินค้าออนไลน์ก็มีนะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวไปก่อนน้า ไว้ปิงมีอะไรดีๆอีก จะรีบนำมาแบ่งปันเพื่อนๆเล้ยย ^^
more
Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment
Eucerin
Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment
กลิ่น : คิดว่าเป็นกลิ่นเอกลักษณ์ของ Eucerine อยู่แล้ว ส่วนตัวชอบนะ หอมดี เนื้อผลิตภัณฑ์ : เข้มข้นมากๆ แต่เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่รู้สึกเหนอะหนะ ไม่มีความมัน เพราะเป็นสูตร oil-control ทำให้ลดความมันในร่องรูขุมขุน และยังช่วยให้หน้าเนียนใส ไม่ไวต่อการเกิดสิว แถมยังมีส่วนผสมของ 10% Hydroxy acid ที่ช่วยจัดการปัญหาเรื่องสิวอีกด้วย ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังใช้ : ผลลัพธ์ก็ตามรูปเลยค่ะ ใช้เพียง 7 วัน แต่สิวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แถมยังสามารถจัดการปัญหาจากหัวสิวได้ดีทีเดียว แต่ว่าไม่ได้รู้สึกว่าเขาช่วยรักษาสิวอย่างเดียวนะคะ เพราะเวลาทาแล้วรู้สึกผิวหน้าชุ่มชื่น ฟื้นบำรุงเซลล์ผิว และรู้สึกว่าผิวหน้ามีความเรียบเนียนมากกว่าเดิมด้วย ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่มีปัญหาเรื่องสิวอยู่ก็อย่าลังเลใจที่จะลองเจ้าตัวนี้เลยน้า เพราะว่าเขาได้ผ่านการทดสอบการแพ้มาแล้ว และยังปราศจากพาราเบนหรือสารกันเสียนั่นเอง รับรองได้ว่าไม่ทำให้หน้าลอกหน้าพังแน่นอนจ้า ส่วนเรื่องราคา จริงๆก็แอบสูงอยู่ ประมาณ 1,100 บาท แต่ปิงว่าคุ้มค่านะ ดีกว่าซื้อของที่เราไม่แน่ใจว่าจะแพ้รึปล่าว ไม่คุ้มกันเลยนะ ยอมเสียราคา 1,100 แลกกับหน้าใสๆปิงว่ามันก็คุ้มอยู่นะคะ ดีกว่าไปคลินิก เพราะอาจจะแพงกว่านี้ แถมยังเสียเวลา เสียค่าเดินทางอีกด้วย ส่วนขนาด เขาให้มา 40 ml ปิงว่าก็เยอะนะ แถมเขาให้มาเต็มหลอดด้วย เพราะเราไม่ได้ใช้เยอะ บีบนิดเดียวก็พอ เพราะเนื้อครีมเขาเกลี่ยง่าย ทำให้เกลี่ยได้เป็นวงกว้าง ดังนั้นจึงไม่ทำให้เปลืองครีมเท่าไหร่ 555 คิดว่าใช้ได้นานอยู่นะหลอดนึง
more