ใครไม่เป็นเล็บขบ ไม่มีทางรู้! ความทุกข์นี้มีเพียงแค่เราที่เข้าใจ ;-; ทรมาณมากจนต้องขอมาหาวิธีรักษา / วิธีแก้เล็บขบ ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ เพื่อให้บรรเทาปวดนี้ไปหน่อยค่า ตามมาอ่านพร้อมกันเลย ขอบีบมือให้กำลังทุก ๆ ท่านที่กำลังเผชิญปัญหานี้
เล็บขบคืออะไร
- เล็บขบคือเล็บที่งอกไปเบียดเนื้อข้างเล็บ อาจเกิดได้บ่อยกับนิ้วหัวแม่เท้า ส่งผลให้มีอาการบวม เจ็บ แดง หรือบางรายอาจเกิดการอักเสบจนกลายเป็นหนองได้เช่นกัน ซึ่งหากเป็นก็มีวิธีรักษาตั้งแต่รักษาด้วยตัวเองไปจนถึงต้องพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์อาการกันต่อไป
เล็บขบเกิดจาก
- การตัดเล็บที่สั้นเกินไป โดยอาจตัดแบบชิดเนื้อทำให้เล็บที่งอกขึ้นมาใหม่แทงเข้าซอกเล็บ
- การใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าที่แน่นเกินไปจนเกิดการกดทับที่เล็บเท้า
- การโดนของหนักตกใส่เท้าก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดเล็บขบได้เช่นกัน
- เล็บผิดรูปตั้งแต่เกิด บางท่านจะมีกรรมพันธุ์ที่มีเล็บกว้างกว่าขนาดพื้นที่เล็บ หรือขอบเล็บมีความโค้งทำให้จิกเนื้อบริเวณนิ้วมากกว่าปกติ
อาการของเล็บขบ
- อาการเล็บขบ ระยะที่ 1 : บริเวณข้างเล็บจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย เมื่อกดจะรู้สึกเจ็บ ในระยะแรกจะยังไม่มีหนอง
- อาการเล็บขบ ระยะที่ 2 : ข้างเล็บจะมีอาการบวมมากขึ้นและเจ็บมากขึ้น อาจมีหนองไหลบริเวณเนื้อข้างเล็บ
- อาการเล็บขบ ระยะที่ 3 : มีอาการปวดและบวมแดงมาก โดยมีอาการเพิ่มขึ้นมีเนื้องอกเพิ่มขึ้นบริเวณข้างเล็บพร้อมอาการหนองไหล หรือบางรายที่มีอาการติดเชื้อรุนแรงจะมีอาการไข้ร่วมด้วย
การป้องกันและการรักษาเล็บขบ
มาถึงข้อสุดท้าย ทางเราก็ได้รวมวิธีรักษาเล็บขบ ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วยค่ะ
- ตัดเล็บเท้าให้เป็นทรงตรง ไม่ตัดแบบขอบเล็บเท้าโค้ง ถือเป็นวิธีป้องกันเล็บขบแบบง่ายที่สุดแล้ว
- ไม่ตัดเล็บให้สั้นเกินไป
- วิธีป้องกันเล็บขบที่หลายคนลืมนึกถึงคือการใส่รองเท้าและถุงเท้าให้พอดีรูปร่างเท้า หลีกเลี่ยงการบีบรัดหรือกดทับนิ้วนั่นเองค่ะ
- คอยหมั่นดูแลความสะอาดนิ้วเท้า ล้างและทำความสะอาดสม่ำเสมอ
- หมั่นแช่น้ำอุ่นวันละ 3-4 ครั้ง หลังแช่ให้เช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้ง
- หากใครที่ยังมีอาการเล็บขบไม่มาก มีเทคนิคแทรกสำลีแก้เล็บขบที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นได้ด้วยนะคะ วิธีคือหลังอาบน้ำให้เช็ดทำความสะอาดนิ้วเท้าให้แห้งสนิท จากนั้นใช้สำลีชิ้นเล็กค่อย ๆ ยัดบริเวณใต้เล็บที่มีอาการเล็บขบ ไม่ต้องยัดแน่น วิธีนี้จะช่วยยกเล็บลดอาการกดทับแล้วเจ็บได้
- หากท่านไหนที่มีอาการอักเสบมากและไม่ดีขึ้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาหรือรับประทานยาร่วมเพื่อบรรเทา
และนี่ก็คือข้อมูลที่เรารวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ในวันนี้ หากเพื่อน ๆ คนไหนมีอาการหนักมาก ๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้นะค้า แนะนำให้ไปหาหมอเพื่อหาแนวทางการรักษาต่อไปนะ
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะทุกคน
xoxo