เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “ค่า pH บนผิวหน้า” ผ่านหูกันมาบ้างแล้ว ต้องบอกเลยว่าค่า pH มีความสำคัญกับผิวเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นตัวชี้วัดสุขภาพผิวเลยก็ว่าได้ค่ะ วันนี้ *Cosmenet เลยมีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับค่า pH บนผิวหน้ามาฝาก พร้อมพามาหาคำตอบว่าค่า pH ที่เหมาะกับสภาพผิว ควรอยู่ที่เท่าไร? ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเล้ยย~
ค่า pH คืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนค่ะว่า “ค่า pH คืออะไร?” โดยค่า pH ย่อมาจากคำว่า Potential of Hydrogen คือ ค่าแสดงปริมาณความเข้มข้นของไฮโดรเจนไอออน (H+) ในสารละลายที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ใช้ในการบอกระดับความเป็นกรดหรือด่างของสสาร
- ค่า pH ต่ำกว่า 7 คือ สารละลายนั้นมีความเป็นกรด (acidic)
- ค่า pH เท่ากับ 7 คือ สารละลายนั้นมีความเป็นกลาง (neutral)
- ค่า pH สูงกว่า 7 คือ สารละลายนั้นมีความเป็นด่าง หรือเบส (alkaline)
ค่า pH ของผิว คืออะไร?
หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าผิวชั้นหนังกำพร้า หรือผิวชั้นที่อยู่ด้านนอกสุดของเรามีความเป็นกรดอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ซึ่งความสมดุลความเป็นกรด-ด่างของผิวจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4.7 และ 5.75 โดยจะมี Hydrolipid Film หรือฟิล์มเคลือบผิวที่ทำหน้าที่เป็นเกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) จากปัจจัยทำร้ายผิวภายนอก เช่น มลภาวะ อุณหภูมิ และสารเคมี ซึ่งเป็นตัวการทำลายความสมดุลของผิว
ในกรณีที่ค่า pH ของผิวมีความเป็นด่าง จะทำให้เกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติ (Skin Barrier) จะถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวบอบบาง แพ้ง่าย และแห้งเสีย จึงเป็นเหตุผลที่เราควรรักษาสมดุลค่า pH ผิวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดี และไร้ปัญหาผิวกวนใจ
ค่า pH ที่เสียสมดุลเกิดจาก
- อุณหภูมิ สภาพอากาศ และมลภาวะ : ค่า pH หรือค่าสมดุลความเป็นกรด-ด่างของผิวสามารถเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น อุณหภูมิ สภาพอากาศ และมลภาวะ
- เพศ และฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ค่า pH ของผิวเสียสมดุล โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายที่กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผลิตน้ำมันส่วนเกินขึ้นมามากขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความเป็นกรดสูง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผิวของผู้ชายมีแนวโน้มที่จะเป็นกรดมากกว่าผิวของผู้หญิงนั่นเองค่ะ
- ล้างหน้าบ่อยจนเกินไป : การล้างหน้าบ่อยจนเกินไป และใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ทำให้ผิวเสียสมดุลค่า pH โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ SLS หรือสารที่ทำให้เกิดฟอง ซึ่งมีความเป็นด่าง หรือเบสค่อนข้างสูง ทำให้ผิวแห้งเอี๊ยดหลังล้างหน้า
- สารเคมีในเครื่องสำอาง และสกินแคร์ : เครื่องสำอาง และสกินแคร์บางชนิดเมื่อใช้แล้วอาจส่งผลกระทบทำให้ค่า pH บนผิวเสียสมดุล โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน รวมถึงกรดผลไม้อย่าง AHA และ BHA เป็นต้น
ค่า pH ในสกินแคร์ แต่ละชนิดที่ควรรู้
เหตุผลที่สกินแคร์แต่ละชนิดมีค่า pH ที่แตกต่างกัน อาจขึ้นอยู่กับสารออกฤทธิ์ การดูดซึม และการทำงานของสกินแค์ตัวนั้นๆ ต่อผิว เช่น ช่วยปรับสมดุลผิว, ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว, ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว เป็นต้น ถ้าอยากรู้ว่าสกินแคร์แต่ละชนิด ควรมีค่า pH เท่าไหร่? รีบตามมาดูกันเล้ยย
- ผลิตภัณฑ์วิตามินซี (กรดแอสคอบิค) ควรมีค่า pH 2.6-3.2
เรียกได้ว่าเป็นความรู้ใหม่เลยก็ว่าได้ค่ะ สำหรับ “ค่า pH ที่เหมาะกับสภาพผิว” แถมยังได้ความรู้เกี่ยวกับค่า pH ในสกินแคร์แต่ละชนิดด้วย คราวนี้เวลาเลือกซื้อสกินแคร์สาว ๆ อย่าลืมพลิกหลังกล่องเช็กค่า pH กันด้วยน้าค้า จะได้ตอบโจทย์กับปัญหาและสภาพผิวของตัวเอง