เคยมั้ย? ตื่นมาแล้วรู้สึกว่าตัวบวมขึ้นแบบผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า แขน ขา และฝ่ามือ ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของอาการบวมน้ำนั่นเองค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอันตราย แต่อาการบวมน้ำก็อาจจะทำให้สาว ๆ รู้สึกอึดอัด และไม่สบายตัวได้ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะวันนี้ *Cosmenet จะพามาทำความรู้จักกับอาการบวมน้ำ พร้อมแนะนำวิธีลดบวมด้วยตัวเองอย่างปลอดภัยและเห็นผล!
อาการบวมน้ำ
สำหรับคนที่มีอาการบวมน้ำ นอกจากจะมีอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่ายกายแล้ว อาจจะมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย ดังนี้
- มีอาการบวมที่บริเวณหนังตา ใบหน้า แขน ขา ท้อง ฝ่ามือ หรือบางคนอาจจะมีอาการบวมทั้งตัว
- ผิวหนังตึงและมีความมันวาว
- เมื่อใช้นิ้วกด หรือจิ้มค้างไว้ที่บริเวณผิวหนังประมาณ 5 วินาที จะทำให้เกิดรอยบุ๋ม
- หน้าท้องจะขยายทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
- ในกรณีที่เท้าบวมน้ำ หรือเข่าบวมน้ำ อาจจะส่งผลกระทบต่อการเดิน
อาการบวมน้ำ เกิดจาก
- รับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด : อาการบวมน้ำจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า “บวมโซเดียม” เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของเกลือโซเดียมมากเกินไป เช่น อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงอาหารทุกประเภทที่มีส่วนผสมของผงชูรส ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปมาก ๆ ก็จะทำให้เรารู้สึกกระหายน้ำ และดื่มน้ำมากกว่าปกติ ส่งผลให้ไตใช้เวลาในการขับน้ำออกมานานขึ้นจนทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้
- การตั้งครรภ์ : คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีระดับฮอร์โมนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ มีการดูดซึมน้ำและกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำ มือเท้าบวม ตัวบวมตามมาได้ค่ะ
- ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนก็ส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำได้เช่นกันนะคะ โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน เมื่อฮอร์โมนเพศไม่สมดุลก็จะส่งผลให้ร่างกายกักเก็บของเหลวเอาไว้มากกว่าปกติ ทำให้ตัวเราดูบวม ๆ นั่นเองค่าา
- การนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ : เมื่อร่างกายของเราไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดภาวะคั่งของน้ำในเซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะเวลานั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ จะสังเกตเห็นว่าข้อเท้าและขามีอาการบวมน้ำ
- อาการเจ็บป่วย หรือการใช้ยาบางชนิด : อาการบวมน้ำอาจมีสาเหตุมาจากอาการเจ็บป่วย เช่น โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ หรือต่อมน้ำเหลือง, เส้นเลือดขอด, ภาวะขาดโปรตีนอย่างรุนแรง, อาการแพ้อย่างรุนแรง, โรคไต, โรคตับ และภาวะหัวใจวาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจจะเกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด, ยาแก้อักเสบ, ยาเอสโตรเจน, ยาสเตียรอยด์, ยารักษาความดันโลหิตสูง และยารักษาโรคเบาหวานบางชนิดด้วยค่ะ
วิธีลดบวม ลดอาการบวมน้ำ
1. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด
อย่างที่บอกไปในตอนต้นค่ะว่าการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ เพราะฉะนั้นสาว ๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรืออาหารสเค็มจัดหรืออาหารสำเร็จรูปที่มีเกลือโซเดียมเยอะ เพราะอาจจะทำให้อาการบวมน้ำแย่ลงได้ค่ะ
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
สำหรับใครที่มีความเชื่อผิด ๆ ว่าไม่ควรดื่มน้ำขณะมีอาการบวมน้ำ ต้องรีบเปลี่ยนความคิดโดยด่วนเลยค่ะ เพราะการดื่มน้ำ ไม่เพียงแค่ช่วยปรับสมดุลของร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยขับโซเดียมให้ออกไปกับปัสสาวะ ซึ่งช่วยลดอาการบวมน้ำได้เป็นอย่างดี โดย ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันจะอยู่ที่ประมาณ 8 แก้วนั่นเองค่าา หรือถ้าจะลองคำนวณปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการต่อวันแบบเป๊ะ ๆ ก็ไปดูกันได้ที่นี่ค่ะ >> จิ้มเลย ♥
3. ดื่มน้ำผลไม้หมัก (Infused Water)
เป็นเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สำหรับการดื่มน้ำผลไม้หมัก (Infused Water) ที่เป็นการนำผลไม้ ผัก หรือสมุนไพรต่าง ๆ มาใส่ลงไปในน้ำเปล่า ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำเปล่าและทดแทนความอยากน้ำหวานได้แล้ว การดื่มน้ำผลไม้หมักยังเป็นวิธีขับโซเดียมออกจากร่างกาย ช่วยลดตัวบวมเร่งด่วน หรือลดบวมโซเดียมอีกด้วยน้าา
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังเป็นการป้องกันอาการบวมน้ำ และช่วยลดอาการตัวบวมจากการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยเกินไป โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานหลายชั่วโมงต่อวัน บอกเลยว่าเสี่ยงตัวบวมง่ายมาก ๆ การว่ายน้ำประมาณ 30-60 นาทีต่อวัน จะช่วยดันน้ำในส่วนที่ขังอยู่ในร่างกายออกมา เพราะแรงดันจากน้ำในสระนั้นค่อนข้างหนาแน่นมาก จึงเป็นวิธีลดอาการตัวบวมได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
5. รับประทานอาหารลดบวม
เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอาหารบางประเภทช่วยลดอาการบวมน้ำ และลดบวมโซเดียมได้ ถ้าอยากรู้ว่าจะมีอะไรบ้างก็รีบตามมาดูกันเลยค่าา
- แตงกวา : ในแตงกวามีสารโพลีฟีนอลที่ช่วยขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย เมื่อรับประทานเข้าไปจึงช่วยลดอาการบวมน้ำได้ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลน้ำในร่างกายด้วยค่ะ
- แตงโม : นอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่ายและยังช่วยยังช่วยขับน้ำส่วนเกินในร่างกาย ปรับสมดุลแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกายให้คงที่ เพราะฉะนั้นการรับประทานแตงโมจึงช่วยลดอาการบวมน้ำได้นั่นเองค่ะ
- กล้วย : เป็นผลไม้ที่มีมีสารโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการขับโซเดียมส่วนเกินในร่างกาย จึงช่วยลดอาการตัวบวม และลดบวมโซเดียมได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
- กีวี่ : กีวี่เป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ช่วยขับโซเดียมส่วนเกิน พร้อมปรับสมดุลของร่างกาย แถมยังช่วยลดความดัน และลดคอเลสเตอรอลในเลือดด้วยน้าา
- สับปะรด : ในสับปะรดอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และเอนไซม์ช่วยย่อย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ จึงเป็นผลไม้ที่ช่วยลดอาการบวมน้ำได้นั่นเองค่ะ
สาว ๆ ลองสังเกตุตัวเองกันดูนะคะว่าเราเข้าข่ายอาการบวมน้ำหรือไม่ ถ้าใช่ก็สามารถนำวิธีลดบวมเร่งด่วนเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้เลยน้า รับรองว่าปลอดภัยและเห็นผลแน่นอนค่าา~
ส่วนใครที่อยากมีผิวสวยเป๊ะก็สามารถตามมาอ่านทริคดื่มน้ำให้ผิวสวยสุขภาพดี ใน 1 วัน ควรดื่มน้ำกี่ลิตร? กันต่อได้เล้ยยย