รู้มั้ยว่าในหนึ่งปี มีวันพิเศษเพื่อตัวเราเองอยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นวันรักตัวเอง วันคนโสด วันความสุข และหลากหลายวันพิเศษแปลก ๆ ให้เราได้ฉุกคิดถึงความสุขในชีวิตและหัดที่จะรักตัวเองมากขึ้นกว่าที่เคย วันนี้ *Cosmenet เลยจะมาพูดถึงความหมายของ Self Love และวิธีการรักตัวเองเพื่อกลับมาฮีลทั้งร่างกายและจิตใจของเราให้พร้อมใช้ชีวิตแบบแฮปปี้ง่าย ๆ ได้ทุกวัน
และการรักตัวเองแบบง่าย ๆ อย่างแรกเลย คือเริ่มรักตัวเราในแบบที่ตัวเราเป็น รักในรูปร่างของเรา จึงได้ถือกำเนิด “วันงดไดเอทสากล” ขึ้นเพื่อรณรงค์ให้เราพึงพอใจในตัวเองในทุกรูปแบบแม้ไม่ตรง beauty standards ก็ตาม เลยขอถือโอกาสนี้เล่าเรื่องวันงดไดเอทสากลให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันสักหน่อยค่ะ
6 พฤษภาคม : วันงดลดน้ำหนักสากล
สำหรับวันที่ 6 พฤษภาคมของทุกปี จะมี “วันงดไดเอทสากล” (International no diet day) ซึ่งถูกกำหนดขึ้นตั้งแต่ปี 1992 และคนที่ก่อตั้งวันนี้ขึ้นมาก็คือ “แมรี่ อีแวนส์ ยัง” นักจิตบำบัด นักเขียน และนักสิทธิสตรีชาวอังกฤษ ที่ได้เห็นการโฆษณามากมายและพบว่าทุก ๆ กิจการและโฆษณานั้น ผลักภาระเรื่องความอ้วน ความไม่สวยงาม ไปให้ผู้บริโภคมากจนเกินไป เกิดเป็น beauty standard ว่าคนเราจะต้องผอม หุ่นดี ถึงจะเป็นคนที่น่าสนใจ ส่งผลให้เกิดผู้คนที่ลดน้ำหนักผิดวิธี และมีผู้ป่วยภาวะการกินผิดปกติมากขึ้นในอังกฤษ ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นและเป็นผู้รอดชีวิตจากภาวะการกินผิดปกติมาได้
วันงดไดเอทสากล จึงเป็นวันที่รณรงค์ให้คนเห็นถึงความสำคัญของความรู้สึกของตัวเอง ให้เป็นวันที่กินได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องสนใจเรื่องความอ้วนความผอม แต่หันมาจดจ่อกับความสุขในแบบที่ตัวเองเป็นก็เพียงพอ โดยในวันนั้น ผู้คนจะทำอาหารทานที่บ้านกับครอบครัว หรือออกมาทานร้านอาหารที่ผูกโบว์สีฟ้า สัญลักษณ์ของวันงดไดเอท รวมถึงการออกมาแชร์เรื่องราว รูปร่าง และความประทับใจในตัวเองในวันนี้กัน แทบจะเรียกว่าเป็น another Self Love Day เลยก็ว่าได้ค่ะ ;)
Self Love คืออะไร?
Self Love หรือ การรักตัวเอง หมายถึง ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง ที่เกิดจากการที่เราสามารถยอมรับตัวตนของตัวเองทั้งในด้านที่ดี และในด้านที่ไม่ดีได้ เราสามารถที่จะเรียนรู้ตัวตนของตัวเอง และรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง มีความสามารถที่จะดูแลตัวเองในแบบที่ดีต่อร่างกายและจิตใจ รวมถึงการเคารพตัวเองอย่างเหมาะสมอีกด้วย
โดยสามารถอธิบายองค์ประกอบทั้ง 4 ข้อของ Self Love ได้ ดังนี้เลยค่ะ
- การยอมรับตนเอง (Self-Acceptance) : รับรู้ว่าเรามีความดี ความเก่ง ความชอบ ความสวยงามในร่างกายของตัวเอง รวมถึงการยอมรับในจุดบกพร่อง จุดที่แตกต่าง และเข้าใจได้ว่าสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่แย่หรือสิ่งที่ต้องทำให้ตัวเองรู้สึกไม่ดี
- การประเมินคุณค่าในตนเอง (Self-Worth) : เข้าใจว่าเรามีคุณค่าในตัวเอง มีความดีในตัวเอง มั่นใจในตัวเอง และสามารถเติมเต็มความสุขด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอการยืนยันจากคนอื่น
- การให้ความเคารพตัวเอง (Self-Respect) : การตั้งขอบเขตในการใช้ชีวิตว่าเราจะวางตัวแบบไหน กับทั้งตัวเอง และคนรอบข้าง ให้เกียรติตัวเองอยู่เสมอ และสามารถยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็น และสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ โดยไม่คิดดูถูกหรือด้อยค่าตัวเอง
- การดูแลตนเอง (Self-Care) : ใส่ใจในตัวเองทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น การกินอาหารที่ดี การพักผ่อนที่เหมาะสม การออกกำลังกาย และการหางานอดิเรกที่ชื่นชอบ
การรักตัวเองของแต่ละคน จึงมีวิธีคิดและวิธีการที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละคนมีความชอบ พื้นฐานและความต้องการของชีวิตที่แตกต่างกัน *Cosmenet เลยจะมาแนะนำวิธีรักตัวเองที่ถูกต้องขั้นพื้นฐานที่เราควรจะต้องมีในทุกคนกัน!
How to เรียนรู้วิธีการรักตัวเองให้เป็น 101
1. ไม่เปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น : อย่างที่บอกว่าเราจะต้องรู้คุณค่าในตัวเอง และยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้ การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นที่เติบโตมาแตกต่างกันจึงเป็นสิ่งที่ทำแล้วเสียเวลาชีวิตที่สุดอันดับแรก ๆ เลยค่ะ เพราะคนเราเกิดมาก็มีโอกาส ปัญหา และจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน เปรียบเทียบกันในพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกันไปก็ไม่มีทางที่เราจะมีความสุข ถูกต้องมั้ยล่ะคะ?
2. ตั้งเป้าหมายชีวิตที่ตัวเองต้องการ : การมีจุดหมายของชีวิตจะทำให้เรามีบรรทัดฐานความสุขของตัวเอง และเลิกมองว่าเส้นชัยหรือความสำเร็จของคนอื่นก็เป็นเส้นชัยของเราเหมือนกัน เพราะสุดท้ายแล้วแต่ละคนก็ควรมีความสำเร็จในชีวิตแบบที่ตัวเองพึงพอใจก็เพียงพอแล้ว
3. หัดคาดหวังและกดดันตัวเองให้น้อยลง : จริงอยู่ที่การพยายามที่จะพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรค่อย ๆ จับเส้นทางที่ตัวเองถนัด และพัฒนาทีละเล็กละน้อยอย่างสม่ำเสมอ อย่าเฆี่ยนตีตัวเองหรือกดดันตัวเองจนเกินไป สุดท้ายกว่าจะถึงเป้าหมายใจเราสลายไปกี่ครั้งแล้วไม่รู้เพราะคาดหวังในตัวเองและผิดหวังกับตัวเองซ้ำ ๆ ทั้งที่มันไม่ควรเกิดขึ้นเลย
4. อภัยให้ตัวเองเมื่อทำผิดพลาด : พอทำผิด เราจะรู้สึกผิดหรือเสียใจได้ไม่ใช่เรื่องแปลก ขอแค่อย่าต่อว่าหรือก่นด่าตัวเองไม่เลิกรา คนอื่นทำผิดกับเราหรือทำให้เราไม่พอใจ เรายังปล่อยวางได้ พอเราทำผิดพลาดเองบ้าง เราก็ต้องสามารถให้อภัยตัวเองได้โดยง่ายเหมือนกัน จะแบกความหวังและความผิดพลาดไว้ทำไม หนหน้าค่อยแก้ไขใหม่ไม่ให้ผิดซ้ำ ๆ ที่จุดเดิมก็ได้นะ
5. หมั่นชื่นชมตัวเองทุกวัน : ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ชมตัวเองให้บ่อย ๆ จะสามารถเพิ่มความมั่นใจและความสุขในชีวิตได้ แถมทำให้เราโฟกัสเรื่องราวดี ๆ ในแต่ละวันมากกว่าเรื่องแย่ ๆ ได้ด้วยนั่นเอง จากนี้ไป ก่อนจะรอคนอื่นชื่นชมในตัวเรา ให้เราลองชื่นชมตัวเองก่อนเป็นคนแรก ๆ เลยดู แล้วชีวิตจะมีความสุขง่ายขึ้นมากกก
6. อยู่กับปัจจุบันเสมอ : เมื่อเรามีสติ อยู่กับวันนี้ และตอนนี้ จะทำให้เราไม่มัวเสียดายเวลาและความผิดพลาดที่ผ่านไปแล้ว และไม่พะว้าพะวงกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หากตอนนี้เราปกติสุขดี ก็ให้คิดว่าปกติสุขดี อย่าไปคิดขายหน้ากับอดีตที่ผ่านไปแล้ว และอย่าไปเครียดกับสิ่งที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นรึเปล่าดีกว่า เสียเวลามีความสุขไปเปล่า ๆ
7. รู้จักคบคนในชีวิตให้มากขึ้น : การได้รายล้อมอยู่ท่ามกลางคนที่ดี เราย่อมมีพลังงานแง่บวกในชีวิตอยู่เสมอ อย่านำพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่จะต้องเจ็บปวด และอย่ายอมให้ความสัมพันธ์ที่เมื่อก่อนเคยดี แต่ตอนนี้ไม่ดีแล้ว มาฉุดรั้งให้ความสุขของเราลดลง อะไรที่ดีก็เก็บไว้ อะไรไม่ดีแล้วก็ต้องรู้จักตัด แล้วค่อยมาพบกันใหม่ในวันที่ต่างฝ่ายต่างดีขึ้นและเข้ากันได้อีกครั้งก็ไม่สายนะ
8. พูดจาดีกับตัวเองและผู้อื่น : การที่เราหมั่นพูดจากับตัวเองอย่างดีเสมอ จะทำให้เราระมัดระวังในการใช้คำพูดมากขึ้น ไม่ต่อว่าตัวเองแบบพร่ำเพรื่อ และไม่พูดหยาบคายไม่รู้ตัว นอกจากจะเป็นการปรับความคิดให้คัดกรองคำพูดมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างขอบเขตที่เหมาะสมทำให้คนรอบตัวปฏิบัติกับคุณอย่างดีจากคำพูดของคุณนั่นเอง
9. จัดการความรู้สึกให้ถูกต้อง : อย่าทำให้ตัวเองเจ็บปวดกับการระบายอารมณ์แบบผิด ๆ อย่างการชกกำแพง ทำลายข้าวของ สร้างบาดแผลให้ตัวเอง หรือทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นให้เป็นแผลทางใจของทั้ง 2 ฝ่าย แนะนำว่าหากโมโห ให้ลองออกกำลังกาย อย่างการตัดสินใจไปวิ่ง ว่ายน้ำ ชกมวย หรือใช้แรงในการทำสิ่งอื่น ๆ เพื่อให้เราใจเย็นลง เช่น การทำงานบ้าน ล้างจาน ขัดห้องน้ำ พร้อมบ่นกะปอดกะแปดกับตัวเองไปพลาง ๆ จนใจเย็นลง ถ้าหากเศร้า ให้ไปเดินรับลม หาของเผ็ดทานเพื่อคลายเครียด หรือออกจากจุดเดิม ๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้สมองปลอดโปร่งขึ้น อีกวิธีก็เป็นการสื่อสารออกมา อย่างการระบายกับคนสนิท หรือจดระบายลงในไดอารี่และโน๊ตในมือถือของตัวเอง เผื่อถ่ายทอดพลังงานลบไปที่อื่นและทิ้งมันไปซะ ใจเราจะได้เบาสบาย ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องแย่ ๆ อีก
10. ดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก : คอยสังเกตร่างกายและสุขภาพตัวเองเสมอ เพื่อปรับอาหารการกินให้เหมาะสมกับวัยของเรา สุขภาพแข็งแรงจะทำให้เราอารมณ์ดีและสมองปลอดโปร่ง และอย่าลืมสำรวจสภาพผิวสภาพผมให้ดูสะอาดสะอ้านอยู่เสมอ อาจไม่ต้องหล่อหรือสวยตรงตาม beauty standard แค่ความสะอาด และการแต่งตัวที่เหมาะสมตามโอกาสต่าง ๆ ก็สามารถทำให้เรามีบุคลิกดีขึ้นได้แล้ว
จะเห็นได้ว่าวิธีการรักตัวเองมีหลักง่าย ๆ คือการคิดดี พูดดี ทำดี กับตัวเองก่อนเป็นคนแรก ๆ เมื่อเรารักตัวเองได้ถูกต้อง เราจะรักและให้เกียรติคนอื่นได้ถูกต้อง และคนอื่นก็จะรักและให้เกียรติเราได้ถูกต้องตามแบบฉบับที่เราเป็นตัวตนของเราเช่นกัน ใครอยากให้อธิบายเรื่องนี้เพิ่มเติมในส่วนไหน ก็คอมเมนท์มาได้เลยน้าาา ~
สำหรับคนที่ยังรักตัวเองไม่ไหว ยังมูฟออนจากการรักคนอื่นไม่ได้ ต้องอ่านนี่!