สาระน่ารู้
9 ส่วนผสมสกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน จับคู่ผิดชีวิตเปลี่ยน!
127,851 1 ธ.ค. 2565
รู้หรือไม่ว่า สกินแคร์บำรุงผิวไม่ได้ใช้ด้วยกันได้หมดทุกตัวนะ เพราะมีส่วนผสมบางอย่าง และวิตามินบางตัวที่ห้ามใช้ด้วยกันอยู่ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ไปดูกันเล้ย~
ต้องยอมรับเลยว่าสกินแคร์ที่มีประโยชน์กับผิวเรานั้น มันไม่สามารถจะประโคมทุกตัวลงไปได้ ความเหงามีขั้วบวกขั้วลบยังไง สกินแคร์ก็มีความเป็นบวกเป็นลบได้เหมือนกันจ้า (เกี่ยวเรอะ555) หมายความว่า ส่วนผสมสกินแคร์บางตัวใช้ดีจริง ๆ แต่ถ้าเราจับคู่น้องเขาไม่ดี ส่วนผสมสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้คู่กันก็จะลดทอนหรือหักล้างคุณประโยชน์ต่อผิวได้ ทำให้ทาเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นผลนั่นเอง ก่อนเสียเงินซื้อสกินแคร์ใช้ ก็มาดูกันดีกว่าว่าส่วนผสมสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้คู่กันมีอะไรบ้าง ~
ส่วนผสมสกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน รู้ไว้ก่อนหน้าพัง!
สกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน : AHA / Retinol Vitamin C
เรตินอล และเอเอชเอ ห้ามใช้คู่กับวิตามินซี ใครที่อยากหน้าใสแล้วอยากให้ 2 ตัวนี้ผสานพลังกันก็คือต้องหยุดก่อน เพราะแม้จะออกฤทธิ์คล้ายกัน แต่เรตินอลและวิตามินซีจะทำงานในค่า pH ที่ต่างกัน ทำให้ใช้แล้วไม่ได้ผลดีอย่างที่คิดเอาไว้
ส่วนใครที่ใช้ AHA อยู่แล้ว ก็ต้องหยุดการใช้วิตามินซีก่อนจ้า เพราะ AHA จะทำให้ pH ผิวนั้นเปลี่ยนไป และวิตามินซีจะมีประสิทธิภาพลดลง เลยเป็นสาเหตุว่าทำไมเราใช้ส่วนผสมพวก AHA / Retinol คู่กับ Vitamin C แล้ว ผิวไม่ใสขึ้นเลยนั่นเอง ~
วิธีการใช้ AHA / Retinol Vitamin C ที่เหมาะสม คือ ใช้ Vitamin C ในตอนเช้า และใช้ AHA หรือ Retinol ในตอนกลางคืน เพื่อไม่ให้ผิวไวต่อแดดเกินไปจ้า
BHA ห้ามใช้กับ Vitamin C นะคะะ แน่นอนว่า ทั้ง 2 ตัวเป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่เราไม่ควรจับคู่ความเป็นกรด และส่วนผสมสกินแคร์ที่ผลัดเซลส์ผิวเข้าด้วยกัน นอกจากจะรบกวนผิวเกินความจำเป็นแล้ว อาจทำให้ผิวอ่อนแอ และก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ เช่น ผิวบาง ฝ้า กระ สิว จากการที่ผิวอ่อนแอชั่วคราวได้จ้าา
ถึง BHA กับ Vitamin C จะไม่ควรใช่ร่วมกัน แต่ก็มีวิธีการใช้ BHA กับ Vitamin C ที่เหมาะสมอยู่นะ คือ การสลับ ๆ กันใช้แบบวันเว้นวันไปเลย ไม่เสียของ และได้ประสิทธิภาพด้วยจ้า สิ่งที่ห้ามลืมเลย ก็คือ ครีมกันแดด ที่ต้องทาทุกเช้าหลังลงสกินแคร์จ้า ยิ่งใช้สกินแคร์ที่เป็นกรด เราต้องปกป้องผิวกันจากแดดกันหนัก ๆ ด้วยนะ จะได้ไม่หน้าไหม้หน้าหมองซ้ำซากจ้า
Niacinamide ห้ามใช้ร่วมกับ Vitamin C เพราะ Niacinamide (ไนอาซีนาไมด์) คือ วิตามินบี 3 ที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว และเพิ่ม Ceramide (เซราไมด์) ที่ช่วยปกป้องผิวจากการขาดน้ำ ได้เดินทางมาเจอกับ Vitamin C จะทำให้วิตามินซีเปลี่ยนสี นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงแล้ว การที่วิตามินซีเกิดการเปลี่ยนสี จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ด้วยนะ!
แนะนำวิธีการใช้ Niacinamide ร่วมกับ Vitamin C ที่เหมาะสม ก็คือ ใช้สลับกันไปเลย อาจจะวันเว้นวัน หรือใช้วิตามินซีตอนเช้า ใช้ Niacinamide ตอนเย็น ก็ได้ สกินแคร์บางตัวก็ใส่ส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้เข้าด้วยกันนะ แต่แน่นอนว่าแบรนด์ก็จะจำกัดปริมาณมาอย่างเหมาะสมแล้วไม่เกิดปฏิกริยาที่ทำลายประสิทธิภาพของวิตามินซีจ้า
เรตินอล ห้ามใช้คู่กับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เพราะการใช้คู่กัน นอกจากจะลดทอนประสิทธิภาพของกันและกันแล้ว ยังทำให้เกิดความระคายเคืองผิวได้ด้วย เนื่องจากประสิทธิภาพของเรตินอล คือการผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนริ้วรอย ส่วนเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์นั้นจะช่วยลดสิวได้ดี
วิธีการใช้ AHA / Retinol Vitamin C ที่เหมาะสม คือ ใช้ Vitamin C ในตอนเช้า และใช้ AHA หรือ Retinol ในตอนกลางคืน เพื่อไม่ให้ผิวไวต่อแดดเกินไปจ้า
สกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน : BHA Vitamin C
BHA ห้ามใช้กับ Vitamin C นะคะะ แน่นอนว่า ทั้ง 2 ตัวเป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่เราไม่ควรจับคู่ความเป็นกรด และส่วนผสมสกินแคร์ที่ผลัดเซลส์ผิวเข้าด้วยกัน นอกจากจะรบกวนผิวเกินความจำเป็นแล้ว อาจทำให้ผิวอ่อนแอ และก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ เช่น ผิวบาง ฝ้า กระ สิว จากการที่ผิวอ่อนแอชั่วคราวได้จ้าา
ถึง BHA กับ Vitamin C จะไม่ควรใช่ร่วมกัน แต่ก็มีวิธีการใช้ BHA กับ Vitamin C ที่เหมาะสมอยู่นะ คือ การสลับ ๆ กันใช้แบบวันเว้นวันไปเลย ไม่เสียของ และได้ประสิทธิภาพด้วยจ้า สิ่งที่ห้ามลืมเลย ก็คือ ครีมกันแดด ที่ต้องทาทุกเช้าหลังลงสกินแคร์จ้า ยิ่งใช้สกินแคร์ที่เป็นกรด เราต้องปกป้องผิวกันจากแดดกันหนัก ๆ ด้วยนะ จะได้ไม่หน้าไหม้หน้าหมองซ้ำซากจ้า
แต่ถ้าใครยังสับสนว่า AHA & BHA ต่างกันยังไง จิ้มดูข้อมูลได้ที่นี่เลย ♥
สกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน : Niacinamide Vitamin C
Niacinamide ห้ามใช้ร่วมกับ Vitamin C เพราะ Niacinamide (ไนอาซีนาไมด์) คือ วิตามินบี 3 ที่ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิว และเพิ่ม Ceramide (เซราไมด์) ที่ช่วยปกป้องผิวจากการขาดน้ำ ได้เดินทางมาเจอกับ Vitamin C จะทำให้วิตามินซีเปลี่ยนสี นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงแล้ว การที่วิตามินซีเกิดการเปลี่ยนสี จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ด้วยนะ!
แนะนำวิธีการใช้ Niacinamide ร่วมกับ Vitamin C ที่เหมาะสม ก็คือ ใช้สลับกันไปเลย อาจจะวันเว้นวัน หรือใช้วิตามินซีตอนเช้า ใช้ Niacinamide ตอนเย็น ก็ได้ สกินแคร์บางตัวก็ใส่ส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้เข้าด้วยกันนะ แต่แน่นอนว่าแบรนด์ก็จะจำกัดปริมาณมาอย่างเหมาะสมแล้วไม่เกิดปฏิกริยาที่ทำลายประสิทธิภาพของวิตามินซีจ้า
สกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน : Retinol Benzoyl Peroxide
เรตินอล ห้ามใช้คู่กับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เพราะการใช้คู่กัน นอกจากจะลดทอนประสิทธิภาพของกันและกันแล้ว ยังทำให้เกิดความระคายเคืองผิวได้ด้วย เนื่องจากประสิทธิภาพของเรตินอล คือการผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนริ้วรอย ส่วนเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์นั้นจะช่วยลดสิวได้ดี
*Cosmenet แนะนำว่า ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการใช้ 2 สิ่งนี้ร่วมกันไปเลยย ของแรงมาเจอกับของแรง หน้าก็เสี่ยงพังสุด ๆ สิคะจะรออะไร สำหรับใครที่ไม่รู้แล้วยังฝืนใช้อยู่ อาจทำให้ผิวหน้าแห้ง แสบ และระคายเคืองได้นะ พักก่อน!!
วิตามินซี ไม่ควรใช้กับ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ แน่นอนว่าส่วนผสมในสกินแคร์ตระกูลกรด อย่างวิตามินซี เรตินอล AHA/BHA นั้น ช่วยผลัดเซลส์ผิวได้ดีสุด ๆ อยู่แล้ว ในส่วนเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ก็มีความสามารถในการช่วยละลายหัวสิวสำหรับคนที่รักษาสิวก็จะรู้ดีถึงประโยชน์ข้อนี้ แต่ว่าการที่เราจะเอา 2 สิ่งมาใช้ร่วมกัน บอกเลยว่ารับรู้ได้ถึงความแสบ และอาจเกิดความแหกขึ้นได้แน่นอน!
การใช้ วิตามินซีคู่กับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ จะก่อให้เกิดอาการแสบ แดง ผิวแห้งตึงคันยุบยิบ และระคายเคืองผิวอย่างแน่นอน แยกกันใช้ไปเลยจะดีกว่านะคะะ หรือจะรักษาสิวให้เรียบร้อย แล้วค่อยมารักษารอยกันต่อก็ยังไม่สายจ้า ช้า ๆ แต่ชัวร์ ดีกว่ารีบแล้วยิ่งพังนะทุกคนน
Salicylic ไม่ควรใช้คู่กับ Glycolic ด้วยกันอย่างยิ่ง เนื่องจากส่วนผสมสกินแคร์ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวทั้งคู่ การใช้กรดซาลิไซลิคพร้อม ๆ กับ กรดไกลโคลิก จะทำให้เราได้รับการผลัดเซลล์ผิวมากเกินความจำเป็น ผิวหน้าของเราที่บอบบางจะทนไม่ไหวแน่นอน ส่งผลให้เกิดอาการผิวลอกง่าย ผิวแห้ง และผิวอ่อนแอระยะยาวได้ด้วย
วิธีการใช้ Salicylic Glycolic ที่เหมาะสม คือการเลือกใช้เพียง 1 ตัวเท่านั้น และควรเว้นระยะในการใช้เพื่อให้ผิวได้พักด้วยค่าา
ก็จบแล้วจ้ากับคู่พิฆาตผิว ส่วนผสมสกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน ที่บอกเลยว่าถ้าเผลอเอามาใช้คู่กัน จากผิวสวยได้กลายเป็นผิวพังแน่ ๆ บางคนอาจเคยใช้ร่วมกันแล้วไม่เกิดความระคายเคือง แต่ทางที่ดีควรเลือกศึกษาผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อน และเรื่องความสวยอย่าใจร้อนจะได้สวยอย่างยั่งยืนนะคะ ♥
สกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน : Vitamin C Benzoyl Peroxide
วิตามินซี ไม่ควรใช้กับ เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ แน่นอนว่าส่วนผสมในสกินแคร์ตระกูลกรด อย่างวิตามินซี เรตินอล AHA/BHA นั้น ช่วยผลัดเซลส์ผิวได้ดีสุด ๆ อยู่แล้ว ในส่วนเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ก็มีความสามารถในการช่วยละลายหัวสิวสำหรับคนที่รักษาสิวก็จะรู้ดีถึงประโยชน์ข้อนี้ แต่ว่าการที่เราจะเอา 2 สิ่งมาใช้ร่วมกัน บอกเลยว่ารับรู้ได้ถึงความแสบ และอาจเกิดความแหกขึ้นได้แน่นอน!
การใช้ วิตามินซีคู่กับเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ จะก่อให้เกิดอาการแสบ แดง ผิวแห้งตึงคันยุบยิบ และระคายเคืองผิวอย่างแน่นอน แยกกันใช้ไปเลยจะดีกว่านะคะะ หรือจะรักษาสิวให้เรียบร้อย แล้วค่อยมารักษารอยกันต่อก็ยังไม่สายจ้า ช้า ๆ แต่ชัวร์ ดีกว่ารีบแล้วยิ่งพังนะทุกคนน
สกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน : Salicylic Glycolic
Salicylic ไม่ควรใช้คู่กับ Glycolic ด้วยกันอย่างยิ่ง เนื่องจากส่วนผสมสกินแคร์ทั้ง 2 ตัวนี้เป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวทั้งคู่ การใช้กรดซาลิไซลิคพร้อม ๆ กับ กรดไกลโคลิก จะทำให้เราได้รับการผลัดเซลล์ผิวมากเกินความจำเป็น ผิวหน้าของเราที่บอบบางจะทนไม่ไหวแน่นอน ส่งผลให้เกิดอาการผิวลอกง่าย ผิวแห้ง และผิวอ่อนแอระยะยาวได้ด้วย
วิธีการใช้ Salicylic Glycolic ที่เหมาะสม คือการเลือกใช้เพียง 1 ตัวเท่านั้น และควรเว้นระยะในการใช้เพื่อให้ผิวได้พักด้วยค่าา
ก็จบแล้วจ้ากับคู่พิฆาตผิว ส่วนผสมสกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน ที่บอกเลยว่าถ้าเผลอเอามาใช้คู่กัน จากผิวสวยได้กลายเป็นผิวพังแน่ ๆ บางคนอาจเคยใช้ร่วมกันแล้วไม่เกิดความระคายเคือง แต่ทางที่ดีควรเลือกศึกษาผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อน และเรื่องความสวยอย่าใจร้อนจะได้สวยอย่างยั่งยืนนะคะ ♥
เรายังมีบทความน่าสนใจเกี่ยวกับการดูแลผิวอีกนะ ไปอ่านกันได้ที่นี่
IN THIS SECTION
COMMENTS
1 ความคิดเห็น
Violenze_Dezem
ความคิดเห็นที่ 1
จดไว้เลยจะไ่ด้ไม่ใช้ผิด????
6 ธ.ค. 2565 เวลา 8:46 น.
Recommended By *Cosmenet
